รู้อย่างนี้....แล้วยังจะรักอยู่ไหม


say.....love

 "ใครเคยโดยกิเลส 3 ประการ(ราคะ โทสะ โมหะ)เผาใจมาแล้วบ้างคะ้"

สวัสดีคะ....ก่อนอื่นต้องขอขอบคุณก่อนนะคะที่ได้รับเกียรติเข้ามาแวะชมห้องบันทึกของข้าพเจ้า  จากประโยคคำพูดข้างต้น ตัวของข้าพเจ้าเองก็เคยโดยเผาใจมาแล้ว ตอนนั้นยังเป็นวัยรุ่นวัยละอ่อน ฟูมฟายป็นอย่างมาก ก็เคยไปแอบหลงรักหนุ่มคณะวิศวะอ่ะคะ(ช่วงนั้นเป็นเอามาก....หลงใหล คลั่งไคล พูดง่ายๆประมาณว่าหัวปักหัวปำ) คือแอบเป็นฝ่ายเดียว หนุ่มวิศวะคนนั้นไม่ได้รู้อีโหน่อีเหน่ีกับข้าพเจ้าเลย ยอมรับเลยว่าช่วงนั้นเป็นทุกข์มากๆๆ และแล้วข้าพเจ้าได้มารู้จักกับนางโกกิลาที่สถานปฏิบัติธรรม ได้รับฟังเรื่องราวของท่าน รู้สึกว่าอารมณ์ใกล้เคียงกันมาก จึงทำให้มารู้สึกจับจิตจับใจกับพุทธโอวาทของสมเด็จพระประทีปแก้วพระบรมศาสดาพิชิตมาร ทำให้อารมณ์ จิตของตนเองสงบลง เลยอยากนำเสนอต่อผู้อ่านที่สนใจหรือที่กำลังจะโดนกิเลส 3 ประการเผาใจอยู่ ดังนี้

“ภคินี เธอรักใคร่พอใจในอานนท์หรือ ?”

“พระเจ้าข้า” นางทาสียกมือแค่อกรับตามเป็นจริง

“เธอรักอะไรในอานนท์ ?”

“ข้าพระพุทธเจ้ารักนัยน์ตาพระอานนท์ พระเจ้าข้า”

“นัยน์ตานั้นประกอบขึ้นด้วยเส้นประสาทและเนื้ออ่อน

ต้องหมั่นเช็ดสิ่งสกปรกในดวงตาอยู่เป็นนิตย์

มีขี้ตาไหลออกจากนัยน์ตาอยู่เสมอ

ครั้นแก่ลงก็จักฝ้าฟางขุ่นมัวไม่แจ่มใส

อย่างนี้เธอยังรักนัยน์ตาของอานนท์อยู่หรือ ?”

“ถ้าอย่างนั้น ข้าพระองค์รักหูของพระอานนท์ พระเจ้าข้า”

“ภคินี หูนั้นประกอบด้วยเส้นเอ็นและเนื้อ ภายในช่องหูมีของโสโครกเป็นอันมาก

มีกลิ่นเหม็นต้องแคะไค้อยู่เสมอ ครั้นชราลงก็หนวก

จะฟังเสียงอะไรก็ไม่ถนัดหรืออาจไม่ได้ยินเลย

ดังนี้แล้ว เธอยังจะรักอยู่หรือ ?”

นางเอียงอายเล็กน้อย แล้วตอบเลี่ยงต่อไปว่า

“ถ้าอย่างนั้นข้าพระองค์รักจมูกอันโด่งงามของพระอานนท์ พระเจ้าข้า”

“ภคินี จมูกนั้นประกอบขึ้นด้วยกระดูกอ่อนที่มีโพรง

ภายในมีน้ำมูกและเส้นขนกับของโสโครกมีกลิ่นเหม็นเป็นก้อน ๆ

อย่างนี้เธอยังจะรักอยู่อีกหรือ ?”

ไม่ว่านางจะตอบเลี่ยงไปอย่างไร พระพุทธองค์ก็ทรงชี้แจงให้พิจารณาเห็นความเป็นจริงของร่างกายอันสกปรกเปื่อยเน่านี้ ในที่สุดนางก็นั่งก้มหน้านิ่ง พระพุทธองค์ตรัสว่า

“ภคินีเอย อันว่าร่างกายนี้สะสมไว้แต่ของสกปรกโสโครก

มีสิ่งปฏิกูลไหลออกจากทวารทั้ง 9 มีช่องหู ช่องจมูก เป็นต้น

เป็นที่อาศัยแห่งสัตว์เล็กสัตว์น้อย เป็นป่าช้าแห่งซากสัตว์นานาชนิด

เป็นรังแห่งโรค เป็นที่เก็บมูตรและกรีส

อุปมาเหมือนถุงหนังซึ่งบรรจุเอาสิ่งโสโครกต่าง ๆ เข้าไว้ และซึมออกมาเสมอ ๆ

เจ้าของกายจึงต้องชำระล้างขัดถูวันละหลาย ๆ ครั้ง

เมื่อเว้นจากการชำระล้างแม้เพียงวันเดียวหรือสองวันกลิ่นเหม็นก็ปรากฏเป็นที่รังเกียจ

เป็นของน่าขยะแขยง

ภคินี ร่างกายนี้เป็นเหมือนเรือนซึ่งสร้างด้วยโครงกระดูก

มีหนังและเลือดเป็นเครื่องฉาบทา ที่มองเห็นเปล่งปลั่งผุดผาดนั้น เป็นเพียงผิวหนังเท่านั้น

เหมือนมองเห็นความงามแห่งหีบศพ อันวิจิตรตระการตา

ผู้ไม่รู้ก็ติดในหีบศพนั้น แต่ผู้รู้เมื่อทราบว่าเป็นหีบศพ

แม้ภายนอกจะวิจิตรตระการตาเพียงไร

ก็หาพอใจยินดีไม่

่เพราะทราบชัดว่าภายในแห่งหีบอันสวยงามนั้นมีสิ่งปฏิกูลพึงรังเกียจ”

 


คำสำคัญ (Tags): #โคราช12
หมายเลขบันทึก: 361177เขียนเมื่อ 25 พฤษภาคม 2010 00:58 น. ()แก้ไขเมื่อ 6 กันยายน 2013 22:58 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (1)

ได้ความรู้ดีๆ ได้ดูภาพหล่อๆจริง

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท