สุข กับ ทุกข์ กว่าจะเป็น ครูที่ดี


ใจสู้หรือเปล่า

สวัสดีค่ะ อาจารย์ องคุลีมาร และ เพื่อนๆ ว่าที่ครู รุ่น ป.บัณฑิต ห้องสอง ทุกๆคน

    บันทึกนี้เป็นบันทึกของความรู้สึกในใจ ของตัวดิฉันจริงๆ  นับตั้งแต่เริ่มมาสมัครเรียนในช่วงเดือนมีนาคม และรอลุ้นว่าตัวเองจะได้ มีสิทธิ์มาเป็นส่วนหนึ่งของ รุ่น ป.บัณฑิตหรือเปล่า จนกระทั่งประกาศผล และนำเอกสารมายื่นเพื่อขอรายงานตัวการเป็นนักศึกษาอีกครั้ง หลังจากที่เพิ่งรับปริญญา วันที่ 6 พ.ค. 53 นี่เอง  ความมุ่งหมายของการมาเรียนในครั้งนี้ มีเหตุผลอยู่ไม่กี่ข้อเองค่ะ คือ

1. อยากได้ใบประกอบวิชาชีพ

2.อยากเรียนเพราะงานที่ทำตอนนี้ก็ ทำอาชีพนี้อยู่

3.อยากเป็นครูที่ดี  ข้อนี้สำคัญ

       ครูที่ดี คำนี้ มีความหมายยิ่งใหญ่สำหรับใครคนหนึ่งและอีกๆหลายๆคน    ที่ใฝ่ฝันอยากเป็นครูที่ดีนั้น เราต้องทำอย่างไร นี่คือสิ่งที่คิดๆ อยู่ในหัวอยู่ทุกๆ วัน  จนเริ่มเข้ามาปฐมนิเทศที่มหาวิทยาลัย ในวันที่ปฐมนิเทศนั้น สิ่งที่ตัวฉันจำได้  การเรียนหลักสูตรนี้ ต้องลงเรียน 30 หน่วยกิจ และต้องฝึกงาน 1 ปี ซึ่งเป็นหลักสูตรพิเศษที่ สร้างขึ้นเพื่อ บุคคลที่มีหัวใจ อยากเป็นครูจริง แต่ทำงานด้านอื่นๆ  ทั้งบริษัท และธุรกิจส่วนตัว จึงเข้ามาเป็นนักศึกษเพียงเพราะว่าอยากเป็นครู    แต่ใครจะรู้บ้างว่าครู  ต้องมีความรู้ มีความอดทน อดกลั้น และยอมอุทิศตนเพื่อลูกศิษย์    จนในวันที่ฉันจ่ายค่าเทอมไปแล้วซึ่งค่าเทอมในการลงเรียนในครั้งนี้ คือเงินเดือนล้วนๆของตัวเอง   ตัวฉันเองอุทิศตนในหน้าที่ของการเป็นนักศึกษาอย่างมาเลยนะค่ะ  หลายครั้งยอมรับเลยว่า  ท้อมาก... เหนื่อย..... เพราะต้องทำงานและเรียนไปพร้อมๆกัน

      ใครว่า การเป็นครูเป็นเรื่องง่าย  ตัวฉันคิดว่า มันไม่จริงค่ะ เป็นครูด้วยจิตวิญญาณ ไม่สามารถเป็นกันได้ง่ายๆ  ในการลงทะเบียนเรียนในเทอมนี้ ตัวฉันเองต้องเรียนทุกวันเสาร์และวันอาทิตย์  และยังต้องทำงานที่โรงเรียนอีก ทั้งงานสอน ที่ยังไม่ประสีประสา และชำนาญอย่างมาก เนื่องจาก เพิ่งเข้าทำงานใหม่ อะไรที่ใหม่ๆ มันย่อมท้าทาย แต่ก็มีความเจ็บปวดอยู่ไม่น้อย ใครจะรู้ว่า ในบางครั้งดิฉัน ก็มีน้อยใจตัวเองเหมือนกัน ว่าทำไมอ่อนแอ งานมันหนักมันหนาอะไร ทำไมทำไม่ได้  ไม่ใช่ว่าทำไม่ได้นะค่ะ  คนเราไม่ใช่แข็งแกร่งเหมือนหินซักหน่อย  มันก็มีบ้างที่หัวใจอ่อนแอเหมือนกัน   ตอนนี้สิ่งที่ฉันต้องทำ คือ งานในหน้าที่ ครู  และงานในหน้าที่นักศึกษา ทั้ง 2 อย่าง มีความสำคัญ เท่าๆกัน  งานที่หนักใจในตอน นี้ ที่ สร้างความทุกข์ในใจเล็ก ก็คง จะเป็นงาน วิชา นวัตกรรม นะค่ะ ซึ่งไม่เคยทำมาก่อน และต้องทำให้สมบูรณ์อีกด้วยจึงเป็นความกังวลเล็กๆในใจตอนนี้   แต่ดิฉันเข้าใจ ดีค่ะ ว่า การที่จะผลิตครูแม่พิมพ์ของชาติ คนหนึ่ง มันไม่ใช่เรื่องง่ายๆ เลย  เราไม่ใช่ มาเรียนเพียงเพื่อ ใบประกาศณียบัตร แต่เราต้องการ ครูที่มีประสิทธิภาพ ทั้งการสอน และด้านสื่อนวัตกรรม จริยธรรม ด้วย   ดิฉันก็เข้าใจ แต่บางครั้ง งานในหน้าที่ทั้งสองอย่างมัน หนักจริงๆ...นะค่ะ

         แต่สิ่งหนึ่งที่คอยยำเตือนสติ ก็คงจะเป็น วิดีทัศน์จากเรื่องจริง ของ อ.องคุลีมาร ที่นำมาให้ชมเป็นประจำ เกี่ยวกับ การเป็นครู หรือ การทำงานที่แสนหนักของคนที่พิการ ว่าทำไมเข้าจึงไม่เคยท้อเลย ทำไมเข้าทำได้ ทุกอย่างมันไม่อยู่ที่ใคร มันอยู่ที่ใจของเราเอง   ขอเพียงแค่เรามีความตั้งใจ และไม่ย่อท้อ ย่อมฟันฝ่ามันไปได้ ถึงแม้จะเป็นความทุกข์ แต่ความสุข ก็ยังมีให้ชื่นใจเสมอ  ปัญหาทุกอย่างย่อมมีทางออกเสมอค่ะ ดิฉันเชื่อว่า ถ้าเพื่อนๆ ป.บัณฑิต อดทนอดกลั้น และผ่าน การทำงานอย่างหนัก ย่อมค้นพบจิตวิญญาณ ของความเป็นครูอย่างแน่นอน   ดิฉันมีเพลงอยู่เพลงหนึ่ง มีความหมายดีๆ ถ้าลองอ่านเนื้อร้องดู   ซึ่งบางท่อนก็ป็นกำลังใจให้ตัวฉันเอง และหว้งว่าเพื่อนๆ ป.บัณฑิต ทุกๆคนจะชอบเหมือนๆกันนะค่ะ

หวังว่าทุกๆ คน จะเป็น ว่าที่ครู ที่ดี ทุกคนนะค่ะ

 

หนึ่งคนบนพื้น ที่ไม่อาจขัดขืนผู้ขีดชะตา

สั่งให้แพ้ตลอดมา ให้ดวงตาและใจเจอะทางตัน

หนึ่งคนที่ท้อ จนอยากที่จะพอและอยากจะถอย

ทิ้งชีวิตให้หลุดลอย จากข้างบนที่สูงเพื่อจบมัน

เคยเป็นฉันที่เคยคิดทำ ในวันที่ไหวเอน

แต่พอได้ยืนข้างบนที่สูงฉันก็ได้รู้

ว่าอยู่ยิ่งสูงยิ่งเห็น ยิ่งสูงยิ่งมองได้ไกล

และได้เห็นในมุมมองที่กว้างใหญ่

เปิดความคิดให้ใจจากสายตา

ว่าเราควรยืนมองดู อยู่เหนือหัวใจแห่งปัญหา

และจะเห็นทุกเรื่องราวไม่หนักหนา

หมื่นทางตันยังมีทางนึงให้ออกเสมอ

หนึ่งคนบนพื้น จะเจอะเจอวันคืนที่เจ็บเท่าไร

เปิดดวงตาและเปิดใจ จะไม่มีอะไรมาบั่นทอน

หนึ่งคนคนนี้ จะเจอะสิ่งไม่ดีอีกสักแค่ไหน

ใช้ชีวิตอย่างเข้าใจ ภาพข้างบนที่สูงได้สั่งสอน

จะเป็นคนไหนที่เคยคิดทำ ในวันที่ไหวเอน

แค่ลองได้ยืนข้างบนที่สูงแล้วก็จะรู้

ว่าอยู่ยิ่งสูงยิ่งเห็น ยิ่งสูงยิ่งมองได้ไกล

และได้เห็นในมุมมองที่กว้างใหญ่

เปิดความคิดให้ใจจากสายตา

ว่าเราควรยืนมองดู อยู่เหนือหัวใจแห่งปัญหา

และจะเห็นทุกเรื่องราวไม่หนักหนา

หมื่นทางตันยังมีทางนึงให้ออกเสมอ

จะเป็นคนไหนที่เคยคิดทำ ในวันที่ไหวเอน

แค่ลองได้ยืนข้างบนที่สูงแล้วก็จะรู้

ว่าอยู่ยิ่งสูงยิ่งเห็น ยิ่งสูงยิ่งมองได้ไกล

และได้เห็นในมุมมองที่กว้างใหญ่

เปิดความคิดให้ใจจากสายตา

ว่าเราควรยืนมองดู อยู่เหนือหัวใจแห่งปัญหา

และจะเห็นทุกเรื่องราวไม่หนักหนา

หมื่นทางตันยังมีทางนึงให้ออกเสมอ

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

หมายเลขบันทึก: 360680เขียนเมื่อ 22 พฤษภาคม 2010 19:54 น. ()แก้ไขเมื่อ 12 กุมภาพันธ์ 2012 14:16 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (9)

สวัสดีค่ะ คุณมาตายี

ขอบคุณมากค่ะ

ที่มอบกำลังใจดีๆ ให้นะค่ะ

สวัสดีจ้ะคุณครูฟ้าใส

  • เห็นด้วยนะว่า เป็นครูดีไม่ใช่เรื่องง่าย
  • เป็นกำลังใจให้อีกแรงจ้ะ  สู้ ๆ
             

สวัสดีค่ะ คุณแจ่มใส

ยินดีที่ได้รู้จักนะค่ะ

และขอบคุณสำหรับกำลังใจดีๆ ด้วยค่ะ

ครูฟ้าใส ก็ขอเป็นกำลังใจให้ด้วยเช่นกันค่ะ

เขียนมาจาก "หัวใจ" ข้างในเลยใช่ไหม ?

ครูจะทำหน้าที่ผลักดันลูกศิษย์ให้เป็นครูที่ดี มีความสามารถให้ได้

ขอให้ "คุณครูฟ้าใส" เป็นส่วนหนึ่งในลูกศิษย์ครูด้วยแล้วกันนะ ;)

"... กว่าจะฟ้าจะใส ก็ย่อมต้องเกิดพายุอยู่หลายครั้ง ..."

สวัสดีค่ะ อาจารย์ องคุลีมาร

ก่อนอื่นต้อง ขอบอกความรู้สึกจากใจเลยว่า

วิชาของอาจารย์ยากมากเลยค่ะ แต่สิ่งที่ได้

จากความยากๆนั้น ย่อมมีความหมายเสมอไม่มี

สิ่งใดที่มีค่า แล้วได้มาง่ายๆ แน่นอน

หนูอยากขอบคุณอาจารย์ ในทุกเรื่องๆ

และหนู ดีใจค่ะ ที่ได้เป็น หนึ่งในลูกศิษย์

ของอาจารย์

หนูสัญญาว่า จะเป็น ครูที่ดี ให้ได้ค่ะ :)

สวัสดีคุณครูฟ้าใส

ซึ้งน้ำตาแทบไหล

อยากเป็นลูกศิษย์ของคุณครู ฟ้าใสจังเลย ครับ

....

.....จากบ่าวเทวดา

สวัสดีค่ะ ว่าที่ คุณครู "เทวดาเดินดิน"

ขอบคุณที่เข้ามาเป็น กำลังใจให้กันนะค่ะ

แล้วก็ ขอให้ ประสบความสำเร็จ

ในอาชีพครู เช่นกัน นะค่ะ

: ) ไม่มีอะไรทำให้เราแพ้ได้ ถ้าใจเราไม่ยอมแพ้ ค่ะ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท