เรื่องเล่า รับฟังอย่างลึกซึ้ง..ประตูสู่หัวใจ


การรับฟังอย่างลึกซึ้งจะช่วยคลี่คลายความทุกข์ ความกังวล ความสันสน ท้อแท้ใจ ฯลฯให้กับผู้ป่วย รวมทั้งเป็นการเยียวยาจิตใจ

อีกหนึ่งผลงานเรื่องเล่าที่ถ่ายทอดจากเจ้าหน้าที่ห้องฉุกเฉิน ค่ะ

รับฟังอย่างลึกซึ้ง...ประตูสู่หัวใจ 

                            เวรบ่าย....วันนี้เป็นงานบุญเดือนสาม  หลายๆหมู่บ้านในอำเภอสีชมพูของเรา  ได้ถือปฏิบัติสืบต่อวัฒนธรรมอันดีงามกันมาเป็นเวลายาวนานจากอดีตจนถึงปัจจุบัน  มีงานบุญเมื่อไหร่ ทุกวันนี้ดูเหมือนจะเป็นธรรมเนียมไปแล้ว(หรืออย่างไร)   เพราะต้องมีการสังสรรค์ กินและดื่มสุราจนขาดสติ    เมามายจนเกิดอุบัติเหตุ  อีกทั้งมีเรื่องชกต่อยฆ่าฟันกันขึ้นเป็นประจำ  แล้วจะได้บุญกันอย่างไร......  ถ้าพฤติกรรมเหล่านี้.....ไม่เปลี่ยน   เทศกาลงานบุญเมื่อไหร่  ER รับเละ ทุกที

                            เตียงที่1  เตียงที่ใช้ทำหัตถการล้างแผลเย็บแผล   วันนี้ไม่มีโอกาสได้ว่างเว้น  มีผู้ป่วยอุบัติเหตุสลับสับเปลี่ยนขึ้นลงตลอด

                            ประมาณสองทุ่ม   ผู้ป่วยอายุราวๆ 30 ปีเศษ  รูปร่างสันทัด ผิวคล้ำ  ตัดผมลองทรง  เธอเป็นหญิงที่มีหัวใจเป็นชาย(ทอม)     มีแผลแตกที่ศีรษะมีคราบเลือดแห้งติดที่เส้นผมเกรอะกรัง  เบ้าตาขวาและโหนกแก้มแดงช้ำจากการถูกกระแทก  เธอนั่งบนเตียง ไม่ยอมนอนลง  พูดสบถด่าตลอดเวลาด้วยความโกรธ  แค้นโมโหสุดขีด  บวกกับฤทธิ์สุราที่ดื่มเข้าไปมากจนขาดสติ   “มันเฮ็ดจังซี่ ได่ จังได”  มัน ๆ ๆ  และมัน....ไม่เว้นช่วงและช่องว่างให้ข้าพเจ้าได้ซักถามและประเมินอาการ   ข้าพเจ้าจึงได้แต่เงียบและรับฟังอย่างอย่างตั้งใจ  ขณะเดียวกันก็พยายามผ่อนคลาย เพื่อไม่ให้ตนเองมีอารมณ์ร่วมไปกับคำสบถด่า  พยายามรวบรวมอารมณ์ปัจจุบันให้เป็นหนึ่งเดียว  รับฟังไปด้วยหัวใจที่เปี่ยมไปด้วยความรักและเมตตาอย่างไม่มีเงื่อนไข  ฟังอย่างใส่ใจและสัมผัสได้ถึงอารมณ์  ความรู้สึก ความต้องการที่แอบซ่อนอยู่เบื้องหลังคำพูด.....  10 นาทีผ่านไป   เธอค่อยมีอาการผ่อนคลายลง  เมื่อได้ระบายและพูดในสิ่งที่อยากพูดออกไปแล้วบางส่วน  ข้าพเจ้าจึงได้ซักถาม  ได้ความว่า  เธอได้นั่งดื่มสุรากับเพื่อนซึ่งเป็นผู้ช่วย  .....ไม่ทราบว่าพูดอะไรไม่ถูกใจ จึงถูกทุบศรีษะด้วยขวด  เธอได้ลุกขึ้นต่อสู้จึงถูกชกต่อย เตะถีบ ที่เบ้าตา โหนกแก้มและถลอกปลอกเปิกตามร่างกาย  ญาติเห็นศรีษะแตกจึงนำส่งโรงพยาบาล                              

                             ข้าพเจ้าได้พยายามพูดคุยด้วยความเป็นกันเอง ซักถามเรื่องอื่นๆทั่วไป  เพื่อเบี่ยงเบนความสนใจ และเพื่อบรรเทาความทุกข์ในใจที่บีบคั้น   จนบางครั้งไม่สามารถระงับได้ จำต้องระบายออกทางปาก....ด้วยคำพูดที่ก้าวร้าวนานๆครั้ง   แต่เธอยังคงให้ความร่วมมือด้วยดีในการล้างและเย็บแผล    เธอเริ่มเงียบ อาจเพราะหมดเรื่องจะระบายหรือเพราะเหนื่อย   ข้าพเจ้าจึงได้ซักถามทบทวนถึงความหลัง  เมื่อครั้งยังดีๆกับเพื่อนอยู่   เธอได้แต่นิ่ง เงียบ  ดูซึม และเริ่มมีน้ำตาไหล    ความรู้สึกคงบีบคั้นปะปนกับความสับสนและน้อยใจ   แต่ตอนนี้เธอไม่อาจพูดออกมาป็นคำพูดได้

                           ข้าพเจ้าและน้องเวรบ่ายER ได้ช่วยกันดูแลบาดแผลทางกาย   ให้ยา ให้คำแนะนำก่อนจำหน่ายกลับบ้าน    เธอยกมือไหว้ขอบคุณและเดินออกจากER อย่างสงบ ....ดูเหมือนบาดแผลในใจเธอได้รับการเยียวยาไปด้วยแล้ว.

                  

 

                 

ปล.    การรับฟังอย่างลึกซึ้งจะช่วยคลี่คลายความทุกข์  ความกังวล  ความสันสน  ท้อแท้ใจ  ฯลฯให้กับผู้ป่วย  รวมทั้งเป็นการเยียวยาจิตใจ  เพราะความรู้สึกของเขาได้รับการยอมรับ  โอบอุ้มดูแลเข้าใจและให้เกียรติ   การฟังอย่างลึกซึ้งเป็นเหมือนกระจกช่วยสะท้อนให้เขาเห็นความคิด  ความรู้สึกและปัญหาของตนเองชัดขึ้น   จึงเกิดสติและอาจเกิดปัญญามองเห็นทางออกด้วยตนเอง   โดยไม่ต้องมีใครช่วยเหลือก็เป็นได้

                                       ศิริพร (ER )

หมายเลขบันทึก: 365799เขียนเมื่อ 11 มิถุนายน 2010 16:26 น. ()แก้ไขเมื่อ 6 กันยายน 2013 23:03 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (2)

ฟังแล้วน่าปวดหัวดีแท้....แต่ดีครับ...ช่วยคนได้บุญเยอะ ...หุหุ

สวัสดีค่ะ คุณเส้าหลง อยู่ ER ต้องรับได้กับทุกสถานการณ์ น่าเห็นใจเจ้าหน้าที่มากค่ะ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท