ได้ทำจึงเรียนรู้


ช่วงนี้เรามีโอกาสได้ลงมือทำงานเอง ตัดหิน ติดหินเอง การที่เราได้ลงมือทำงานเองนี้ ทำให้เราเข้าใจหัวจิต หัวใจของคนทำงานได้เยอะขึ้น เข้าใจในสิ่งที่เราไม่เคยได้เข้าใจ

เมื่อก่อนตอนที่เรารับหน้าที่ "คนคุมงาน" เราเคยขอให้ช่างเขาทำโอที หรือทำงานล่วงเวลา เขาก็จะให้เหตุผลว่า ไม่ไหว "ผมปวดแขน" หรือไม่ก็ทำงานกลางคืน "ผมมองไม่เห็น" ตอนนั้นเราไม่เข้าใจ จะปวดอะไรกันนักหนา เราก็ไปหายามาให้ หาไฟมาเปิดให้ แล้วเราก็ยังบอกเขาว่า เร่งหน่อยหน่า ช่วยทำหน่อย งานเร่ง แต่เขาก็ไม่ทำ เขาปฏิเสธเราด้วยเหตุผลเดิม เมื่อก่อนเรายอมรับว่า โกรธเขา เซ็ง อะไรแค่นี้ก็ทำไม่ได้...!

แต่วันนี้ ตอนนี้ เวลานี้ ช่วงชีวิตที่เราต้องลงมือทำงานเอง เรารู้แล้วหละว่า "ผมปวดแขน" มันเป็นอย่างไร และ "ผมมองไม่เห็นมันเป็นอย่างไร...?"

การที่เราได้แต่ยืนดู แล้วพูด ๆ ๆ สั่งเขาทำโน่น ทำนี่ มีหลักการ มีทฤษฎี อย่างโน้น อย่างนี้ มันไม่รู้ซึ้งถึงจิตถึงใจหรอกว่า คนที่เขาทำงานหน้างานจริง ๆ นั้นเป็นอย่างไร...?

เมื่อเราเป็นคนสั่ง คนคิดทฤษฎี หรือเป็นผู้บริหาร เราก็มักจะมีคำถาม ทำไมถึงทำไม่ได้ แค่นี้ทำไมทำไม่ได้ ช่วยกันแค่นี้ไม่ได้เหรอ เรื่องนี้ตอบยาก ถ้าคุณไม่ใช่คนทำ ถ้าคุณไม่เคยปฏิบัติ คุณจะไม่มีทางเข้าใจเลยว่าคำว่า "แค่นี้ทำไมถึงทำไม่ได้" สำหรับคนหน้างานนั้นเป็นอย่างไร...?"

อาการปวดแขน เมื่อยมือ มองไม่เห็น หรือคำว่า "เหนื่อย" ไม่สามารถแทนเป็นคำพูดได้ในห้องประชุม หรือสถานที่สัมมนา

เมืองไทยเรามีนักวิชาการมาก มีวิทยากรมาก แต่นักวิชาการหรือวิทยากรน้อยคนนักที่ทำอย่างที่ตนเองพูด

วันนี้ เราขอโอกาสลงงานทำงานกรรมกรด้วยตัวเองเพื่อเข้าใจชีวิตของกรรมกร เพื่อให้เข้าใจว่าแดดร้อนนั้นเป็นอย่างไร...?

เมื่อก่อน เราเคยว่าคนงาน กินข้าวกลางวันเสร็จแล้วก็หลับ พอบ่ายโมงเราก็ต้องไล่ตามปลุก วันนี้ตอนที่เขาพักกลางวันกัน แล้วก็ต้องไปหลับเหมือนกัน "เพลียแดด"

ไอ้เพลียแดดนี่ เมื่อก่อนเราก็ไม่รู้ ว่าคนทำงานแบกหามอยู่กลางแดดทั้งวันนั้นเป็นอย่างไร

หรือแค่เรื่องแว่นตากันสะเก็ด ถุงมือ หรือผ้าปิดจมูก เมื่อก่อนเราก็ไม่เคยซื้อให้ช่าง แต่พอลงไปทำงานเอง โอ้โห ไม่มีไม่ได้ อันตราย สะเก็ดหินกระเด็นเข้าตา

ชีวิตเขาหรือชีวิตเราก็ชีวิตเหมือนกัน บางครั้งเราตีค่าคนงานที่เราสมมติว่า "งานต่ำ ๆ" ว่าไร้ค่า ไม่มีคุณค่าเท่ากับเงินของเราที่หาได้มา

โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การเป็นวิทยากรแล้วไปบอกให้เขาทำงานโน่น ทำงานนี่ ทำ KM บ้าง ทำ R2R บ้าง ถ้าเกิดเราไม่เคยทำเอง ไม่เคยใช้ชีวิตอยู่ในหน่วยงานนั้น เราจะไม่สามารถเข้าใจได้เลยว่า ทำไมเขาไม่ทำ และเราก็กลับมาตั้งคำถามเดิม ๆ ว่า "แค่นี้ ทำไมถึงทำกันไม่ได้...?"

วันนี้ เรารู้ซึ้งของคำว่า "แค่นี้" รู้ซึ้งด้วยการปฏิบัติ ลงไปทำงานมอม ๆ แมม ๆ ตากแดด ตากลม ทำให้รู้ การฟังนั้นอาจจะทำให้เรารอบรู้ แต่การปฏิบัตินั้นทำให้เราเรียนรู้

ช่วงนี้รับหน้าที่ทั้งกรรมกร ทั้งสัปเหร่อ หน้าที่ของชีวิตนี้คือการเรียนรู้ ดูเฉย ๆ ไม่รู้

เรียนรู้เพื่อตอบคำถามต่าง ๆ ที่เราเคยไม่เข้าใจ เรียนรู้เพื่อวางแนวทางในการดำเนินชีวิตต่อไป เพื่อที่จะได้เข้าใตชีวิตของกันและกัน...

 

 

คำสำคัญ (Tags): #km#r2r#การเรียนรู้
หมายเลขบันทึก: 349382เขียนเมื่อ 3 เมษายน 2010 19:20 น. ()แก้ไขเมื่อ 6 กันยายน 2013 22:42 น. ()สัญญาอนุญาต: ไม่สงวนสิทธิ์ใดๆจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (1)

เรียน ท่านอาจารย์ "ได้ทำจึงรู้ ได้ดูจึงเห็น" ชีวิตครับ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท