เรื่อง “ระวัง” เด็กเล็กจมน้ำเสียชีวิตภายในบ้านพัก


สำหรับพ่อแม่ ที่รักลูก ใส่ใจลูก ให้ความอบอุ่นกับลูก เตรียมตัว และว่างแผนในการมีลูกที่ดี

เรื่อง “ระวัง” เด็กเล็กจมน้ำเสียชีวิตภายในบ้านพัก

               คุณหรืออีกหลายคน คงแปลกใจ และคาดไม่ถึง ว่าการเสียชีวิตจากการจมน้ำของเด็กเล็ก อายุ 0-6 ปี โดยประมาณ ส่วนใหญ่ 1 - 3 ปี สามารถเกิดขึ้นได้ ตั้งแต่ภายในบ้านพัก ด้วยภาชนะใส่น้ำ ที่ใช้ภายในบ้านพักง่ายๆ ไม่ต้องไปให้ถึงแหล่งน้ำต่างๆ เช่น ห้วย หนอง คลอง บึง หรือ สระว่ายน้ำของเอกชน

                การเสียชีวิตจากการจมน้ำ ของของเด็กเล็กนั้น เกิดจากการตกลงไปในภาชนะใส่น้ำ ที่ใช้ภายในบ้านพัก เช่น ถังน้ำขนาดต่างๆ ที่ตั้งอยู่ในห้องน้ำ ถังสีขนาดใหญ่ที่ใช่สีหมดแล้ว และได้นำมาใส่น้ำไว้ใช้ และ ตุ้มน้ำขนาดเล็ก กระติ๊กน้ำ  ภาชนะใส่น้ำอื่นๆ ที่ศีรษะสามารถตกลงในลักษณะหัวทิ่มลงไปได้ แม้ในภาชนะใส่น้ำนั้นมีน้ำใส่อยู่ในภาชนะ แค่หนึ่งคืบ หรือ ประมาณ 5-6 นิ้ว สามารถทำให้เด็กเล็กๆ ที่ตกในลักษณะหัวทิ่มลงไปเสียชีวิตได้ เพราะธรรมชาติของเด็กเล็ก น้ำหนักของศีรษะมาก เมื่อเปรียบเทียบเฉลี่ย กับน้ำหนังของตัวเด็กทั้งตัว ทำให้เมื่อตกลงไปในภาชนะใส่น้ำที่มีความมันคง ในลักษณะท่าที่ หัวทิ่มลงไป และเด็กเล็กไม่สามารถกลับตัวขึ้นมาจากภาชนะใส่น้ำ ช่วยเหลือตัวเองได้ ทำให้ขาดอากาศหายใจจากการจมน้ำ และเสียชีวิตในที่สุด

                สาเหตุหลักในการเสียชีวิตจากการจมน้ำ ภายในบ้านพักของเด็กเล็กนั้น มองได้ 3ลักษณะที่สำศัญ              ส่วนที่ 1 เกิดจากธรรมชาติของพฤติกรรมเด็กเล็กเอง ที่ซน พึ่งหัดเดิน หรือ เดินเก่งแล้ว สามารถไปไหนมาไหนได้เอง เดินไปรอบๆบ้าน แต่ยังขาดทักษะการช่วยเหลือตัวเอง ไม่ทราบถึงอันตราย ความเสี่ยง จากสภาพแวดล้อมรอบข้าง หรือ เด็กเล็กบ้างคนชอบไปเล่นน้ำในห้องน้ำ เพราะ ผู้ปกครองชอบพาเด็กอาบน้ำบ่อยๆ ทำให้เด็กเล็กชอบเล่นน้ำ และเดินไปอาบน้ำเองขณะอากาศร้อน เวลาผู้ดูแลเผอเรอ เป็นลักษณะการไปเล่นน้ำ ที่เด็กคุ้นเคย มีความคุ้นชินในการไปในแหล่งน้ำ ที่มีความอันตรายทำให้เสียชีวิต และ โดยธรรมชาติของเด็กเล็ก ที่มีปริมาณน้ำหนังของศีรษะที่มาก ทำให้หัวทิ่มตกลงไปในถังน้ำต่างๆ ที่อยู่ในห้องน้ำ อยู่ภายในบ้านพัก หรืออยู่รอบบ้านพัก                       

ส่วนที่ 2 เกิดจากการเผอเรอของผู้ปกครอง ขณะทำกิจกรรมบ้างอย่างอยู่ และได้ปล่อยเด็กเล็ก ให้อยู่ภายในบ้าน หรือรอบๆบ้านตามลำพัง โดยมีความคิดว่าเด็กเล็กคงไม่มีอันตรายอะไร จากภายในบ้าน หรือรอบบ้าน หรือ ไปฝากให้ผู้ใหญ่ดูแล และคิดว่าผู้ใหญ่ดูแลอยู่ ทั้งที่เป็นคนในบ้าน หรือเพื่อนบ้าน แต่ในความเป็นจริงไม่มีใครดูแลเด็กเล็กอยู่เลย ทำให้เด็กเล็กเดินไปเล่นน้ำในภาชนะต่างๆ หรือ ผู้ปกครองพาไปอาบน้ำ แต่ได้ออกมาทำกิจกรรมนอกห้องน้ำ ปล่อยให้เด็กอยู่ตามลำพังในห้องน้ำ และ ได้พลัดตกลงไปในถังน้ำขนาดต่างๆ ทำให้เสียชีวิต

ส่วนที่ 3 เกิดจากการตกจากที่สูง ลงไปในภาชนะใส่น้ำต่างๆ เช่น เด็กเล็กอายุ ไม่ถึง 1 ปี ตกจากเตียงนอน ลงไปในกระติ๊กน้ำ ถังน้ำ ภาชนะใสน้ำต่างๆ ที่อยู่ด้านล้าง หรือ ตกจากหน้าต่างบ้าน ระเบียงบ้าน ลงไปในตุ้มน้ำที่ตั้งอยู่รอบๆ บ้านพัก ทำให้จมน้ำเสียชีวิต

                  ในแต่ละปีมีเด็กเล็กที่เสียชีวิตจากการจมน้ำในภาชนะใส่น้ำต่างๆ ภายในบ้านพัก รอบๆบ้านพัก ในจำนวนหลายสิบคน อยู่ในหลักสิบคน ”จากการประมาณ”  ซึ่งเป็นลักษณะการเสียชีวิต จากการจมน้ำในภาชนะใส่น้ำต่างๆ ภายในบ้านพักของเด็กเล็ก ที่สามารถป้องกันการเสียชีวิตได้

                   เพราะมีวิธีการป้องกันที่ทำให้เด็กมีความปลอดภัยสูง เป็นลักษณะหลักการใหญ่ในการเลี้ยงดูเด็กแบบง่ ายๆ ถ้าเป็นการอ่านดู หรือ ฟังคนอื่นพูด แต่คงอยากมากๆ ในการปฎิบัติ การเลี้ยงดูเด็กตามสภาพแวดล้อมจริง ตามวิธีการเลี้ยงดูเด็กดังกล่าว มีอยู่ว่า เด็กเล็ก อายุ 0 – 6 โดยประมาณ ต้องเลี้ยงดูอย่างใกล้ชิต คือ อยู่ในสายตา อยู่ใกล้มือ ของผู้ปกครองหรือ ผู้ดูแลอยู่ตลอดเวลา เด็กเล็กที่อายุ 6 – 12 ปี โดยประมาณ ผู้ปกครอง หรือผู้ใหญี่ดูแล ต้องเลี้ยงดูให้อยู่ในระดับสายตา และ พร้อมที่จะเขาไปถึงตัวเพื่อช่วยเหลือทันทีเมื่อประสบเหตุ หรือเห็นถึงความไม่ปลอดภัย เด็กที่อายุ   12 ปี ขึ้นไป ผู้ปกครอง หรือผู้ใหญ่ที่ดูแล ต้องรู้ว่าเด็กอยู่ที่ได้ ไปที่ไหน กำลังเล่นอะไรอยู่ และมีความเสี่ยง มีความไม่ปลอดภัย มีอันตรายอะไรอยู่บ้าง ผู้ปกครอง ต้องบอก ต้องสอน ต้องเตือน เด็กให้ระมัดระวังถึงความปลอดภัยของชีวิตร่างกายของตัวเอง

                    ถ้าท่านอ่านมาถึงวีธีการข้างต้นแล้ว อาจมีบ้างท่าน คิดว่าคงทำได้ง่าย เป็นวีธีการง่ายๆ ในการเลี้ยงดูเด็กให้ปลอดภัย แต่ในการปฎิบัติจริง คงอยากมากในการเลี้ยงดูเด็กบ้างคน และผู้ปกครอง ผู้ใหญ่ที่เลี้ยงดูเด็กบ้างคน และวีธีการดังกล่าว เป็นเพียงหลักการในการเลี้ยงดูเด็กให้ปลอดภัยอย่างหนึ่ง แต่การเลี้ยงดูเด็กให้ปลอดภัยคงมีวิธีการอื่นๆมากมาย ที่สามารถทำให้เด็กมีความปลอดภัยในชีวิต และดำเนินชีวิตที่ดี สำหรับพ่อแม่ ที่รักลูก ใส่ใจลูก ให้ความอบอุ่นกับลูก เตรียมตัว และว่างแผนในการมีลูกที่ดี

                    วาทะสอนชีวิต ไม่มีชายหรือหญิงคนไหนมีค่าพอที่คุณจะต้องเสียน้ำตาให้
ส่วนคนที่มีค่าพอนั้น เขาย่อมที่จะไม่มีวันทำให้คุณร้องไห้อย่างเด็ดขาด “เคยอ่านในอดีต จำไม่ได้ว่าใครพูดไว้”

                                                                                                               

                                                                                        สืบ ธรรมชาติ

                                                                                        25/5/2553

หมายเลขบันทึก: 361178เขียนเมื่อ 25 พฤษภาคม 2010 01:19 น. ()แก้ไขเมื่อ 12 กุมภาพันธ์ 2012 14:19 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (2)

ขอบคุณสำหรับความรู้ดีๆค่ะ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท