หลายท่านคงทราบกันดีว่า ปี 2553 ททท. ได้มีแคมแปญส่งเสริมการท่องเที่ยวซึ่งมีสโลแกนเก๋ ๆ ว่า "เมืองไทยใคร ๆ ก็รัก" เพื่อชักชวน ย้ำเตือนให้ชาวต่างชาวและคนไทยไม่ลืมว่าเมืองไทยยังมีสถานที่ท่องเที่ยวดี ๆ รอให้ทุกท่านมาเยือน...พักร้อนปีนี้..ได้วางแผนกันหรือยังจะเลือกทริป ปีนผา เที่ยวป่า หรือล่องทะเลกัน? โดยเฉพาะเดือนเมษายน ซึ่งเป็นเดือนที่มีวันหยุดค่อนข้างมาก ทำให้เราสามารถออกแบบการเดินทางท่องเที่ยว ชนิดที่ว่า..ใช้วันหยุดพักผ่อน พ่วงวันหยุดนักขัตฤกษ์ แถมวันลาป่วยกันไปเลยทีเดียว
วันนี้มีเรื่องราวมาเล่าความประทับใจของการเดินทางท่องเที่ยวมาเล่าสู่กันฟัง...และแน่นอนว่าหากท่านสนใจ ยังไม่ช้าไปหากจะตัดสินใจแวะไปในช่วงวันหยุดสงกรานต์ที่กำลังจะมาถึงอาทิตย์หน้านี้
แท่ม..แท๊ม..แท้ม..แทม..ภูมิใจเสนอทริปการท่องเที่ยว ดำน้ำ ชมปะการังที่อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะสุรินทร์ อำเภอคุระบุรี จังหวัดพังงาค่ะ วันหยุดที่ผ่านมาดิฉันและเพื่อนได้ซื้อแพ็คเกต ดำน้ำชมปะการังที่อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะสุรินทร์ ซึ่งถือได้ว่าเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่นักดำน้ำส่วนใหญ่ใฝ่ฝันว่าจะต้องไปเยือนให้ได้ซักวัน และคิดว่านักท่องเที่ยวที่หลงไหลกับการท่องเที่ยวเชิงนิเวศน์และใกล้ชิดกับธรรมชาติ ที่ได้มีโอกาสมาเที่ยวบนเกาะแห่งนี้จะเก็บภาพความประทับใจ กับบรรยากาศความสวยงามของธรรมชาติได้ไปแสนนาน
เพื่อความมั่นใจจึงขอคอนเฟริ์มและฟันธง ว่าการไปดำน้ำชมปะการังที่หมู่เกาะสุรินทร์เป็นอีกสถานที่หนึ่งที่ยังมีความสมบูรณ์ของธรรมชาติใต้ทะเล โดยเฉพาะความหลากหลายทางชีวภาพของสัตว์น้ำ ความสมบูรณ์ของวงจรชีวิตสัตว์น้ำตั้งแต่ปลาใหญ่ไปจนถึงฝูงปลายตัวน้อย ความยิ่งใหญ่และสมบูรณ์ของปะการังนานาชนิด ความสวยงามของหาดทรายและน้ำทะเลใส ตลอดจนความมี Service Mind ของภาคบริการด้านการท่องเที่ยวทั้งในส่วนของเอกชนและเจ้าหน้าที่อุทยานฯ
และสิ่งหนึ่งที่อยากชื่นชมนอกจากความสวยงามของธรรมชาติ คือ ระบบการจัดการท่องเที่ยวของอุทยานฯ ที่ได้มีระบบการจัดการท่องเที่ยวที่บ่งชี้ให้เห็นถึงการสร้างความยั่งยืนและการคงอยู่ของทรัพยากรธรรมชาติ บนเกาะเล็ก ๆ แห่งนี้ เจ้าหน้าที่ฯ ได้จัดระบบอำนวยความสะดวกขั้นพื้นฐานไว้สำหรับนักท่องเที่ยว เช่น ที่รับประทานอาหาร ห้องสุขา ห้องอาบน้ำ ที่พัก (เต็นท์) ไฟฟ้า ระบบการสื่อสาร การคมนาคม ไว้สำหรับผู้มาเยือนในปริมาณที่เหมาะสมและมีคุณภาพที่ดี ที่สำคัญสิ่งที่สร้างขึ้นไม่ส่งผลกระทบหรือทำลายระบบนิเวศน์ในบริเวณนั้น
ดิฉันเห็นว่าระบบการจัดการการท่องเที่ยวในลักษณะนี้ เป็นสิ่งที่ดีและจะเป็นแนวทางในการรักษาทรัพยากรธรรมชาติให้มีความสมบูรณ์ และคงอยู่ไว้ถึงคนรุ่นหลังได้ชื่นชมความสวยงาม และบางครั้งยังนึกเสียดายสถานที่ท่องเที่ยวหลาย ๆ แห่งในเมืองไทยที่ไม่คำนึงถึงการจัดการท่องเที่ยวเชิงนิเวศน์และการสร้างความยั่งยืน หลาย ๆ ที่ได้สร้างสิ่งอำนวยความสะดวกสบายจนกลายเป็นทำลายทรัพยากรธรรมชาติจนหมดสิ้น
สุดท้ายนี้ ขอฝากข้อคิดเล็ก ๆ ไว้ หากเราตั้งใจจะไปท่องเที่ยวในสถานที่อันเป็นธรรมชาติ ขอให้เราพยามได้ใช้โอกาสในการสัมผัสกับกับความเป็นธรรมชาติที่แท้จริง พยายามคิดให้ได้ว่า ความเป็นธรรมชาติที่แท้จริงนั้น อาจไม่สะดวก สบาย เหมือนในชีวิตประจำวันของเราส่วนใหญ่ ที่อยู่ห้องแอร์ อาบน้ำอุ่น มีเตียงนุ่ม เฟอร์นิเจอร์หรู แต่การหันไปใช้ชีวิตแบบเรียบง่าย ไร้การปรุงแต่ง และความเป็นธรรมชาติที่สมบูรณ์ อาจเป็นประสบการณ์ล้ำค่าที่สร้างความประทับใจให้คุณได้อีกยาวนาน
มะลิค่ะ
สวัสดีคะ ตามมาขอบคุณค่ะ
และมาพบกับบันทึกที่น่าสนใจ เพราะตนและครอบครัวชอบท่องเที่ยวเพื่อชมธรรมชาติมาก!!!!
แวะมาเยี่ยมค่ะ
สบายดีนะคะ