ชีวิตในวัยเด็กของฉันฉันคนลำพูนเรียนหนังสือไม่เก่งเลยเป็นคนเงียบไม่ค่อยคุยกะใครไม่ค่อยกล้าที่ถามใครหรือแม้แต่กะครูที่สอนเอาเป็นว่าไม่เคยเก่งไรสักอย่างเลยเท่าที่จำได้นะไม่ว่าจะเรื่องในห้อง กีฬา หรือดนตรี เป็นไม่กล้าแสดงออก จนจบมัธยมต้นฉันได้มาเรียนต่อที่เชียงใหม่ทำให้รู้จักสังคมอีกแบบหนึ่งเจอเพื่อนที่กล้ามากทั้งร้องทั้งเต้น(ปัจุุบันเป็นครูสอนเต้นสอนร้องเพลงที่กาดสวนแก้ว) แล้้วก็เลยมีความคิดว่าเขากล้าที่จะพูด กล้าที่จะทำได้สังคมใหม่เยอะขึ้น(แล้วก็เพิ่งรู้ว่าเด็กในเมืองกะเด็กบ้านนอกนี่ต่างกันจริงๆ)พอจบ ปวช. มาเรียนที่ใหม่เจอสังคมใหม่เป็นสิ่งที่ต้องเรียนรู้ชีวิตนอกบ้านมาอยู่หอพักเป็นชีวิตที่มีทั้งความทุกข์และควาสุขมากๆ (สุขจนมีความคิดว่าใช้ช่วงเวลาชีวิตของวัยรุ่นคุ้มเกินไปคิดย้อนไปอีกทีไม่รู้ว่าผ่านช่วงนั้นมาได้ยังไง)เป็นช่วงถึงขีดที่ว่าสูงสุดและต่ำสุดของชีวิตคนๆหนึ่งจะเป็นได้ทำให้เห็นว่าคนที่รักเราอย่างจริงใจคือพ่อกะแม่อย่างที่เขาได้บอกกันจริงพอคนเรามีความทุกข์หนักสิ่งที่เราคิดถึงคนแรกก็คือพ่อกะแม่จริงๆแล้วพ่อกะแม่ก็อยู๋ข้างฉันเสมอจนเรียนจบปวส. ก็ได้มาเรียนที่ราชภัฎเชียงใหม่แล้วฉันก็ตั้งใจว่าจะไม่ทำให้พ่อกะแม่ฉันเสียใจอีก อดีตที่ผ่านมาสอนอะไรฉันได้หลายอย่างและบทเรียนที่มีค่าที่สุดคือความรักของพ่อแม่ แล้วฉันก็ทำสำเร็จจนจบปริญญาตรีด้วยเกรดที่ไม่มากแล้วไม่น้อยจนน่าเกลียดเกินไปพอที่จะหางานทำได้สบายแต่ชีวิตคนเราไม่ได้จบเพียงแค่เข้ารับพระราชทานปริญญาบัตรเท่านั้นชีวิตการทำงานชีวิตครอบครัวยังต้องเดินหน้าต่อไปสู่ต่อไปให้ชีวิตน้อยๆของเรา
ไม่มีความเห็น