ประเทศไทยเวลานี้มีจังหวัดด้วยกันทั้งสิ้น 76 จังหวัด
แต่อีกไม่นานนักเราจะมีจังหวัดที่ 77 เกิดขึ้นนั่นคือ "จังหวัดบึงกาฬ" แล้ว
เพราะกระทรวงมหาดไทยจะนำเรื่องนี้เข้าที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.)
เสนอเป็นพ.ร.บ.จัดตั้งจังหวัด หลังจากที่มีการร้องขอมาตั้งแต่ปี 2537
ตามข้อเสนอของ นายสุเมธ
พรมพันห่าว ส.ส.พรรคเสรีธรรม จ.หนองคาย
ข่าวนี้สร้างความดีใจให้กับประชาชนเป็นอย่างยิ่ง โดยเฉพาะชาวบึงกาฬ
เพราะพวกเขาเหล่านั้นรอคอย และตั้งความหวังมานาน
เนื่องจากสภาพพื้นที่อยู่ไกล กันดาร ความเจริญยังเข้าไม่ถึง
แต่ต่อไปนี้ความเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่กำลังจะมาถึงเร็วๆ นี้ !!!
นายเลิศพรไชย ไชยฤทธิ์
นายอำเภอบึงกาฬ จ.หนองคาย
เปิดใจกับ "ไทยรัฐออนไลน์" เป็นเรื่องที่น่ายินดีแทนพี่น้องชาวบึงกาฬ
และอำเภอใกล้เคียง ที่จะได้มารวมตัวกันเป็นจังหวัดใหม่
เพราะจะทำให้สิ่งต่างๆ ในการอำนวยความสะดวกขั้นพื้นฐาน เช่น
สาธารณูปโภค ถนนหนทาง การคมนาคม ที่สำคัญคือเรื่องเศรษฐกิจ
จะเข้ามามากขึ้น
และจะมีความมั่นคงและเจริญมากขึ้นกว่าตอนที่เป็นแค่อำเภอ
ส่วนเรื่องความคิดเห็นของชาวบ้านนั้น 95%
ของชาวบ้านทั้งหมดก็เห็นด้วยในเรื่องนี้
เพราะก่อนที่จะมีการเสนอเรื่องนี้ขึ้นมาต้องผ่านการทำประชาพิจารณ์ก่อนชาวบ้านในทุกภาคส่วนก็เห็นด้วย
รวมทั้งภาคเอกชนก็ให้การสนับสนุน ประชาชนส่วนใหญ่ในอ.บึงกาฬ 95%
ล้วนแต่เป็นสัญชาติไทยทั้งสิ้น
ถึงพื้นที่ส่วนหนึ่งของเราจะติดกับประเทศลาวก็ตาม
ไม่ได้มีปัญหาเรื่องของคนต่างด้าวลักลอบเข้าเมือง
เพราะทางเราจะมีมาตรการจัดการอยู่แล้ว
"คิดว่าพอได้เป็นจังหวัดแบบเต็มตัว
จะเกิดการเปลี่ยนแปลงขึ้นอย่างแน่นอน
ทั้งในเรื่องของความเป็นอยู่ของชาวบ้าน เรื่องของเศรษฐกิจ
จะมีความเจริญมากขึ้น
เพราะโดยส่วนมากการกระจายความเจริญจะมาจากจังหวัด และมาสู่อำเภอ
ก่อนส่งต่อไปสู่หมู่บ้านต่างๆ เพราะฉะนั้นการที่จะได้เป็นจังหวัดนี้
มันจึงเป็นเรื่องที่ดีมากๆ"
ด้านน.ส.มณีรัตน์ พาวงค์
ครูสอนวิชาภาษาอังกฤษของโรงเรียนบึงกาฬ อ.บึงกาฬ จ.หนองคาย กล่าวว่า
ควรจะตั้งได้แล้ว เพราะอ.บึงกาฬได้ยื่นเรื่องไปนานแล้ว
ชาวบ้านต่างมีความหวัง และตั้งตารอคอย
ซึ่งมันจะมีผลดีต่อชาวอ.บึงกาฬและอำเภอใกล้เคียงที่มาเข้าร่วมในครั้งนี้ด้วย
ยิ่งตอนนี้นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ เริ่มทยอยมาเที่ยวในอำเภอมากขึ้น
เพราะในอ.บึงกาฬ และ อำเภอใกล้เคียง
มีสถานที่ท่องเที่ยวขึ้นชื่อมากมายหลายแห่ง เช่น วัดภูทอก
หรือวัดอาฮงศิลาวาส แล้วก็ยังมีนำ้ตกที่สวยงามอีกหลายที่
นอกจากนี้ยังติดแม่นำ้โขง มีชายหาดที่สวยงามอีกหลายแห่ง
ขณะที่นายชวนะ ทวีอุทิศ อายุ 42 ปี
ชาวบ้านเลขที่ 418 หมู่7 ต.วิศิษฐ์ อ.บึงกาฬ เปิดเผยว่า
เป็นเรื่องที่ดีมาก เพราะอ.บึงกาฬ
เป็นอำเภอที่อยู่ห่างไกลจากตัวจังหวัดมากทีเดียว
มันจะได้เป็นจุดศูนย์กลางของอีก 8 อำเภอที่อยู่ในส่วนนี้
ส่วนในเรื่องของความพร้อม คิดว่าทางอ.บึงกาฬมีความพร้อม
เพราะเรามีทั้งศาลจังหวัด อัยการจังหวัด ที่เป็นหลักไว้แล้ว
ในส่วนของชุมชน จะมีผู้นำที่มาประชุมทุกเดือน อย่างกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน
หัวหน้าส่วนราชการ พวกเราต่างก็ดีใจ เพราะรอมานานแล้ว
และเรื่องที่คิดว่าจะมีการตื่นตัวและขยายตัวมากที่สุดคือเรื่องของเศรษฐกิจ
โดยเฉพาะในโซนของอ.บึงกาฬ มีการปลูกยางพารามากที่สุด
และชาวบ้านก็มีรายได้จากทางนี้พอสมควร
"บึงกาฬ"
เป็นอำเภอหนึ่งของจ.หนองคาย มีสถานที่ท่องเที่ยวหลายแห่ง มีน้ำตก
มีภูเขา เป็นอำเภอที่มีเขตพื้นที่ติดกับแม่น้ำโขง
และฝั่งตรงข้ามแม่นำ้โขงจะเป็นประเทศเพื่อนบ้าน (ลาว)
มีการคมนาคมที่สะดวก
มีอาณาเขตติดต่อกับเขตการปกครองข้างเคียงคือ
ทิศเหนือติดกับแขวงบอลิคำไซ (สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว)
ทิศตะวันออกติดกับอำเภอบุ่งคล้า ทิศใต้ติดกับอำเภอเซกา อำเภอศรีวิไล
อำเภอพรเจริญ และอำเภอโซ่พิสัย ทิศตะวันตก ติดกับอำเภอปากคาด
ก่อนหน้านี้ทางจ.หนองคายได้สำรวจความคิดเห็นของประชาชน จำนวน 366,903
คน ปรากฏว่าประชาชน 98.83% เห็นด้วยในการจัดตั้งจ.บึงกาฬ
องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น 126 แห่ง 96.04% เห็นด้วย
หัวหน้าส่วนราชการในอำเภอและจังหวัดเห็นด้วย 100%
ซึ่งได้มีการจัดแบ่งอำเภอ จากเดิมทั้งหมด 17 อำเภอ
ออกเป็นอำเภอที่อยู่ในจ.หนองคาย เหลือ 9 อำเภอ ประชากร 506,343 คน
ประกอบด้วย อ.เมือง, ท่าบ่อ, โพนพิสัย,ศรีเชียงใหม่, สังคม, สระใคร,
เฝ้าไร่, รัตนวาปี และโพธิ์ตาก
ส่วนอำเภอที่จะอยู่ในจ.บึงกาฬ มี 8 อำเภอ ประชากร 399,233 คน
ประกอบด้วย อ.บึงกาฬ, เซกา, โซ่พิสัย, พรเจริญ, ปากคาด, บึงโขงหลง,
ศรีวิไล และบุ่งคล้า ซึ่งในส่วนของอ.บึงกาฬ
ได้มีสถานที่ราชการสำคัญหลายแห่งตั้งอยู่
เพื่อรองรับการเป็นจังหวัดอยู่ก่อนแล้ว เช่น ศาลจังหวัดบึงกาฬ,
อัยการจังหวัด, เรือนจำจังหวัดบึงกาฬ
*ที่มา-ไทยรัฐออนไลน์
วันเสาร์ที่ 8 พฤษภาคม พ.ศ.2553
สภาชุดนี้ก็ใกล้จะโบกมือลาแล้ว จ.บึงกาฬคงต้องรอต่อไป