หนังสือ คือ อาหารสมอง คำนี้คงไม่ผิด เพราะหนังสือเป็นแหล่งเก็บความรู้จากผู้มีประสบการณ์นำมาถ่ายทอดให้แก่ผู้ที่สนใจ ใฝ่เรียนรู้ หนังสือทุกเล่มที่มีอยู่บนโลกล้วนน่าอ่านทั้งสิ้น แต่ขึ้นอยู่กับความสนใจส่วนบุคคล
มีคนกล่าวไว้ว่า
"การอ่านหนังสือ ไม่ได้อ่านเพียงให้รู้ แต่เราอ่านเป็นข้อมูลในการคิด การคิดต่อไปถึงเหตุและผล และอะไรที่จะทำให้ได้ผลดีกว่าสิ่งที่เกิดขึ้นแล้ว การอ่านเป็นการเติมอาหารสมอง ของการคิด การคิดจะนำไปสู่พฤติกรรมและการกระทำ"
"การไม่อ่าน ไม่ดู ไม่ฟัง ไม่สังเกต จะทำให้เราขาดความรู้ในเรื่องนั้นๆไปชั่วขณะ"
คำกล่าวนี้อ้างอิงจาก http://blog.spu.ac.th/readmore/2008/02/28/entry-1 โพสโดยคุณ dekkid
Computer Today
เป็นนิตยาสารเกี่ยวกับเทคโนโลยี ข่าวสารไอที เนื้อหาในหนังสือจะเกี่ยวกับเทคนิค ข้อมูลข่าวสารหรือสิ่งประดิษฐ์ใหม่ๆ คำถาม คำตอบที่เป็นเนื้อหาสาระ วิธีแก้ไขปัญหาคอมพิวเตอร์ หรือแม้แต่มีอะไรมาใหม่ ลูกเล่นในคอมพิวเตอร์ของคุณที่อาจคิดไม่ถึง วิธีป้องกันไวรัส หรือเทคโนโลยี 3G iphone สิ่งเหล่านี้มีให้หาอ่านในหนังสือ computer today หรือหนังสือที่เกี่ยวข้องกับข่าวสารเทคโนโลยีใหม่ๆ ถ้าสนใจข้อมูลย้อนหลังก็สามารถเข้าไปหาอ่านดูได้ตาม Link นี้เลยครับ http://www.arip.co.th/articles.php?mag=CTM
อีกเล่มที่ชอบคือ Rich Dad Poor Dad เขียนโดย Robert T. Kiyosaki
หนังสือเล่มนี้ถือเป็นเล่มที่โปรดปรานเช่นกัน
เนื้อหาในหนังสือได้กล่าวถึง พ่อรวยสอนอะไรที่พ่อจนไม่เคยสอน เนื้อหาในหนังสือสอนอะไรดีๆ หลายเรื่อง ต้องขอบคุณผู้เรียบเรียงหนังสือเล่มนี้ คุณนันทวัน รุจิวงค์ ที่เรียบเรียงหนังสือน่าอ่านเล่มนี้ให้คนไทยได้อ่านกัน
ใน Rich Dad Poor Dad มีคำสอนหนึ่งที่ผมชอบมาก คือ
พ่อรวยสอนว่า "บ้าน เป็นหนี้สินที่ใหญ่ที่สุดและไม่ใช่การลงทุน"
พ่อจนสอนว่า "บ้าน เป็นการลงทุนและทรัพย์สินที่ใหญ่ที่สุด"
นี่คือหนังสือที่ผมชอบอ่าน "หนังสือเล่มโปรดของฉัน"
สวัสดีคะ คุณ star dust
เห็นด้วยกับคำพูดที่ว่า หนังสือ คือ อาหารสมอง
เพราะนอกจากร่างกายจะต้องการอาหารแล้ว สมองก็ต้องการอาหารเช่นกัน
ขอบคุณที่แนะนำหนังสือดีดี นะคะ
ขอบคุณคะ ^_^
ยินดีครับ คุณครูดินสอสี