ในหน่วยงานของกรุงเทพมหานคร เรื่องที่เป็นประเด็นเด่นของเจ้าหน้าที่ที่ทำงานด้านการบริหารงานบุคคล คงหนีไม่พ้นเรื่องของการขอกำหนดอัตรากำลัง ไม่ว่าจะเป็นของคนเพิ่มใหม่ในหน่วยงานใหม่ หรือขอคนเพิ่มเติมให้หน่วยงานที่มีคนปฏิบัติงานอยู่แล้ว ในการปฏิบัติงานด้านนี้ เจ้าหน้าที่วิเคราะห์งานบุคคล ได้ใช้แนวทางการคิดวิเคราะห์เพื่อกำหนดจำนวนตำแหน่งจากหน่วยงานที่เป็นต้นแบบของราชการทั้งหมดในประเทศไทย นั่นคือ ก.พ. นั่นเอง
สำหรับในบันทึกนี้และอีกหลาย ๆ บันทึกต่อไป ผมจะได้สรุปความรู้ที่ได้จากการอ่านหนังสือ คู่มือ หรือตำราที่พี่ ๆ วิเคราะห์ ได้นำมาใช้และถือปฏิบัติกันอยู่ มาบันทึกไว้ ส่วนหนึ่ง ก็จะเป็นการทบทวนสิ่งที่อ่านตามความเข้าใจของตนเอง และอีกส่วนหนึ่ง ถ้ามีคนได้อ่านก็จะเข้าใจแนวทางไปพร้อมกัน ด้วย
การวิเคราะห์เพื่อการกำหนดจำนวนตำแหน่ง
เป็นการกำหนดว่าในหน่วยงานหรือส่วนราชการหนึ่งจะมีตำแหน่งใดอยู่จำนวนเท่าใด จะเป็นการกำหนดขึ้นใหม่ หรือเพิ่มเติมจากเดิมก็ได้
ขั้นตอนการวิเคราะห์เพื่อการกำหนดจำนวนตำแหน่ง มี 3 ขั้นตอน ดังนี้
ขั้นตอนที่ 1 การสำรวจและวิเคราะห์ข้อมูลและปัญหาเกี่ยวกับกำลังคนในปัจจุบัน เพื่อจะได้ทราบลักษณะโครงสร้างของกำลังคนปัจจุบัน หรือเป็นการชี้ให้เห็นปัญหาที่เกิดจากลักษณะโครงสร้างของกำลังคน และเป็นพื้นฐานในการกำหนดนโยบายและแผนกำลังคนต่อไป
ประเภทของข้อมูลที่ทำการสำรวจและวิเคราะห์
1. ข้อมูลทั่วไปเกี่ยวกับกำลังคน (ของบุคคล)
2. ข้อมูลเกี่ยวกับความเคลื่อนไหวของกำลังคน เช่น การบรรจุ การเลื่อน/ปรับตำแหน่ง การโอน การลาออก ฯ
3. ข้อมูลอื่น ๆ ที่จำเป็นในการวิเคราะห์เพิ่มเติม
ขั้นตอนที่ 2 การวิเคราะห์การใช้กำลังคน วิเคราะห์ว่าปัจจุบันใช้กำลังคนได้เหมาะสมหรือไม่ ตรงไหนใช้คนเกินกว่างาน หรือคนขาดแคลนส่วนใด เพื่อนำข้อมูลมาใช้ในการกำหนดจำนวนคนให้เหมาะสม และเป็นแนวทางในการปรับปรุงการบริหารงานให้เหมาะกับสภาพแวดล้อม และเพิ่มประสิทธิภาพของคนในองค์การ
แนวทางการวิเคราะห์การใช้กำลังคน 10 ประการ
1. มีการกำหนดหน้าที่ความรับผิดชอบของตำแหน่งต่าง ๆ หรือไม่
2. นโยบายและโครงสร้างเป็นอุปสรรคในการปฏิบัติงานหรือไม่
3. ปริมาณงานของเจ้าหน้าที่เหมาะสมหรือไม่ งานใดควรเพิ่มงานใดควรลด
4. ศึกษาดูว่ามีผู้ดำรงตำแหน่งที่มีคุณวุฒิไม่เหมาะสมกับภารกิจหน้าที่ และควรมอบให้ใครดำเนินการแทน
5. สำรวจการใช้ลูกจ้างว่าทำงานได้เต็มที่หรือไม่ มอบหมายงานเพิ่มได้หรือไม่
6. การจัดหน่วยงานและขั้นตอนวิธีการปฏิบัติงานมีประสิทธิภาพ ประหยัดและรวดเร็วหรือไม่
7. เจ้าหน้าที่มีความรู้ ความชำนาญงานและความสามารถเหมาะสมกับงานหรือไม่
8. ควรจัดฝึกอบรมเจ้าหน้าที่ในเรื่องใดเพื่อให้มีความสามารถ/ทักษะเหมาะกับงานปัจจุบันและงานอนาคต
9. มีการใช้คนเต็มที่หรือไม่ มีการมอบหมายและควบคุมงานเหมาะสมหรือไม่
10. สร้างมาตรการและสิ่งจูงใจเพื่อช่วยเพิ่มปริมาณงานและประสิทธิภาพงานอย่างไร
ขอจบไว้ที่ 2 ขั้นตอนก่อน เนื่องจาก ขั้นตอนที่ 3 มีเนื้อหาค่อนข้างเยอะครับ
ไม่มีความเห็น