แนวคิด multiversity
คำ multiversity เริ่มปี 1963 โดย Clark Kerr ซึ่งตอนนั้นเป็นอธิการบดีของมหาวิทยาลัยแคลิฟอร์เนีย โดยชี้ให้เห็นว่า มหาวิทยาลัยมีภารกิจหลายด้าน และมีความสัมพันธ์กับสังคมภายนอกอย่างซับซ้อน อ่านข้อสรุปคำบรรยายของท่านที่นี่
ผมกำลังศึกษา/ทำความเข้าใจความซับซ้อนของความสัมพันธ์ระหว่างอุดมศึกษากับสังคม ค้นไปค้นมาก็พบบทความข้างบน และเกิดความเข้าใจว่า อุดมศึกษาไทยตามหลังอเมริกันอยู่ ๕๐ ปีในหลากหลายมิติ และเกิดความเข้าใจว่าในช่วงเวลา ๕๐ ปี อุดมศึกษาไทยได้เปลี่ยนผ่านจาก อุดมศึกษาสำหรับคนเรียนเก่งเพียงส่วนน้อย (elitish) สู่อุดมศึกษาเพื่อปวงชน (mass) สู่อุดมศึกษาเพื่อทุกคน (universal coverage) ซึ่งมุมมองแบบนี้ ต้องนับรวม วชช. กับอาชีวศึกษาเข้ามาอยู่ใน “อุดมศึกษา” ด้วย โดยอาจเรียกเสียใหม่ว่า “หลังการศึกษาขั้นพื้นฐาน” (post-secondary)
นี่คือหลักการหรือแนวคิดด้านความแตกต่างหลากหลายของอุดมศึกษา แม้ในมหาวิทยาลัยเดียวกัน ก็ต้องมีความแตกต่างหลากหลาย จึงต้องมอง university ใหม่ ว่าในยุคใหม่เป็น multiversity
คำศัพท์นี้บรรจุในดิกชันนารีแล้ว อ่านความหมายใน American Heritage Dictionary, 2000 ได้ที่นี่ และใน Merriam Webster On-line Dictionary ที่นี่
คำ multiversity ถูกนำไปใช้ในความหมายที่กว้างออกไป โดยไม่จำเป็นต้องเป็นมหาวิทยาลัยตามความหมายเดิม คือไม่จำเป็นต้องประสาทปริญญา และ Wikipedia ถึงกับเอาไปใช้เป็น Wikiversity
ผมนึกถึงคำ “ประสาทปัญญา” คู่กับ “ประสาทปริญญา”
ความหมายของสถาบันอุดมศึกษาในยุคปัจจุบันดูจะนิยามกว้างออกไป เป็นชุมชนวิชาการ ที่นักวิชาการรวมตัวกันเรียนรู้ สอน วิจัย รับใช้สังคม และเล่นสนุก ความเป็น “ชุมชน” ในสมัยปัจจุบันก็ไม่จำเป็นต้องมีที่ดินและอาคารให้มาอยู่ร่วมกัน สามารถเป็น “ชุมชนเสมือน” ใน cyber space ได้ มองอย่างนี้รู้สึกว่าสถานะของสถาบันอุดมศึกษาตามรูปแบบที่เป็นอยู่กำลังถูกท้าทายนะครับ คือคนจำนวนหนึ่งจะสามารถดำรงชีวิตนักวิชาการ สนุกกับกิจกรรมทางปัญญา ได้ดีโดยไม่ต้องเป็นสมาชิกของมหาวิทยาลัยตามรูปแบบเดิมก็ได้
ทำให้ผมสงสัยว่า การปฏิวัติสารสนเทศได้เปิดอิสระให้แก่สังคม จน “วิชาการ” ไม่เป็นสิ่งผูกขาดโดยสถาบันอุดมศึกษาอีกต่อไป
เมื่อไม่มีทางผูกขาด สถาบันอุดมศึกษาในรูปแบบปัจจุบันก็ต้องปรับตัว โดยร่วมมือกับ “ชุมชนวิชาการ” ในรูปแบบอื่นๆ ในการสร้างสรรค์วิชาการ เพื่อทำประโยชน์ให้แก่สังคม ในภารกิจ “สร้างสรรค์ปัญญา”
เว็บไซต์ ของ Community Organizers Multiversity ที่ฟิลิปปินส์ บอกผมว่า นี่คือสถาบันที่ประกาศตัวว่าเป็นชุมชนเรียนรู้ภาคประชาชน เป็นการใช้ชื่อ multiversity ในอีกความหมายหนึ่ง เป็นความหมายที่ผมใฝ่ฝันและเคยเขียนบันทึกไว้ใน KM ภาคประชาสังคม หรือกระบวนการเรียนรู้ของภาคประชาชน / การเรียนรู้ตลอดชีวิตของชาวบ้าน นั่นเอง และมีกิจกรรมการเรียนรู้ของชาวบ้านที่ค้นได้ทาง อินเทอร์เน็ต มากมาย เช่น ศูนย์มหาวิชาลัยภูมิปัญญาท้องถิ่น สมุทรสงคราม, เสถียรธรรมสถาน, หอจดหมายเหตุพุทธทาส ผมเอาเว็บไซต์เหล่านี้มาลงไว้เป็นตัวอย่าง กิจกรรมทางปัญญาของชาวบ้านหรือภาคประชาชนที่ไม่ปรากฎใน cyber space ยิ่งมีมากกว่า จุดสำคัญคือสถาบันอุดมศึกษาในรูปแบบตระหนักว่ามี “ความรู้” หรือ “ปัญญา” อยู่ในกิจกรรมหรือแหล่งนั้นๆ หรือไม่ และจะเข้าไปร่วมกิจกรรมทางปัญญาอย่างไร
Multiversity ในความหมายหนึ่ง (ตามอคติของผม) คือ มหาวิทยาลัยที่มีกิจกรรมทั้งในรูปแบบเดิม และเป็นทางการ และริเริ่มสร้างสรรค์บทบาททางปัญญาใหม่ๆ ตามการเคลื่อนไหวของสังคม มหาวิทยาลัยใดปรับตัวเป็น multiversity ไม่เป็น ก็จะล้าหลัง
วิจารณ์ พานิช
๑๕ เม.ย. ๕๓
ไม่มีความเห็น