๑. หนึ่งครั้งที่แม่ตบลงไปบนหน้าลูกอาจก่อให้เกิดความสั่นสะเทือนลึกลงไปสุดใจของลูก ทั้งชีวิตหนึ่งอ้อมกอดที่แม่บรรจงหยิบยื่นให้ลูก อาจก่อให้เกิดความพันผูกข้ามกาลเวลาทุก ๆ ปฏิสัมพันธ์เป็นได้ทั้งบาดแผล และ ดอกไม้สำหรับลูก
๒. คนใกล้ชิดเป็นศัตรู แม้กำแพง ๗ ชั้น ก็ป้องกันไม่ได้ศัตรูที่มาจากภายนอกต่อให้ยกมาถึง ๙ ทัพ เราก็มองเห็นและเตรียมตัวทันแต่ศัตรูที่มาจากคนในด้วยกัน คือศัตรูที่อันตรายที่สุดเพราะเรามักมองไม่เห็น และไหวตัวไม่ทัน
๓. เวลาเรือเอียงเรามักจะมองเห็นและแก้ไขได้ทันท่วงทีแต่ความลำเอียงในใจคนมักถูกปกปิดอย่างมิดชิดและแสดงออกอย่างแยบยลกว่าจะรู้ว่าคนที่เรารักมากด้วยความลำเอียงบางครั้งมันก็สายเกินไป
๔. ไม่มีแรงใดเสมอด้วยแรงกรรม แรงฟ้ามนุษย์แก้ได้ด้วยสายล่อฟ้า แรงน้ำมนุษย์แก้ด้วยการเปลี่ยนเส้นทาง หรือสร้างกำแพงกั้นน้ำ แรงพายุมนุษย์แก้ได้ด้วยการปลูกป่า แต่แรงกรรมมีแต่ต้องก้มหน้ารับโดยส่วนเดียว
๕. อยู่คนเดียวจงระวังความคิด อยู่กับมิตรจงระวังวาจาอยู่กับมารดาบิดาจงระวังการปฏิบัติตน ถ้าคิดไม่ระวังจะกลายเป็นคิดฟุ้งซ่าน ถ้าพูดไม่ระวังมิตรจะเข้าใจผิด ถ้าปฏิบัติไม่ดีต่อมารดาบิดาจะเป็นการสร้างบาปให้ตนเอง
๖. ทำบาตรแตก ถ้วยแตก ชามแตก แก้วแตก ยังดีกว่าทำให้คนแตกกันเนื่องเพราะวัตถุที่แตกแล้วสามารถประสานให้ดีดังเดิม ได้อย่างง่ายดายแต่ถ้าคนแตกสามัคคีกันเป็นฝักฝ่ายแล้วบางทีทั้งชีวิตก็ไม่สามารถสนิทสนมกันได้อีก
๗. สิ่งที่เราให้คนอื่น แท้จริงแล้วคือของที่เราฝากให้แก่ตนเองในวันข้างหน้าเช่น วันนี้เราด่าเขา วันข้างหน้าเราจะถูกเขาด่าวันนี้เราโกงเขา วันข้างหน้าเราจะถูกเขาโกง วันนี้เราเนรคุณเขา วันข้างหน้าเราจะถูกเขาเนรคุณ
๘. ความดีที่ทำไว้ในหมู่คนพาล ถึงมากมายมหาศาลก็สูญเปล่า การทำสิ่งดี ๆ ให้แก่คนที่ไม่เห็นคุณค่า ก็ไม่ต่างอะไรกับการเทน้ำลงกองทราย ถึงเทอย่างไรก็ซึมหายหมด ดังนั้นจะทำดีกับใคร ควรใช้ปัญญาคิดให้รอบคอบ
๙. การมีความสุขที่ก่อความทุกข์ให้คนอื่นนั้น ไม่ใช่ความสุขที่แท้มันเป็นได้แค่ความสุขจากการเกาขอบแผลที่กำลังคันยิ่งเกาดูเหมือนยิ่งสุข แต่แท้ที่จริงมันคือความทุกข์ที่แฝงมาอย่างแนบเนียน
๑๐. ดูข่าวการเมือง ยิ่งดูยิ่งวุ่นวาย ยิ่งดูยิ่งฟุ้งซ่าน แต่หากกลับมาดูใจของตนอย่างมีสติรู้เท่าทันทุกเรื่องที่คิด ทุกจิตที่ทำ ทุกคำที่พูด ทุกครั้งที่เคลื่อนไหวความทุกข์มากมายจะดับลง ดูจิตวันละนิดจิตแจ่มใส
๑๑. น้ำขุ่นที่ใส่สารส้มลงไป น้ำที่ขุ่นนั้นก็ใสได้เหมือนกัน ใจขุ่นหากใส่สารแห่งความรู้สึกตัวลงไปไม่นานเท่าไรใจนั้นก็แจ่มกระจ่างเหมือนกันน้ำขุ่นแก้ได้ฉันใด ใจขุ่นก็แก้ได้ฉันนั้น
๑๒. คนที่ทำงานผิดพลาด แล้วป่าวประกาศว่าเป็นความผิดของคนอื่นคือคนที่มีแต่จะผิดพลาดซ้ำแล้วซ้ำเล่า ส่วนคนที่ทำงานผิดพลาด แล้วลุกขึ้นมายอมรับอย่างองอาจเปิดเผยคือคนที่ไม่มีโอกาสผิดพลาดซ้ำอีกเลยในชีวิต
๑๓. ความไม่ประมาทเป็นทางแห่งความไม่ตาย ความประมาทเป็นทางแห่งความตาย ผู้ไม่ประมาทไม่มีวันตาย ผู้ประมาทไม่ต่างอะไรกับคนที่ตายแล้ว กวีบทนี้ทำให้พระเจ้าอโศกเปลี่ยนจากกษัตริย์ที่ดุร้ายมาเป็นชาวพุทธชั้นนำ
๑๔. คนไทยไปงานศพแทบทุกเย็นโดยไม่เคยรู้สักนิดว่าวันหนึ่งตัวเราจะเป็นศพดังนั้นเราควรฝึกไปงานศพตัวเองทุกวันด้วยการบอกกับตัวเองว่า ความตายอยู่ใกล้แค่ปลายจมูก
๑๕. อยากโชคดี ไม่ใช่ไปหาวิธีลอดท้องช้าง แต่อยากโชคดี เริ่มกันที่การมีสติปัญญาในการดำเนินชีวิตประจำวัน
ขอเพียงมีปัญญา โชคดีก็ไหลเข้ามาไม่ขาดสายแต่ถ้าไร้ปัญญา โชคร้ายจะไหลเข้ามาเหมือนห่าฝน
ไม่มีความเห็น