สิ่งดี ๆ หลังวันสงกรานต์
วันนี้เริ่มต้นเลยครับ กับเทศกาลวันขึ้นปีใหม่ ที่คนไทยเรียกกัน ส่วนคนเหนือแบบผมนั้นเรียกสั้นๆ ง่ายๆ "ปี๋ใหม่เมือง" เริ่มจากวันที่ 13 เมษายน ไปเที่ยววัดพระสิงห์ไปสรงน้ำพระที่วัดพระสิงห์ เป็นวัดคู่บ้านคู่เมืองของจังหวัดเชียงใหม่ พอถึงตอนเย็นก็ไปร่วมดูงานสืบสานประเพณีของคนเมืองเชียงใหม่ นั่นคือ การแข่งขันประเพณีตีกลองสะบัดชัย เป็นงานที่สนุกมากๆ ผู้คนมากๆ เข้ามาชม ความเก่งของเด็กๆ ที่ยังมีหลงเหลือในสังคมไทย ซึ่งแทบบอกได้เลยว่าน้อยมากครับ ผมได้ฟังผู้ประกาศเล่าถึงความสามารถเด็กๆ เพราะผมนั่งดู ไม่ใช่จะแค่เพียงผู้ชายเท่านั้นที่สามารถตีกลองได้ ผู้หญิงก็สามารถตีได้ และที่ผมอื้งกับการตีกลองสะบัดชัยของเด็กหญิง อายุน่าจะไม่เกิน 5 ขวบนะครับ ซึ่งในทีมแต่ละคนก็จะมีทั้งผู้หญิงผู้ชายปะปนกันไป ซึ่งในทีมนั้นจะมีทั้งฆ้องเพื่อตีให้จังหวะ และฉาบเป็นตัวเล่นของทีมและสร้างสีสันให้แก่ทีม แต่ละทีมจะมีคนไม่เกิน 10 คน แต่ทีมนี้น่าทึ่งมากครับ ผมดูแล้วยังส่งกำลังใจไปให้กับน้องเขา ผมได้ดูตั้งแต่เริ่มต้นจนจบ มีทีมเข้าร่วมแข่งขัน 10 ทีม ซึ่งเป็นสิ่งที่ดูแล้วภาคภูมิใจแทนปู่ย่าตายาย ของเราที่ลูกหลายของเค้ายังไม่เคยละทิ้งประเพณีที่สืบต่อกันมานานแสนนาน ในวัดมีงานรื่นเริงเยอะมาก มีทั้งสรงน้ำพระ หยอดเหรียญทำบุญพระวันเกิด และนักร้องลูกทุ่งสับเปลี่ยนกันขึ้นร้องเพลงให้ผู้คนที่ได้รับชมฟังแบบเพลิดเพลิน ผมกลับบ้านตอนเกือบ 4 ทุ่ม แต่วันนี้บอกตามตรงครับ ว่าเป็นวันที่มีความสุขมากเหมือนกับตัวเองเป็นส่วนหนึ่งของงานเลยทีเดียว เพราะประเพณีบ้านเรานั้นมีความเป็นตัวเองสูงและฝรั่งมาดูยังต้องยืนยิ้มไม่หุบเลย
วันที่ 14 เมษายน วันนี้ตื่นเช้าเลยทีเดียววันนี้คนเหนือถือว่าวันนี้เป็นวันเน่า ของคนเมืองเรา วันนี้เราจะไม่มีการด่ากัน ตามความเชื่อของคนเหนือเรา วันนี้เป็นวันที่ขอไปสาดน้ำในคูเมืองสักหน่อย นับว่าเป็นวันที่มีความสนุกสนานมาก แต่ก็มีสิ่งขัดความสนุกก็คือแสงแดด ที่ส่องแสงมาร้อนมากแต่ก็ไม่สามารถจะหยุดความคิดที่เราจะไปเที่ยวให้สนุกในวันสงกรานต์ของเชียงใหม่เรา ผมออกจากบ้านประมาณเกือบ 11 โมงละนะครับ แต่แปลกมากเมื่อไปถึงคูเมืองปรากฎว่า คนไม่ค่อยมี ผมเกิดความคิดได้เลยว่าเพราะการเมืองหรือเปล่าหรือเพราะความร้อน แต่พอผมเดินเล่นได้สักพัก ผู้คนก็เริ่มทะยอยเข้ามาเล่นน้ำในคูเมืองเชียงใหม่ จนตอนบ่ายการจราจรเริ่มติดขัดและเป็นอัมพาตในที่สุด แต่ก็มีความสุขมากมาย วันนี้เลิกเล่นเกือบเย็น ที่เลิกเล่นเพราะเริ่มมีอาการคันเพราะน้ำในคูเมืองไม่ค่อยสะอาดเท่าไรเลยครับ วันนี้ตอนแรกจะไปสรงน้ำพระอีกแต่ก็จนปัญญาครับ เนื่องจากวัดที่เราจะไปนั้น การจราจรติดขัดมาก สุดท้ายกลับบ้านอาบน้ำหลับเลย เพราะเหนื่อยจากการเล่นน้ำมากเลย พอได้เวลาประมาณ 2 ทุ่มก็ขับรถกลับบ้าน เพราะต้องไปทำบุญกับพ่อและแม่ที่บ้านที่ดอยหล่อ เพราะต้องไปถวายทานไปหา ปู่ ย่า ตา ยาย ผมที่ท่านได้ล่วงลับไปนานมากแล้ว ผู้เป็นที่รักของผมมาก
วันที่ 15 เมษาตื่นเช้า 6 โมงเช้าไปวัดกับพ่อและแม่พอไปถึงวัดก็ไปถวายทานที่โบสถ์ เพื่อถวายทานไปหา ปู่ ย่า ตา ยาย ของผมที่ท่านได้ล่วงลับไปแล้ว พอถวายเสร็จก็ไปรับศีลจากพระ รดน้ำดำหัวพระ วัดผมวันนี้มีการถวายสิ่งของผ้าห่ม หมอน มุ้ง เพื่อให้ในกิจของพระสงฆ์ด้วย นับว่าเป็นโอกาสอันดีที่เราได้ทำบุญด้วย พอได้เวลากลับจากวัด มารับประทานอาหารเสร็จดูหนังคิงคองจบ จึงได้พาแม่ไปดำหัว คุณตา คุณยาย ข้างบ้านซึ่งผมได้ทำมาตลอดเวลาตั้งแต่เล็กจนโต การรดน้ำดำหัวของเราเปรียบเสมือนการขอขมาที่เราได้ทำการล่วงเกิน ไม่ว่าจะเป็นทางกาย วาจาและใจ พอเราดำหัวพวกท่านเสร็จพวกท่านจะมีรอยยิ้มที่ร่าเริงมาก ที่ได้เห็นลูกหลานไม่เคยคิดลืมประเพณีของบ้านเรา ท่านจะมีฝ้ายที่จะคอยผูกมือเราเป็นเหมือนการปกปักรักษาจากการให้พรของท่าน ผมได้ผูกมือเหมือนคนแต่งงานเลย เพราะไปทั่วทั้งหมู่บ้านเลย วันนี้เป็นวันที่มีความสุขเช่นกัน นับว่าประเพณีปี๋ใหม่เมืองของคนเชียงใหม่ ยังไม่มีลูกหลานคนไหนละทิ้ง สืบสานประเพณี การรดน้ำดำหัว ตลอด ซึ่งเป็นภาพที่ไม่ค่อยเห็นมากในภาคไหน นอกจากภาคเหนือของเรา
" สุดท้ายกับประเพณีสงกรานต์ของเรานี้ อยากจะขอให้พระจงคุ้มครองคนไทยให้อยู่รอดมีความสุขกันทั่วไปเทอญ อย่าได้มีการทะเลาะเบาะแว้งกันอีกเลย หาความปรองดองให้แก่ประเทศเทอญ "
ความเห็น (2)
สวัสดีปี๋ใหม่ @_@ เน้อเจ้า
แวะมาเป็นกำลังใจให้ ^^
แวะเข้ามาดู
ชอบสี ข้อความจัง แสบมากค่า