หนึ่งในความทรงจำที่ประทับใจ


ผมเข้าใจคำว่า คุณค่าของงานที่ทำมากกว่าตำแหน่งหน้าที่ได้รับมอบหมายให้ทำ

วันนี้ลองมาพบกับเรื่องเล่าของเจ้าหน้าที่ในโรงพยาบาลของเราที่ได้เขียน

เรื่องเล่าส่งเข้ามาบ้างนะคะ  เรื่องนี้ เป็นเรื่องของคุณน้าคนงานที่ WARD ค่ะ

              หนึ่งในความทรงจำที่ประทับใจ

                ตลอดระยะเวลาการทำงานของผมที่โรงพยาบาลสีชมพู  เกือบครึ่งหนึ่งของชีวิตของผมอยู่ที่โรงพยาบาลเป็นส่วนใหญ่ทำให้ผมใกล้ชิดคนไข้จนบางครั้งรู้สึกว่ามันมากกว่าอยู่ที่บ้านด้วยซ้ำไป   แต่มันก็เป็นความทรงจำที่ดีงามและความภาคภูมิใจของผมที่ได้มีส่วนร่วมในการดูแลผู้ป่วย  

      และเรื่องที่ผมจะเล่าในวันนี้เป็นหนึ่งในพันเรื่องราวที่ประทับใจในการดูแลคนไข้    ผู้ป่วยเพศหญิง   เป็นชาวเวียดนาม  พูดไทยได้ไม่ชัดเจนแต่สามารถสื่อสารเข้าใจ    ป่วยเป็นมะเร็งระยะสุดท้าย  สภาพแรกที่ผมเจอเป็นเพศหญิงรูปร่างผอม  เป็นมะเร็งที่ศีรษะคล้ายกับว่ามีเนื้องอกออกจากศีรษะเป็นอีก 1 ศีรษะสภาพน่าเกลียดน่ากลัว มีแผลที่ศีรษะงอกออกมาใหม่ แผลลึกเห็นถึงเนี้อสมอง  บางครั้งที่พยาบาลทำแผลผมเห็นแผลมีหนอนออกมาด้วย 

    และเรื่องกลิ่นนี้ไม่ได้ต้องพูดถึงเหม็นมากครับ  อะไรที่เป็นสาเหตุให้ผมประทับใจคนไข้รายนี้เพราะ  คนไข้รายนี้มีญาติก็เหมือนไม่มีเพราะมีเฉพาะญาติฝ่ายสามีเท่านั้นที่นานทีมาเยี่ยม  ส่วนสามีนั้นทำงานที่กรุงเทพมหานคร  นานๆมาเยี่ยมเช่นกันและเน้นว่าเยี่ยมดังนั้นจึงแป๊บๆก็กลับ  การเปลี่ยนเสื้อผ้า   เช็ดตัว   เก็บถ่าย  เช็ดขี้เช็ดเยี่ยวจึงเป็นหน้าที่ของผมแรกๆที่ผมทำผมก็ไม่ได้ใสใจอะไร  ทำไปเรื่อยๆตามหน้าที่   ผมไม่ชอบเลยคนไข้ที่ไม่มีญาติมาดูแล  ทำให้ผมต้องทำงานหนักเพิ่มขึ้น    แค่ต้องดูแลคนไข้ทั่วไปงานก็หนักพอควรอยู่แล้ว     เบื่อมากๆที่ต้องดูแลคนไม่มีญาติ  

      กระทั่งวันหนึ่ง  วันนั้นเป็นวันกำหนดจุดเปลี่ยนของผมเองเลยก็ว่าได้   วันนั้นเป็นเวรเช้าคนไข้ไม่เยอะ  ประมาณ  15  คน งานไม่ยุ่งมาก  ผมจึงมีเวลาดูแลคนไข้อย่างเต็มที่  เริ่มแรกผมต้องไปเช็ดอึ  พร้อมเปลี่ยนเสื้อผ้าให้คนไข้   ผมไม่รีบทำไปอย่างช้า ๆ  ทำให้ผมมีเวลาคิดไปต่างๆนานาว่า  เอ่ .. หากคนที่นอนอยู่แล้วเป็นเรา  ญาติพี่น้องเขาจะรู้สึกอย่างไรนา  ที่เหมือนกับนอนรอวันตาย ไม่มีคนมาดูแล  ต้องนอนหมกอยู่กับเยี่ยวที่เปียกชุ่มพร้อมกลิ่นอันไม่น่าโสภี  

     บางครั้งต้องนอนพร้อมอุจจาระของตนเอง   รอให้คนมาเปลี่ยนเสื้อผ้าให้  จะกดออดเรียกเจ้าหน้าที่ก็ไม่ได้เพราะขยับไม่ได้เลย  ต้องให้เจ้าหน้าที่เดินผ่านไปแล้วได้กลิ่นจึงมาเปลี่ยนให้  หรือญาติผู้ป่วยเตียงข้างๆกันเรียกเจ้าหน้าที่ให้  และเผื่อผมจะมาเปลี่ยนให้ต้องใช้เวลานาน 

    บางครั้งก็เช็ดไปทำหน้าที่ไม่ได้ใส่ใจ  ทำแรงๆ เร็วๆ  ไม่ละเอียด  ทำพอให้รู้ว่าทำเท่านั้น  ผมคิดว่าผมไม่อยากเป็นแบบนั้นเลยไหนๆผู้ป่วยรายนี้ก็ไม่มีญาติอยู่แล้ว  ผมจึงคิดว่า   “เอ้าคิดซะว่าแกเป็นญาติของผมก็แล้วกัน   ต่อไปผมจะเปลี่ยนเสื้อผ้าให้แกด้วยความนุ่มนวล  ตั้งใจทำอย่างเต็มที่   ทำดีๆ  และขอให้ผลบุญที่ผมทำให้แกในวันนี้ส่งผลให้ผมได้เจอแต่สิ่งดีงามในชีวิตแล้วกัน”   ผมจึงอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้า  ทาแป้งให้แก   ปูเตียงให้ใหม่  จัดสิ่งแวดล้อมรอบเตียงให้สะอาดสะอ้าน 

    เมื่อผมทำเสร็จแล้วได้ยืนมองพบว่า  มีน้ำใสๆไหลออกจากดวงตาที่หลับตลอดเวลาของแกถึงแม้ว่าคนไข้จะพูดไม่ได้แต่ผมก็รับรู้ว่าแกคงจะขอบคุณผมนั้นเอง   และผมก็พบว่าเมื่อทำงานเสร็จคนไข้สะอาด  สิ่งแวดล้อมน่าอยู่  อะไรๆมันก็ดีขึ้น เรียนรู้ว่างานที่ผมทำอยู่มันมีความสำคัญกับคนไข้ ทำให้คนไข้มีความสุขความสบายทางกายได้  ผมภูมิใจในสิ่งที่ผมทำมาก  แต่ก่อนคิดเสมอว่าเป็นงานที่น่าเบื่อหน่าย  ไม่ได้สูงเด่นเหมือนใคร 

   แต่วันนี้ผมเข้าใจความหมายของคุณค่าของงานที่ทำมากกว่าตำแหน่งหน้าที่ได้รับมอบหมายให้ทำ  งานทุกงานมีความสำคัญ  ผมภูมิใจที่เป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้คนไข้สุขสบาย  สำหรับเธอคนนี้ปัจจุบันได้เสียชีวิตที่หอผู้ป่วยในนานแล้ว  แต่ผมยังจดจำเรื่องราวของเธอได้เป็นอย่างดี    ผมขอขอบคุณเธอที่ทำให้ผมเห็นคุณค่าของงานที่ทำ   และทำให้ผมเข้าใจความหมายของการดูแลผู้ป่วยด้วยหัวใจความเป็นมนุษย์

                                           สมบูรณ์   หอผู้ป่วยใน

หมายเลขบันทึก: 362927เขียนเมื่อ 1 มิถุนายน 2010 14:50 น. ()แก้ไขเมื่อ 6 กันยายน 2013 23:00 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท