เจ็ดสิ่งที่ควรหยุดทำทันทีใน facebook


facebook

เจ็ดสิ่งที่ควรหยุดทำทันทีใน Facebook

บทความนี้เรียบเรียงจาก 7 Things to Stop Doing Now on Facebook
by Consumer Reports Magazine Wednesday, May 12, 2010

1. ใช้รหัสผ่านแบบง่าย ๆ

หลีกเลี่ยงการใช้ชื่อธรรมดาหรือคำสามัญที่พบได้ในพจนานุกรม
หรือตัวเลขที่ลงท้ายรหัสผ่านดังกล่าว
ควรใช้การผสมผยัญชนะ(อักษรอังกฤษ)
ตัวใหญ่หรือตัวเล็ก ระหว่างด้านหน้า ด้านหลังตัวอักษร
หรือด้วยตัวเลขหรือสัญลักษณ์
รหัสผ่านควรมีแปดตัวอักษรอย่างน้อย เทคนิคที่ดีอย่างหนึ่งคือ
การเพิ่มตัวเลขหรือสัญญลักษณ์ระหว่างกลางคำผ่าน
เช่นตัวอย่างคำผ่าน  houses  เป็น hO27usEs!

มีบทความส่วนหนึ่งที่ผมได้เขียนไว้เรื่อง รหัสผ่านคาดเดายาก
http://www.pantip.com/tech/techblog/article.php?articleID=BA2882742

2. ระบุวันเดือนปีเกิดในข้อมูลสาธารณะ
โจรภัยทางข้อมูลแบบเบื้องต้น
ผู้ไม่หวังดีมักจะใช้ในการค้นหาข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับตัวคุณ
เพราะมันจะมีประโยชน์อย่างมากในการเข้าถึงข้อมูลธนาคารหรือบัตรเครดิต
ถ้าคุณได้ระบุวันเกิด ให้กลับไปที่ข้อมูลส่วนตัว เข้าไปแก้ไขข้อมูลส่วนตัว
ระบุข้อมูลพื้นฐานคือ ไม่แสดงวันเกิดในข้อมูลส่วนตัว หรือ
แสดงเฉพาะวันและเดือนเกิดในหน้าข้อมูลส่วนตัว

(การติดต่อเกี่ยวกับบัตรเครดิต จะถูกสอบถามข้อมูลเรื่องนี้ด้วย)

3. ตรวจสอบการใช้งานของข้อมูลส่วนตัว
ข้อมูลทั้งหมดใน Facebook
คุณควรกำหนดสิทธิ์ในการเข้าถึงของเพื่อน
หรือเพื่อนของเพี่อน หรือตัวตุณเอง
เช่น  การเข้าชมรูปภาพ วันเกิด ศาสนา และข้อมูลของครอบครัว
หรือสิ่งอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องกับตัวคุณเอง เช่น ข้อมูลในการติดต่อ  เบอร์โทรศัพท์ ที่อยู่
ควรจำกัดสิทธิ์เฉพาะบุคคลหรือกลุ่มที่สามารถจะเข้าถึงข้อมูลดังกล่าว  
หรือจัดการบล็อก(ห้าม)บุคคลบางคน
หรือไม่ให้บุคคลภายนอกสามารถเข้าถึงข้อมูลดังกล่าว

4. ระบุชื่อบุตรหลาน โดยมีข้อความที่อธิบายหรือตำบรรยายใต้ภาพประกอบ
ใม่ควรระบุชื่อบุตรหลานหรือป้ายกำกับ(tags)หรือ
มีคำอธิบาย/บรรยายรายละเอียดใต้ภาพ
ถ้าเกิดมีคนอื่น/เพื่อนคุณทำเช่นว่านั้น  
ก็ขอให้แก้ไขหรือลบออกพร้อมกับป้ายกำกับด้วย

แต่ถ้าชื่อบุตรหลานของคุณไม่ได้อยู่ใน Facebook  
แต่ได้มีบางคนได้ระบุข้อมูลดังกล่าวไว้ใน
ป้ายกำกับ(tags) หรือ หรือมีคำอธิบาย
หรือบรรยายรายละเอียดใต้ภาพ
ก็ขอให้เจ้าของข้อมูลดังกล่าวแก้ไข/ลบออกด้วย

(เป็นข้อมูลเบื้องต้นของผู้ไม่หวังดี ในการแสวงหาประโยชน์มิชอบ
เพราะจะทราบว่าเป็นลูกหลานใคร ครอบครัวมีฐานะการเงินอย่างไร)

5. การบอกว่า กำลังออกจากบ้าน
เป็นนัยที่สื่อความหมายว่า ไม่มีใครอยู่ในบ้าน
หรือคล้ายเป็นการปิดป้ายว่า “ไม่อยู่” ไว้ที่หน้าบ้านเช่นกัน
ให้รอจนคุณกลับถึงบ้านแล้วค่อยบอกถึง
การผจญภัยหรือความสนุกสนานที่ผ่านมา
ในการเดินทางหรือการใช้วันหยุดพักผ่อน  
โดยอาจจะไม่ต้องระบุวันเดือนปีที่เดินทางก็ได้
หรือระบุวันเดือนปีที่เดินทางให้คลุมเครือไม่ชัดเจน

6. การปล่อยให้ Facebook ค้นหา พบคุณ
เพื่อป้องกันคนแปลกหน้าเข้าถึงหน้าข้อมูลของคุณ
ให้ไปที่การค้นห้าของ Facebook ข้อมูลส่วนตัว
และเลือกเฉพาะเพื่อนเท่านั้นของ Facebook
ที่จะค้นพบข้อมูลดังกล่าว
และให้มั่นใจว่ากล่องข้อมูลสาธารณะ
ไม่ได้ระบุให้เข้าถึงข้อมูลดังกล่าวได้

7. อย่าให้เด็กใช้ Facebook โดยไม่ตรวจสอบควบคุม
แม้ว่า Facebook จะไม่อนุญาตให้เด็ก
อายุต่ำกว่าสิบสามขวบหรือยังไม่ถึงเกณฑ์ใช้งาน
แต่หลายคนก็สามารถปลอมอายุเข้ามาใช้ได้
ถ้าคุณมีเด็กหรือวัยรุ่นในความปกครองที่ใช้ Facebook
วิธีการที่ดีที่สุดในการตรวจสอบและควบคุม คือ
การเข้าร่วมเป็นสมาชิกในกลุ่มเพี่อนของเขา
หรือให้ใช้ email ของคุณแทนในการติดต่อระหว่างบัญชีของเขา
เพื่อที่คุณจะได้รับข้อความหรือตรวจสอบการใช้งานของเขา

“เพราะสิ่งที่พวกเขาคิดว่าไม่เป็นไร ไม่มีอะไร
กลับกลายเป็นสิ่งที่เลวร้ายอย่างง่ายดาย”

เป็นคำกล่าวของ Charles Pavelites,
ผู้ชำนาญการพิเศษของหน่วยงาน
ศูนย์รับเรื่องราวร้องทุกข์จากอาชญากรรมทางอินเตอร์เนต

ยกตัวอย่างเช่น มีเด็กคนหนึ่งมักจะบอกว่า
"แม่กำลังจะกลับบ้านแล้ว ฉันต้องไปล้างจานแล้ว"
มักจะบอกทุก ๆ วัน ในเวลาเดิมเสมอ
มันเป็นการบอกเวลาที่ชัดเจนมาก
เกี่ยวกับการเดินทางไปกลับของพ่อแม่

(ทำให้ผู้ร้ายสามารถกะระยะเวลาที่บ้านไม่มีผู้ใหญ่อยู่
เข้ามาก่อกรรมทำร้ายได้ในช่วงเวลาดังกล่าว)

 

หมายเลขบันทึก: 358511เขียนเมื่อ 14 พฤษภาคม 2010 12:18 น. ()แก้ไขเมื่อ 12 กุมภาพันธ์ 2012 14:08 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท