นายกฯ หนุนงบ "สภาเด็กและเยาวชน"


           นายกฯ หนุนงบ "สภาเด็กและเยาวชน"

            ผมได้เล่าไปแล้วเมื่อวานเรื่องการประชุม "คณะกรรมการส่งเสริมและพํฒนาเด็กและเยาวชนแห่งชาติ" ที่ผมเป็นหนึ่งในกรรมการที่เข้าร่วมประชุม โดยมี พณฯ นายกรัฐมนตรีเป็นประธานในที่ประชุม โดยได้เล่าประเด็นเกี่ยวกับ "นายกรัฐมนตรี หนุนศูนย์พัฒนาเด็กในสถานประกอบการ" (เปิดอ่านก่อนหน้านี้ได้ครับ)
            คราวนี้ ผมยกอีกประเด็นที่เป็นมติจากที่ประชุมคือ เรื่องการสนับสนุนสภาเด็กแลพะเยาวชน  เพราะปัจจุบันมีสภาเด็กและเยาวชนอยู่ 3 ระดับด้วยกันคือ
           1. สภาเด็กและเยาวชนอำเภอ ได้งบสนับสนุนปีละ 10,000 บาท/อำเภอ
           2. สภาเด็กและเยาวชนจังหวัด ได้งบสนับสนุนปีละ 150,000 บาท/จังหวัด
           3.สภาเด็กและเยาวชนแห่งชาติ  ได้งบสนับสนุนปีละ 500,000 บาท
           งบประมาณนี้เป็นงบสำหรับปี 2554 ซึ่งจากการศึกษาวิจัยของ รศ.ดร.สมพงษ์ จิตระดับ อาจารย์คณะครุศาสตร์ จุฬาฯ และจากการประชุมของกรรมการสภาเด็กและเยาวชนที่มาจากผู้แทนทั่วประเทศ  พบว่างบประมาณที่รัฐสนับสนุนนั้น เมื่อนำมาเทียบกับกิจกรรมที่ดำเนนิการผ่านมาในปี 2552 และปัจจุบัน  พบว่าน้อยจนไม่สามารถทำให้กิจกรรมของเยาวชนเดินหน้าไปได้ตามเป้าหมายและเจตนารมณ์ของกฎหมาย 
           ท่านนายกรัฐมนตรีและคณะกรรมการ เห็นพ้องต้องกันว่า งบประมาณนั้นให้น้อยเกินไป จึงมีมติให้ส่วนราชการที่ดูแลคือกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ไปจัดทำรายละเอียดเพิ่มเติมงบประมาณให้มากขึ้นตามภาระที่กฎหมายกำหนดไว้  แล้วจะหาทางประสานของบประมาณเพิ่มเติมให้จากส่วนกลางและจากองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นต่อไป (ผมหวังว่าจะได้มากขึ้นเป็น 3 เท่าของงบที่ได้)
           นี่คืออีกมิติหนึ่ง ที่ชัดเจนว่าคนระดับนายกรัฐมนตรีคนนี้ ใส่ใจและสนับสนุนกิจกรรมของบรรดาเด็กและเยาวชนอย่างมาก
            ขอปรบมือให้

 

หมายเลขบันทึก: 366013เขียนเมื่อ 12 มิถุนายน 2010 11:41 น. ()แก้ไขเมื่อ 12 กุมภาพันธ์ 2012 14:38 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (7)

ขอบคุณค่ะท่านที่เห็นความสำคัญของเยาวชนค่ะ แล้วจะลงสู่ถึงลานกีฬาต้านยาเสพติดไหมค่ะ ..อยากให้สานต่อถึงท้องถิ่น อบต. เยาวชนมีบทบาทมากค่ะ

ขอบคุณท่านผู้ใหญ่ใจดี..ค่ะที่เห็นความสำคัญของเด็กๆ ตอนนี้ที่โรงเรียนบ้านสุวรรณภูมิ จ.กำแพงเพชร ร่วมกับหน่วยงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์.....จังหวัดร่วมมือกับอบต.ท่าขุนรามได้จัดอบรมเยาวชนอาสาพัฒนาสังคมฯในวันที่ 12-13 มิ.ย.53 เพื่อให้เด็กๆได้รู้และตระหนักถึงการมีส่วนร่วมในสังคม ....เด็กดีในวันนี้..คือผู้ใหญ่ที่ดีในวันข้างหน้า...อนาคตของชาติอยู่ในมือของทุกๆคนนะค่ะ....ต้องช่วยกันค่ะ ขอบพระคุณท่านจากใจจริง

คุณ rinda ครับ เป็นเรื่องเดียวกันก้ได้ เรื่องอื่นก็ได้ ตามแต่สภาเด้กและเยาวชนแต่ละแห่งจะจัดการขึ้นครับ

คุณเกศิณี ครับ ดีมากครับที่หลายฝ่ายช่วยกันสนับสนุนและสร้างสรรค์บทบาทของเยาวชน ทำเถิดครับเพราะวันข้างหน้าพวกเขาต้องมารับผิดชอบสังคมและบ้านเมืองประเทศร่วมกับเราและแทนที่เราครับ

เรียน ครูหยุย

ก่อนอื่นของกราบสวัสดีครูก่อนน่ะครับ ผมเคยมีโอกาสไปบ้านครูที่หลักสี่ มาแล้วด้วย แต่นานมาก

ผมว่าเรื่องงบประมาณสภาเด็กแม้มีความจำเป็นต่อการพัฒนาศักยภาพเยาวชนในอนาคต

แต่รัฐก็ยังคงให้ความสำคัญน้อยมากๆ (ทำเฉพาะเรื่องที่มีผลประโยชน์ ต่อตนเองและพวกพ้องมากกว่า)

ผมว่าควรกำหนดเป็นกฎหมาย โดยเฉพาะงบของท้องถิ่น เช่น อบจ. อบต. ไปเลย ว่าในปี หนึ่งๆ ต้องกันงบประมาณในส่วนของการพัฒนาเยาวชนในแต่ละพื้นที่ กี่เปอร์เซนต์ มีหน่วยงานติดตามประเมินผล ว่าทำจริงจังแค่ไหน หน่วยงานไหนไม่ทำให้มีการระบุ

ฐานความผิดไว้เลย เช่น ถูกลดงบประมาณลง หรืออื่นๆ ให้เยาวชนในท้องถิ่นออกมาเรียกร้องสิทธิที่ควรจะได้ โดยมีองค์กรเพื่อเด็กเป็นแกนนำในการให้ความรู้ ผมว่า สภาเด็กที่เราต่างคาดหวังน่าจะดีขึ้น ผมว่ายังมีวิธีการต่างๆ อีกมากมาย ต้องสร้างกระบวนการเรียกร้องสิทธิ์ให้แก่เด็ก ผมว่าอะไรคงจะดีขึ้นน่ะครับ

ด้วยความปรารถนาดีจาก

นายรักษ์ ปริกทอง

ชมรมคลังปัญญา

ขอบคุณมากครับคุณรักษ์สำหรับการมาเยี่ยมเยียนและข้อเสนอแนะ จะนำไปเสนอและหาทางขยายความคิดให้กว้างไกลออกไปนะครับ

เรียนครูหยุย

ประเด็นเรื่องงบประมาณสนับสนุนสภาเด็กและเยาวชน ปัจจุบันกิจกรรมสภาเด็กและเยาวชนจะต้องสร้างกระแสให้สังคมเข้าใจว่าเป็นเรื่องที่ทุกภาคส่วนจะต้องเข้ามามีส่วนร่วมให้มากขึ้นแบบบูรณษการอย่างแท้จริงให้ได้ เนื่องจากเป็นกิจกรรมเกี่ยวข้องกับการแก้ไขปัญหายาเสพติดโดยตรง ซึ่งเป็นวาระแห่งชาติที่ทุกภาคส่วนต้องเข้ามามีส่วนร่วมอย่างแท้จริง ประเด็นสำคัญคือว่าถ้าหากสภาเด็กและเยาวชนแห่งใด(จังหวัด/อำเภอ/ตำบล/หม่บ้าน)มีการประเมินจากหน่วยงานกลาง(ต้องมีการกำหนดขึ้นมาให้ชัดเจนในระดับจังหวัด)ว่ามีผลการดำเนินกิจกรรมอย่างเข้มแข็ง ด้วยพลังแนวความคิดของเด็กและเยาวชนนั้นอย่างแท้จริง หน่วยงานที่เกี่ยวข้องในระดับพื้นที่ ควรให้การสนับสนุนงบประมาณ(จากงบพัฒนาจังหวัด/กระทรวง /องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น/องค์กรเอกชน ) ทั้งนี้โดยใช้หลักการว่า "ทำดีแล้วต้องได้รับสนับสนุนและส่งเสริมด้านขวัญและกำลังใจอย่างจากทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องด้วยความจริงใจ"เพื่อเป็นการกระตุ้นกิจกรรมสภาเด็กและเยาวชน ทั้งนี้ มีความเห็นว่า ในเบื้องต้นนี้ รัฐบาลอาจจะมอบหมายให้สำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัด หรือเครือข่ายในระดับจังหวัดที่มีประสิทธิภาพใดก็ได้ และผู้ว่าราชการจังหวัดประกาศให้เป็นศูนย์ประสานงานเรื่องการขึ้นทะเบียน กล่มเด็กและเยาวชน จัดกิจกรรมเชิงบวก(รวมทั้งสภาเด็กและเยาวชน) เพื่อให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องในพื้นที่ใช้ข้อมูลดังกล่าว ในการติดตาม อีกทางหนึ่ง และสามารถประสานงานมอบหมายภารกิจที่สอดคล้องกับกิจกรรมของกลุ่มเด็กและเยาวชนได้ตรงเป้าหมาย ทั้งนี้การให้ความสำคัญกับการจัดกิจกรรมของกล่มเด็กและเยาวชนจะช่วยแก้ไขปัญหาเด็กและเยาวชนวัยร่นก่อความไม่สงบในภาพรวมได้ด้วยครับ

ความคิดของ ป.โก๋ น่าสนใจมาก ตรงกับหลักการวิจัยที่ รศ.ดร.สมพงษ์ จิตระดับ จากคณะครุศาสตร์ จุฬาฯ ศึกษาไว้ แล้วจะพยายามนำความคิดนี้ไปขยายผลต่อนะครับ ว่าแต่ทำไมนอนดึกนัก ระวังจะมีปัญหาสุขภาพตามานะ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท