หนอนหนังสือ
สวัสดีค่ะคุณผู้อ่านทุกท่านวันนี้ กลับมาอีกแล้ว กับเรื่องเล่าจากประสบการณ์ชีวิตจริง มีที่ไม่กี่ที่หรอกค่ะ ที่จะเป็นสถานที่โปรดสำหรับใครหลายๆคน สำหรับตัวฉันนอกจากที่บ้านตัวเอง ร้านกาแฟ และ ร้านอาหารบรรยากาศดีๆ แล้วยังมีอีกที่ ที่ชอบไปมากที่สุด ก็คือ ห้องสมุด นั่นเอง ห้องสมุดเป็นแหล่งรวมหนังสือดีๆ มากมาย และบรรยากาศดีอีกด้วย ทุกครั้งที่ฉันไปห้องสมุดก็จะพบว่า ห้องสมุดจะมีกลุ่มคน หลายกลุ่มที่มาใช้ห้องสมุด
- กลุ่มแรกก็มานั่งอ่านหนังสืออย่างเดียว
- กลุ่มสองก็มานั่งคุยกันและนั่งทำการบ้าน
- กลุ่มสามก็มาเพื่อหลับเพราะห้องมันเงียบและเย็นสบายดีด้วย
แต่สำหรับตัวฉัน สาเหตุที่ชอบมาห้องสมุด ก็เพราะมีหนังสือเล่ม โปรด Harry Potter หรือ the lord of the ring , twalight หนังสือเหล่านี้ล้วนแต่เป็นหนังสือที่ถูกสร้างเป็นภาพยนตร์ทั้งนั้น และเป็นที่โปรดปรานของกลุ่มคนหลากหลายกลุ่มเช่นกัน คนส่วนใหญ่เมื่อไปชมภาพยนตร์โดยที่ไม่ได้อ่านหนังสือไปก่อน ก็จะไม่รู้ว่าฉากบางฉากในหนังได้ถูกตัดตอนไป และไม่ตรงกับเนื้อหาจริง จึงทำให้ขาดอรรถรสในการชม แต่ถ้ามีโอกาศได้อ่านหนังสือก่อน ก็จะทำให้เราสามารถจินตนาการไปพร้อมๆกับฉากในภาพยนตร์ได้เป็นอย่างดี สำหรับหนังสือที่ฉันชอบมากที่สุดตอนนี้ ก็คงหนี้ไม่พ้น Harry Potter ซึ่งฉันชอบในตัวผู้เขียนมาก เธอเป็นคนที่น่าสนใจมากเลยทีเดียว
สำหรับประวัติของผู้แต่ง Harry Potter นั้น ปัจจุบันเธอ มีทรัพย์สินร่วม 2,000 ล้านบาท ขึ้นทำเนียบบุคคลรวยที่สุดอันดับ 122 ของอังกฤษเธอคือ โจแอนน์ "โจ" โรว์ลิ่ง (Joanne "Jo" Rowling, OBE) หรือที่รู้จักในนามปากกา เจ. เค. โรว์ลิ่ง เธอเขียนหนังสือเรื่องแรกของเธอมีชื่อว่า Rabbit เมื่ออายุเพียงห้าขวบแฮร์รี่ พอตเตอร์ ได้ถือกำเนิดขึ้น ในปี 1990 ขณะที่เธออยู่บนรถไฟระหว่างสถานีแมนเชสเตอร์ และคิงส์ครอสในลอนดอน โจแอนก็แว่บความคิดเกี่ยวกับเด็กกำพร้าผู้ค้นพบว่าเขาคือพ่อมด เธอรีบตรงกลับบ้านและบันทึกความคิดนี้ลงบนกระดาษทันที และนี่คือจุดเริ่มต้นของโปรเจกต์ที่จะเสร็จสมบูรณ์ในหกปีต่อมา
ผลงานทั้งหมดเกี่ยวกับ Harry Potter
แฮร์รี่ พอตเตอร์กับศิลาอาถรรพ์ ผลงานชิ้นแรกของเธอได้โอกาสตีพิมพ์ครั้งแรกเมื่อปี 1997
แฮร์รี่ พอตเตอร์กับศิลาอาถรรพ์สำหรับการจัดจำหน่ายในสหรัฐฯเมื่อปี 1998
แฮร์รี่ พอตเตอร์กับถ้วยอัคนี ผลงานเล่มที่ 4 และ แฮร์รี่ พอตเตอร์กับภาคีนกฟีนิกซ์ ผลงานเล่มที่ 5 ที่ออกสู่สายตาแฟนหนังสือเมื่อปี 2003
ในที่สุดปี2005 ผลงานภาคที่6ของเธอ แฮร์รี่ พอตเตอร์กับเจ้าชายเลือดผสมออกวางจำหน่าย โดยในวันแรกสามารถขายได้มากถึง 850,000เล่ม
ปลายปี2006เธอได้ประกาศชื่อตอนของเล่มที่ 7 ซึ่งชื่อนั้นก็คือ Harry Potter and the Deathly Hallows และเป็นตอนที่น่าติดตามที่สุด เพราะว่าฉันอยากรู้ว่าแฮรี่จะตายหรือเปล่า ถ้าเพื่อนๆสนใจ อ่านวรรณกรรมเยาวชน ฉันก็อยากให้หนังสือ Harry Potter ทั้ง 7 ภาคเป็นอีกท่างเลือกในการอ่านได้นะค่ะ
และในกลางปี 2007 ที่ผ่านมานี้ราวเดือนกรกฎาคม แฮร์รี่ พอตเตอร์ภาค7 ก็ได้วางจำหน่าย เฉพาะวันแรกที่วางจำหน่ายแล้วสามารถขายได้ถึง 1.2 ล้านเล่ม เฉพาะที่อังกฤษเท่านั้น ไม่ถึงอาทิตย์ขายไปได้ถึง 44 ล้านเล่ม ในไม่กี่วัน ลบล้างสถิติของภาคที่ 6 ไปอย่างถล่มทลาย และชื่อภาษาไทยคือ แฮร์รี่ พอตเตอร์กับเครื่องรางยมทูต และนี่ก็เป็นหนังสือเล่มโปรดของฉัน ซึ่งอ่านกี่ครั้งก็ไม่เคยเบื่อ และสามารถสร้างแรงบันดาลให้ผู้คนทั่วโลก จากที่ได้อ่านประวัติของ เจ เค นั้น ฉันคิดว่าเธอ เป็น "หนอนหนังสือ " พอสมควร เพราะการปลูกฝังในการรักการอ่านของพ่อกับแม่ของเธอตั้งแต่ 5 ขวบ ก็ทำให้เธอสามารถเป็นนักเขียนหนังสือชื่อดังจนถึงทุกวันนี้ ฉันคิดว่านิสัยรักการอ่านเป็นสิ่งที่ดีเราสามารถปลูกฝังให้เด็กและผู้คนจำนวนมากให้รักการอ่าน เพราะจะทำให้เรา เป็นผู้มีความรู้ในศาสตร์และศิลป์ได้เป็นอย่างดี และนักอ่านที่ดีเมื่อมีหนังสือดีๆ ก็ขอให้มาแลกเปลี่ยนประสบการณ์กัน เพื่อจะได้มีความรู้ใหม่ๆ เพิ่มมากขึ้นนะค่ะ
ขอบคุณข้อมูลและภาพสวยๆจากgoogel ด้วยจ้า
ความเห็น (4)
ชอบหนังสือเล่มนี้มากครับ ไปเชียงใหม่หลายครั้งมาก คิดไม่ออกว่า โรงเรียน ลบจั่น เอ้ยบวกจั่นอยู่ที่ไหนครับ
ขอบคุณที่มาเยี่ยมชมนะค่ะ
ชอบวรรณกรรมเรื่องนี้มากค่ะ
ดูภาพยนตร์ตั้งแต่อายุยังไม่ 20 ปี
แต่ตอนนี้อายุเลย20มา แล้วค่ะ
โรงเรียนบวกจั่นอยู่ที่ อำเภอแม่ริม ติด อำเภอสะเมิง ค่ะ
สวัสดีค่ะ..ครูฟ้าใส
นับถือนะค่ะ สำหรับแฟนแฮรี่ พ็อตเตอร์ตัวจริง พี่ไม่ได้อ่านหนังสือหรอกค่ะแต่ดูเป็นหนังมากกว่า ยอมรับนะค่ะไม่ใช่แฟนหนังสือของ เจ เค โรว์ลิ่ง แต่เธอเก่งนะในด้านจินตนาการเขียนออกมาได้ยังไง มีคนทั่วโลกซื้อหนังสือเธออ่าน ชื่นชมค่ะ
สวัสดีค่ะ คุณเขียวหวาน
แสดงว่าชอบอ่านจริง ชอบดูมากกว่าไม่ค่อยได้อ่านเพราะมันยาวเกินไป