ภูเก็ต


เห็นภาพตอนแรกนึกว่าต่างประเทศ

ที่เที่ยว:ภูเก็ต…เมืองเก่าเล่าเรื่อง…

 

สวัสดีครับ

กลับมาวันสุดท้ายของทริบอันดามันแล้ว ทริบล่องทะเลใต้หนนี้จะไม่สมบูณ์อย่างที่เราตั้งใจไว้ได้เลยถ้าขาดเกาะสุดท้ายอย่าง เกาะภูเก็ต ผมเองมีโอกาสมาภูเก็ตหลายๆครั้ง ทุกๆครั้งต้องพักหาดใดหาดนึงเสมอ หนนี้หลังเที่ยวทะเลอันดามันจนช่ำใจแล้ว เราอยากเที่ยวชมสถาปัตยกรรมเก่าแก่สไตล ์ชิโน-โปรตุกีส แสนเท่และหาดูหาชมได้ยากมากที่จะมีให้ได้เพลิดเพลินเท่าที่นี้ มาครับมา…มาเดินเที่ยวชมยลเมืองเก่าแสนงามแห่งนี้กันดีกว่า

ชมภาพตึกเก่าและแหล่งท่องเที่ยวสำคัญของเมืองทั้งหมดใส่ gallery ไว้แล้วชมได้ตามอัธยาศัยครับ

http://blog.one22.com/pics/longtrips/andaman_sea/gallery_phuket_townตอนที่แล้วเราพาเที่ยวจนถึงหมู่เกาะสุรินทร์ดินแดนแห่งปะการังใต้ท้องทะเลไปแล้ว

ที่เที่ยว:หมู่เกาะสุรินทร์…The spirit of sea

(ภาพจากเว็บไซต์ http://www.phukhao.com/)

การเดินทางมาภูเก็ตมีหลายทางทั้งรถทัวร์ เครื่องบิน ถ้าคุณเลือกมาลงเครื่องที่สนามบินภูเก็ตและมาถึงหลัง 3 ทุ่มไปแล้ว ถ้าไม่จองรถเช่าไ้ว้ ก็จะมีการเดินทางอีก 2 ทางที่จะพาคุณไปยังตัวจังหวัดหรือโรงแรมตามหาดที่คุณจองไว้ได้ คือรถตู้ปรับอากาศที่จอดเป็นคิวไว้ด้านทางออก หรือไม่ก็ taxi สำหรับแบบแรกจะต้องรอจนรถเต็มแล้วจึงจะออกได้ เฉลี่ยก็คือ 10 คนขึ้น นั้นเอง สำหรับ taxi นั้นถ้าคุณใช้บริการtaxi meter ก็สามารถเดินออกประตูมามองไปทางขวาจะเห็นมีป้ายบอกจุดรอรถ taxi meter บอกไว้ราคาก็ว่ากันตามระยะทางแต่จะมีการ ชารต์จากมิเตอร์เพิ่มนับจากรถออกผมจำไม่ได้ว่าเท่าไหร่นะครับแต่คุ้นๆว่า เกิน 70บาทแล้วละครับ สำหรับ taxi อีกแบบจะมายืนออดักนักท่องเที่ยวคอยทักเราว่าจะไปกับเค้าไหม ส่วนใหญ่แบบนี้จะเป็นการเหมาครับไม่เกี่ยวใดๆกับ taxi meter สนนราคาว่ากันไปตามหาด เช่นเข้าเมืองก็ 500บาท ไปหาดป่าตองก็ 6-700 ขึ้นเรียกว่าแพงกันสุดๆไปเลย เนื่องจากสนามบินเองอยู่ห่างจากเขตเมืองก็ร่วมๆ 30กว่ากิโลฯแล้ว แต่ผมก็ว่ามันแพงมากๆอยู่ดี เป็นไปได้ถ้ารอไหวก็รอรถตู้ดีกว่าครับ ช้าแต่ประหยัดกว่าเพราะจะตกคนล่ะ 80 บาทเท่านั้นครับ(ราคาไม่แน่นอนขึ้นอยู่กับราคาน้ำมันในเวลานั้นนะครับ)

หลังรับรถเช่าที่สนามบินและขับเข้ามาพักกันในเมืองภูเก็ตเช้าวันรุ่งขึ้น เราจึงเริ่มต้นท่องเที่ยวกันตามแผนที่วางไว้ เราเริ่มต้นการสำรวจเมืองเก๋ๆกันที่หน้าโรงแรมเก่าแก่ที่สุดของเมืองภูเก็ต โรงแรม ออน ออน

โรงแรมสไตล์ชิโน-โปรตุกีสตั้งอยู่ที่ถนนพังงาเปิดกันมารุ่นปู่ย่าตายายกันเลย ปี 2472 ที่นี้ถือเป็นขวัญใจของเหล่าแบ็กแพ็คเกอร์ทั้งหลายที่แวะเวียนมาพักกันตลอดเวลา คนไทยเห็นที่ counter บอกว่าก็มีแต่ไม่มากเท่านักท่องเที่ยวต่างชาติ

นอกจากโรงแรมสไตล์เท่ๆแห่งนี้แล้ว ยังมีร้านที่นักท่องเที่ยวและคนภูเก็ตรู้จักกันดี ร้าน kopi de phuket ร้านกาแฟเก๋สุดๆอยู่หน้าโรงแรมออนออนพอดี

ผมแวะลองชิมชาดูก็อร่อยเข้มข้นไม่เลวทีเดียวได้เครื่องดื่มเย็นๆชื่นใจก็เริ่มต้นได้แล้ว ทริบเที่ยวรอบเมืองนี้เราใช้ทั้งรถขับเที่ยวและเดิน ถนนที่นี่เหมาะกับการเดินมากครับ ยิ่งในย่านถนนหลักๆแล้วเดินเอา มันกว่าเยอะเลยได้สัมผัสบรรยากาศตึกสวยๆหามุมถ่ายรูปได้เรื่อยๆ

เดินออกมาปั้บเรามุ่งหน้าเลยผ่านไปยังหนึ่งใน Landmark สำคัญของ City Tour หนนี้ “อาคารพรหมเทพ” หรือจะเรียก “ศูนย์ข่าวพรหมเทพ” ก็ได้

ฝั่งตรงข้ามก็เป็น “อาคารชาร์เตอร์แบงค์” ธนาคารต่างชาติแห่งแรกที่เข้ามาเปิดทำการในภูเก็ต และภูมิภาคนี้ทั้งสองอาคาร ล้วนแล้วแต่เป็นจุดที่นักท่องเที่ยวต้องแวะมาถ่ายภาพกันทั้งนั้น

จุดเด่นก็อยู่ตรงหอนาฬิกาด้านบนที่มีหลังคาทรงหมวกตำรวจในสมัยก่อน ที่นี้เคยเป็นสถานีตำรวจมาก่อนจึงยังหลงเหลือเค้าลางกลิ่นอายที่มาของมันอยู่

ทั้งสองตึุกอยู่ตรงหัวมุมถนนพังงาตัดกับถนนภูเก็ตหรือตามป้ายกำกับที่ปักไว้ว่า “สี่แยกธนาคารชาร์เตอร์” เวลามาไม่ยากถ้าเดินเลยมาจากร้าน kopi ก็ใกล้นิดเดียวครับ

ตึกต่อมาที่เราได้เจอกัน “อาคารเอกวานิช” อยู่หัวมุมถนนดีบุกตัดกันกับถนนเยาวราช ตึกสวยๆที่อยู่มานาน และยังคงอนุรักษ์ของงดงามของสถาปัตยกรรมสไตล์จีน-ยุโรบไว้ได้อย่างดี

ผมเริ่มต้นเข้าโดยมุ่งหน้าไปย่านถนนดีบุกก่อน ตลอดสองข้างทางเต็มไปด้วยตึกสไตล์ชิโน-โปรตุกีส สีสันตามตึกล้วนดึงสายตาให้เราเหลียวกลับไปมองได้ทั้งนั้น

“อั่งม้อหลาว” เป็นชื่อเรียกคฤหาส์นแบบฝรั่งโบราณผมถ่ายรูปนี้ไว้ โดยมาทราบภายหลังว่าเป็นของตระกูลตัณฑเวทย์

คฤหาส์นหลังนี้สังเกตุให้ดียังคงสถาปัตยกรรมงามๆให้ได้ชมอยู่แม้จะไม่อนุญาติให้เข้าไปได้ก็ตาม

ผมเดินต่อมาจนถึงสามแยกถนนดีบุก ที่แยกนี้มีร้านอาหารน่าลิ้มลองอยู่ 2 ร้านเป็นร้านดั่งเดิมทั้ง 2 ร้าน เริ่มกันที่ร้านขึ้นชื่อ อย่าง “หมี่แป๊ะเถว”

ร้านบะหมี่ที่ได้รับการการันตีจากหลายๆสำนักมาแล้วผมเข้ามาตอนสายๆคนจึงน้อยมาก เช้าๆแบบนี้ยังไม่ได้ทานอะไรต้องของลองชิมซักหน่อยแล้ว

ได้โอกาสผมเลยสอบถามพี่ๆน้าๆป้าๆในร้านถึงที่มาของร้าน แกหยิบรูปภาพเก่าแก่ให้ผมดูด้วยพร้อมเล่าเรื่องคร่าวๆให้ฟัง และ หยิบเมนูอาหารมาให้ซึ่งมีเรื่องราวของแป๊ะเถวให้ผมได้ทราบทุกๆคนลองอ่านดูเองได้เลยครับตามภาพ

ผมจึงสั่งตามคำแนะนำของพี่ๆในร้านเมนูดั่งเดิมมาลองดูครับ น่าทานไหมครับ มีทั้งเย็นตาโฟแห้งแป๊ะเถว …

ชิมดูรสชาติผสมผสานกันทั้งรสหวานอมเปรี้ยวของซอลจากสูตรของร้านเข้ากันดีกับของทอดแบบต่างๆที่ใส่เข้ามาอร่อยครับ

ลูกชิ้นปลาลวกจิ้มและน้ำจิ้มรสแซ่บ สดและสะอาดดีทีเดียว

กุ้งทอดปิดท้าย อาหารอร่อยดีทีเดียวครับใครมาในเมืองอยากทานก๋วยเตี๋ยวอร่ิอยๆ ร้านแป๊ะเถว คือหนึ่งในนั้นที่ควรมาแวะทานกันดูครับ

อิ่มกันดีแล้วยังเหลืออีกร้านที่น่าแวะเช่นกัน เห็นร้านนี้คนภูเก็ตเข้ามาทานอาหารกันพอควรจนดึงเราเข้าไปชิมดูกับ “ขนมจีนป้ามัย”

ขนมจีนสารพัดน้ำยาที่มีให้ลูกค้าเลือกชิมกันได้เนื่องจากอิ่มกันมาสุดๆขอสั่งทานชิมด้วยกัน อร่อยครับผักสดมากมายมีเติมให้ไม่ขาด วางให้ลูกค้ากินแกล้มกับขนมจีน

อิ่มคูณสองขนาดนี้ขอเดินย่อยกันต่อดีกว่าครับ ผมเดินเลี้ยวซ้ายจากแยกดีบุกมาจนถึงสามแยกถนนสตูล มองไปเจอป้ายภัตรคารที่พึ่งเปิดหมาดๆ(ณวันทีเราเดินทางคือ 01/03/10) เราจึงขอเดินเข้าไปชมกันครับ

ที่นี้คือ “อั่งม้อหลาว” อีกแห่งของภูเก็ต เป็นคฤหาสน์พระพิทักษ์ชินประชา ที่ปรับเปลี่ยนมาเป็น ภัตตาคาร Blue Elephant และโรงเรียนสอนทำอาหาร

ผมเดินสำรวจรอบๆทางเจ้าหน้าที่อนุญาติให้ถ่ายภาพได้วันที่ไปเพิ่งเปิดและยังปรับปรุงส่วนด้านหน้ากันอยู่

คฤหาสน์หลังงามแห่งนี้ผมเชื่อว่าน่าจะเป็นที่นิยมของคนภูเก็ตและนักท่องเที่ยวได้ไม่ยากเพราะภายนอกดูงดงามดีทีเดียว

เดินออกมาจากร้านอาหารผมเดินเลี้ยวกลับไปที่สามแยกและตรงเข้าสู่ถนนสตูล ย่านนี้นับเป็นอีกย่านที่ไม่ควรพลาดเพราะตึกสวยๆแปลกตามีให้ชมตลอดสองฝั่ง

ภาพตึกเก่าๆบางทีผมมองว่ามันก็สวยแบบของมันครับ อย่างภาพนี้ถ่ายตอนคุณยายแกเดินระหว่างตรอกของตึกย่านนี้

เดินเลยเข้ามาได้กลางถนนสายนี้ผมก็เจอ “พิพิธภันฑ์ภูเก็ตไทยหัว” พิพิธภันฑ์หลังงามสง่าแห่งนี้อยู่คู่เมืองภูเก็ตมากว่า 75 กว่าปีแล้ว

เดิมเคยเป็นโณงเรียนสอนภาษาปัจจุบันเป็นที่ๆเก็บสิ่งของและเรื่องราวความเป็นมา วิถีชีวิตจากอดีตจนถึงปัจจุบันของเมืองภูเก็ตแห่งนี้ไว้อย่างดี

เสียดายวันที่เราไปเป็นวันหยุดจึงอดเข้าไปชมอย่างน่าเสียดายจริงๆ (ปิดทุกๆวันจันทร์ครับ นอกนั้นเปิดทุกวันตั้งแต่ 11.00-19.00)

เดินกันต่อครับสองข้างทางทีนี้มีเสน่ห์ให้เก็บภาพได้ตลอดการเดิน

ผมยังเก็บภาพไปได้เรื่อยๆก่อนจะเดินยาวไปจนสุดถนนเข้าสู่ถนนเส้นงามอีกเส้นเดินต่อจนมาทะลุที่ถนนเยาวราช

และข้ามฝั่งมาเข้าสู่ถนนถลางถนนสายฮิพอีกแห่งที่รวมร้านเก๋ๆไว้เพียบใครอยากเดินชิวๆเส้นนี้ใช่เลยครับ

เจอร้านเก๋ๆร้านแรกที่เราจะเริ่มสำรวจกัน ร้าน Larp-yai นี่ผมสะกดตามป้ายหน้าร้านนะครับถ้าผิดพลาดต้องขออภัยด้วย

ข้างในตกแต่งเก๋ดีทีเดียวเอาพวกของเล่นโบราณมาตกแต่งไว้เดินดูเพลินดีครับ

ด้านหน้าร้านมีเก้า้อี้แนวๆ น่านั่งวางไว้รอบๆ

เราเดินกันต่อครับหนทางยังอีกไกลการเดินสำรวจเส้นทางเมือเก่าเรื่องเล่าย่อมมากมาย และที่นี้ยังมีอะไรให้ชมกันอีกมาก

อย่างร้านถัดมาไม่ไกล เป็นร้านอาหารสไตล์จีนอย่าง “ไชน่า อินน์”

ภายในตกแต่งไว้สวยงามดีทีเดียว สีแดงบ่งบอกความเป็นจีนตามชื่อแต่ของตกแต่งผสมผสานกันทั้งจีน-ยุโรบ-ไทยดูน่าสนใจมากๆเลยทีเดียว

ด้านหลังจะเป็นร้านอาหารและทางร้านไม่อนุญาติให้ถ่ายภาพเพราะอาจจะเป็นการรบกวนแขก อันนี้ยิ่งดีครับเป็นความพิถีพิถันของทางร้านในการบริการดี

ออกมาเดินชมเมืองกันต่อเดินมาเรื่อยๆ ผมเจอโรงแรมแห่งแรกของย่านนี้ที่เดินเจอครับ

เดินต่อมาจนเจออีกร้านนึง “43@talang” เหมือนจะยังไม่เปิดดีสำหรับตอนนี้

เดาว่าน่าจะเปิดในยามค่ำมากกว่า

ผมเดินผ่านร้านมาเรื่อยจนเจอร้าน Sin&Lee เมื่อสมัยอดีตหลายๆสิบปีก่อน เป็นห้างสรรพสินค้าแห่งแรกของเมืองก็ว่าได้

ทุกวันนี้ดูไม่ต่างจากร้านขายของชำทั่วไปแต่ถ้าลองหลับตานึกย้อนไปซัก 20-30 ปี ก่อนคุณอาจจะเห็นห้างขึ้นมาได้ครับ

เลยได้ไอติมมากินแก้ร้อนซะ2แท่ง

เดินดูดไอติมแก้ร้อนมาไม่ทันหมดดีก็เจอร้านฮิพๆอีกร้านที่ไม่แวะก็กระไรอยู่ “ร้านหนังสือ” ร้านน่านั่งที่นักท่องเที่ยวมักจะแวะมาถ่ายภาพแวะชมไม่ขาด

เราเลยแวะตามประสานักท่องเที่ยวที่ดี บรรยากาศภายในตกแต่ง retro สุดๆทั้งเกา้อี้มานั่งหนังสือรวมถึงขอตกแต่งกระจุกกระจิกรวมๆดูแล้วได้บรรยากาศดีจริงๆ

ผมนั่งพักแก้ร้อนเห็นเค้กน่าทานเลยสั่งมาชิมกันหน่อยครับ

ช็อคเค้กน่าทานชิมแล้วโอเคมากๆเลยทีเดียว ไม่หวานเกินจนเลี่ยน อร่อยมากครับ

ชิมจนพุงแทบปริกันดีทั้งคู่ ก็พากันเดินให้มันย่อยกันต่อ มาจนถึงถนนสายสำคัญอีกสายเป็นซอยรมณีย์ ถนนสายฮิตและฮิพสุดๆแล้วในเมืองนี้

ด้านหน้าซอยฝั่งทางเข้าถนนถลางจะมีหลัก กม.โตๆ ใหญ่สุดๆวางอยู่หน้าซอย เดี๋ยวนี้จะให้รู้ว่าแถวไหนฮิตไม่ฮิตเค้าดูกันตรงหลัก กม.แบบนี้ล่ะครับแม้ว่าจริงๆแล้วมันไม่น่าจะมีอยู่ก็ตาม

เข้าซอยมานิดนึงก็เข้าใจว่าทำไหมซอยนี้เค้าฮิตกันจัง ในนี้มีทั้งร้านอาหาร และโรงแรมแนวๆอยู่ทั้ง 2ฝั่งถนนสีสันของบ้านทุกหลังก็ไม่ธรรมดา จี๊ดจ๊าดเรียกคนให้เข้ามาชมได้อย่างดี

ผมเดินต่อเข้าไปจนเจอร้านแรกที่หยุดแวะถ่ายภาพ ร้าน “Glastnost”

ในเวลากลางวันแบบนี้ ที่นี้อาจจะดูหงอยๆบ้างแม้จะมีนักท่องเที่ยวอย่างเราๆแวะมาขอถ่ายรูป หรือสั่งเครื่องดื่มแก้ร้อนเพื่อขอถ่ายภาพบ้างก็ตาม

แต่เมื่อยามเย็นย่ำค่ำมืดในวัีนอาทิตย์มาถึง ที่นี้คือแหล่งรวมนักดนตรีแจ๊สและบูลที่นิยมมาร่ายมนต์ให้คนรักชอบในเสียงดนตรียามค่ำได้มานั่งฟังกันอุ่นหนาฝาคั่งเลยทีเดียว

เสียดายที่ผมมีเวลาเพียงชั่วอาทิตย์ตกและัวันนั้นไม่ใช่วันอาทิตย์ซะด้วยจึงพลาดที่จะขอเสนาะรับฟังกันดูบ้าง

*มุมนี้ขอร้านผมชอบเป็นพิเศษครับ

เดินออกมาจนถึงฝั่งตรงข้ามผมเจอมุมสวยๆของร้านที่ชวนให้ถ่ายภาพกันอีกหน่อย

ร้านละแวกนี้พยายามแบ่งตัวเองให้เห็นกันชัดๆ ด้วยสีสันของแต่ล่ะร้านอย่างร้านนี้สีสุดจี๊ดจริงๆ

ผมเดินลึกเข้าไปต่อด้านในอีกนิดเงยมองขึ้นไปด้านบน ธงไตรรงค์ของเราครับ

ขากลับผมวกกลับมาที่เดินเข้ามาผ่านโรงแรมดูดีอีกแห่งนึง ตกแต่งแนวๆอีกเช่นกัน retro ทั้งย่านจริงๆ

ขากลับเดินเร็วครับเพราะชมมาตลอดเส้นแล้วไม่นานก็ถึงปากซอยอีกครั้งและเราเดินย้อนกลับไปทางเดิมเพื่อกลับไปที่รถที่จอดไว้

เดินไปเดินมาเริ่มบ่ายคล้อยแ้ล้ว เราเลยตกลงกันข้ามมาอีกฟากของเมืองกันบ้างมาแถวๆ หอนาฬิกากลางเมืองดูบ้าง ทีนี้มีร้านเก่าร้านแก่น่าแวะทานอยู่

“ร้านหมี่ต้นโพธิ์” ร้านหมี่เก่าแก่อีกแห่งของภูเก็ต มาครั้งสุดท้ายก็แวะทานหนนี้ก็ขอสั่งหมี่ฮกเกี้ยน น่าอร่อยมาทานอีกรอบ หน้าตาก็ประมาณนี้เลย น่ากินไหมล่ะ

ผมทานคำแรกรสชาติดูไม่คุ้นเท่าไหร่ เหมือนจะอร่อยน้อยลงกว่าครั้งก่อน จนทานหมดก็ว่าอร่อยดีครับต้องให้มาลองพิสูจน์ด้วยตัวเองดูครับ

ไม่ช้าหมูสะเต๊ะก็ยกตามมา อร่อยครับ กระจาดน้ำจิ้มรสชาติเข้มข้นดี

และสุดท้ายเราจบด้วยชาดำเย็นรสกลมกล่อมพอได้อยู่

และราคาสำหรับพศนี้ครับ ใครมาชิมเลือกเมนูไำด้ตามนี้เลย

ข้อดีของร้านอีกอย่างถ้าใครแวะมาคือจะมีศาลเจ้าอยู่ข้างๆครับเข้าไปสักการะกันได้ตามศัทธาเช่นกัน

 

ตั้งแต่เช้าเรายังไม่ได้ลองขนมเด่นขนมดังที่มีให้ทานแค่ภูเก็ตเท่านั้นก็ว่าได้อย่าง “โอ๊เอ๋ว” ขับรถไปยังถนนเยาวราช มองหาซอยสุ่นอุทิศไว้

ร้านขายมีอยู่หลายร้าน ส่วนร้านที่เราเลือกแวะเข้าไปชิมขนม “โอ๊เอ๋ว”จะอยู่ตรงข้ามกับซอยพอดี

ขนมโอ๊เอ๋วดูคล้ายวุ้นนี้ ทางร้านมีข้อมูลให้อ่านแก้สงสัยกันด้วยว่ามันทำมาจากกล้วยน้ำว้ากับเมล็ดโอ๊วเอ๋ว ซึ่งมีลักษณะคล้ายเมล็ดแมงลักมาแช่น้ำ

แล้วนำเฉพาะเมือกมาใส่เจียกอ ซึ่งเป็นตัวที่ทำให้โอวเอ๋วเกาะตัวกันเป็นก้อนคล้ายวุ้น แล้วนำมารับประทานกับน้ำแข็งใส มีรสชาติหอมหวานชื่นใจ

ผมชิมดูแล้วมันก็คล้ายๆวุ้นครับแต่จะเหนียวกว่าเวลาทานกับถั่วแดงใส่น้ำแข็งใสราดด้วยน้ำแดงอร่อยชื่นใจดีเหมือนกัน นั่งทานอยู่มีรถมาจอดสั่งกันจนเฮียแกมือเป็นระวิงเลยทีเดียว

ชิมทุกอย่างที่อยากมาลองจนหมด ก็ได้เวลาชมรอบนอกเมืองกันแล้ว ผมขับรถมุ่งลงใต้หาทางไปไปยังหาดกะตะไปตามทางหลวงหมายเลข 4233

มองหาป้ายด้านซ้ายมือที่จะบอกไปทางแหลมพรหมเทพหรือ หาดในหาน,หาดดราไวย์ นั้นแหล่ะใช่เลยครับ

จุดชมวิวสำคัญที่เราต้องการมาชมให้ได้ก็คือ “จุดชมวิวสามอ่าว”คุณๆสามารถมาชมวิวได้ทั้งวันส่วนใหญ่จะแวะเที่ยวชมในยามเย็นก่อนจะไปจบที่แหลมพรหมเทพ

ที่นี้สามารถมองเห็นชายหาดสำคัญๆของภูเก็ต ประกอปด้วย หาดกะตะน้อย หาดกะตะใหญ่และหาดกะรน เป็นรูปพระจันทร์เสี้ยวโค้งสวยงามทั้ง 3 หาด

และจุดชมวิวอันเป็นเป้าหมายของแทบทุกคนจะต้องไม่พลาดชมคือ “แหลมพรหมเทพ” ขับรถจากจุดชมวิวสามอ่าวไปไม่ไกลผ่านหาดในหานแค่อึดใจ ผมแนะนำให้เผื่อเวลามากันด้วย

เพราะในช่วงวันหยุดยาวๆทีี่จอดรถจะเต็มง่ายมากจนอาจจะต้องเดินกันไกลกว่าจะถึงทีเดียว

ความงามติดระดับโลกของแหลมพรหมเทพคงไม่ต้องบอกกัน ทุกๆวันจึงมีนักท่องเที่ยวมาแวะชมพระอาิทิตย์ตกที่นี่หนาแน่น

แม้จะเสียดายไม่เห็นพระอาทิตย์ตกลับขอบฟ้าอย่างที่หวังก็ยังประทับใจครับ นับเป็นการจบวันที่ “พอดี” กับความงามยามอาทิตย์อัศดงค์ได้อย่างดี

ขากลับผมอยากได้ภาพสวยๆของชายหาดไว้บ้างก่อนกลับจึงแวะหาดในหาน และได้ภาพๆหาดงามที่มีเรือยอร์ชจอดเทียบท่าอยู่ดูสวยแปลกตากว่าหาดอื่นๆ

ยามท้องฟ้าเข้มๆไล่ดวงอาทิตย์หายลับขอบฟ้าไปแล้ว ร่มที่หุบลงบ่งบอกการจบวันบนชายหาดแสนงาม อันเป็นเอกลักษณ์อย่างนึงของภูเก็ต

ภาพสุดท้ายก่อนลาชายหาดงามๆอย่าง หาดในหาน มีโอกาสจะกลับมาใหม่ครับ

ก่อนขึ้นเครื่องกลับในเที่ยวบินดึกๆของเรา ยังเหลือเวลาอีกเล็กน้อยที่จะแวะทานอาหารมื้อค่ำสุดท้ายของทริบนี้

เราเลือกร้านที่หลายๆคนแนะนำมาว่า อร่อยทั้งอาหารและบรรยากาศ ดีเหลือใจอย่าง “ร้านกันเอง@pier

ร้านกันเอง@pier อยู่ตรงท่าเรืออ่าวฉลอง เปิดมานานและมีการ ปรับปรุงมาตลอด เป็นที่รู้กันของนักท่องเที่ยวที่ไปมา ล้วนประทับใจจนมาบอกต่อๆกัน วันนี้ผมพึ่งมีโอกาสได้มาเยือน

มุมโรแมนติกงามๆในคืนพระจันทร์เต็มดวง เหมาะมากๆสำหรับหนุ่มสาวหรือคู่รักที่โหยหาร้านบรรยากาศดีๆแบบนี้

บรรยากาศรอบๆยิ่งงามไม่แพ้กัน พระจันทร์เป็นใจจริงๆครับ

วิวสวยๆที่อยากชวนให้มาชมกัน

มองรอบๆดูทุกคนดู happy กันทั้งนั้น ไม่ช้าอาหารโต๊ะผมก็ยกมาเราทานอย่างเอร็ดอร่อย ขอบอกว่ารสชาติที่จัดจ้านใช้ได้เลย ไม่ใช่แค่เด่นเฉพาะอาหารอย่างเดียวเท่านั้นครับ รับรองไม่ผิดหวัง

ราคาก็สมน้ำสมเนื้อกับบรรยากาศเช่นกัน

เป็นอันจบทริบอันดามันฉันรักเธออย่างอิ่มเอมใจใจเรามากทั้งคู่ จากนี้ก็บึ่งรถขับยาวกลับตรงไปสนามบินกันเลยครับ มีข้อเตือนสำหรับรถเช่าทั้งหลายนะครับ ถ้าคุณๆต้องคืนรถกันที่สนามบินอย่าลืมแวะเติมน้ำมันก่อนถึงสนามบินะครับเพราะปั้มสุดท้ายเป็นปั้มปตท นั้นอยู่ห่างจากสนามบิน ถึง เกือบ 20 กิโลเมตร ถ้าพลาดปั้มนั้นมาคุณอาจจะต้องจ่ายเงินให้กับทางเจ้าหน้าที่เป็นค่าน้ำมันเพิ่มเติม โปรดระวังอย่าลืมเป็นอันขาด เพราะเราโดนมาแล้ว หลายร้อยอยู่ทีเดียวครับ

จากนี้เราก็ขึ้นเครื่องกลับกันแล้วครับเครื่องออกตอน 4 ทุ่มกว่าและยังเป็น airasia กับศูนย์บาทสุดท้ายที่จองข้ามปีมาก็หมดลงตรงทริบนี้นั้นเอง

หวังว่าทริบนี้ตั้งแต่ หมู่เกาะสิมิลัน-สุรินทร์-ตาชัยและภูเก็ต คงพอจะกระตุ้นต่อมอยากท่องเที่ยวของคุณๆได้บ้าง

ทริบหน้าผมจะเปลี่ยนบรรยากาศเป็นรีวิวที่พักกันบ้าง ยังไงโปรดติดตามไม่นานเหมือนหนนี้ครับ ขอจบท้ายด้วยภาพงามๆของวิวหน้าร้านอาหารแสนประทับใจของเราอีกแห่งครับ

ขอบคุณและสวัสดีครับ

ที่มา...http://blog.one22.com/archives/4526

หมายเลขบันทึก: 361705เขียนเมื่อ 26 พฤษภาคม 2010 23:20 น. ()แก้ไขเมื่อ 22 มิถุนายน 2012 13:58 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (2)

สวัสดีค่ะ

 

ภูเก็ตเป็นจังหวัดในฝันที่อยากไปเยื่อนมากที่สุด   ยังไม่มีโอกาสสักที

เต็มอิ่มกับทริปนี้ ภาพบรรยากาศ อาคาร สถาปัตยกรรม ท้องทะเล ที่กินที่เที่ยว ชวนให้หลงมนต์เสน่ห์ของเมืองภูเก็ต

ต้องขอชมว่า ถ่ายภาพได้สวยมาก มีความสุข และโชคดีมราเข้าเข้ามาในบันทึกนี้

ขอบคุณมากค่ะ

 

          

 

Such an amazing and the most desirable post for all the new generations to having the most important and adorable criteria’s like the most interesting Essay Writers, https://essaywritingservices.pk/ which are giving their most relevant services in Pakistan very desirably.

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท