Ryoma-Den วิธีสร้างฮีโรของญี่ปุ่น


.... ไม่ว่าโลกและคนอื่นจะคิดอย่างไร จงอย่าไขว้เขว จงเชื่อมั่น ยืนหยัดและเดินตามแนวทางที่เราเชื่อมั่น สักวันหนึ่งก็จะสำเร็จ และโลกจะได้เห็นเราอย่างที่เราเป็น .....

เมื่อไปถึงนางาซากิ   สิ่งที่เห็นทั่วไปตามร้านค้าขายของริมทางก็คือโปสเตอร์ภาพของหนุ่มหล่อในชุดซามูไร  ผมหยักศกรวบสูง  มาดเซอร์แบบคนรุ่นใหม่   สลับกันคือภาพหนุ่ม นัยน์ตาเรียวยาว  หน้าตาดูโบราณ เป็นซามูไรเมื่อ 150 ปีก่อน    แถมสินค้าที่ระลึกต่างๆในทุกๆร้านที่เดินผ่านยังเขียนชื่อ  เพนต์รูปของหนุ่มซามูไรประวัติศาสตร์ไว้ทั่วไป  ตั้งแต่หนังสือ  เสื้อยืด  แก้วน้ำ  ไปจนถึงกล่อง  ซองคุกกี้  เค้ก  หรือแม้แต่ปลาปรุงรส

ทั้งหมดนี้ เป็นภาพสมมติของคนคนเดียวกัน  คือ  Sakamoto Ryoma  

หนุ่มเรียวมะมาดเซอร์คือ ฟุคุยะมะ นักร้องขวัญใจวัยรุ่นที่รับบทเรียวมะ  ในภาพยนตร์ซีรีส์ใหม่ของ NHK  เรื่อง  Ryoma-Den  หรือตำนานเรียวมะ   ส่วนหนุ่มเรียวมะโบราณคือ ซะคะโมะโตะ เรียวมะ ตัวจริง 

ภาพของเรียวมะตัวจริง  หน้าตาคุ้นๆเหมือนเคยเห็นในหนังสือประวัติศาสตร์  หรือบนธนบัตร..ที่ใดสักแห่ง  เราอยู่ญี่ปุ่นมาหลายปี  ไม่เคยศึกษาบุคคลในประวัติศาสตร์เหล่านี้    รู้แต่ว่า   ญี่ปุ่นมีฮีโร่(ชาย)และฮีโรอีน(หญิง) สามัญชนมากมาย     วิธีหนึ่งที่จะทำให้คนญี่ปุ่นสัมผัสบุคคลตัวอย่างเหล่านี้แบบไม่รู้ลืม   คือเอาภาพมาปรากฎบนธนบัตรที่มีมูลค่าต่างๆกัน    มีทั้งแพทย์  นักเขียน  ศิลปิน  และนักปฏิรูป   ....พวกเขาคือฮีโรเดินดินที่สร้างแรงบันดาลใจให้คนรุ่นใหม่

 ซามูไรเรียวมะเป็นใคร..  เด็กๆจากเมืองไทยถาม...  แต่เราไม่รู้

 

เจอคุณลุงคนหนึ่ง  สวมเชิ้ตทับด้วยแจ็กเกตไม่มีแขนสีมอๆ  ท่าทางเหมือนคนใช้แรงงาน  คุณลุงดึงอัลบัมเล็กๆออกมาจากกระเป๋าแจ็กเก็ต   ในอัลบัมนั้นสะสมภาพวาดสีน้ำขนาดเท่าโปสการ์ดหลายภาพ   เป็นภาพวิว  ภาพบ้าน  ภาพดอกไม้บริเวณสวนของโกลเวอร์     “สวนของโกลเวอร์” ประกอบด้วยบ้านพักหรูหลายหลังเรียงรายบนเนินเขาริมแม่น้ำใกล้ปากอ่าวของเมืองนางาซากิ  บ้านพักเหล่านี้เคยป็นของพ่อค้าโปรตุเกส  และฮอลันดาที่เข้ามาค้าขายเปิดประเทศญี่ปุ่นเมื่อเกือบสองร้อยปีก่อน   ปัจจุบันกลายเป็นพิพิธภัณฑ์    ประหลาดใจมากเมื่อทราบว่า  ภาพวาดสวยๆฝีมือดีนั้น คุณลุงเป็นคนวาดเอง      วาดสะสมไว้เรื่อยๆ....    ลูกชายเคยบอกว่า   คนญี่ปุ่นดูดี  แม้แต่เป็นกรรมกรเขาก็มียูนิฟอร์ม  แต่งตัวเรียบร้อยรัดกุม  ดูมืออาชีพ  และ มีศักดิ์ศรีในตัวเอง     คนมีศักดิ์ศรี  ย่อมมีพลังที่จะแสดงบทบาทและรับผิดชอบหน้าที่ของตนในสังคมได้อย่างเต็มที่

 

สบโอกาสดีจึงถามคุณลุงว่า  เรียวมะเป็นใคร  เป็นคนนางาซากิหรืออย่างไร

 คุณลุงตอบว่า  “เรียวมะ มาจากเกาะชิโคคุ  เขามาอยู่ที่นี่ (นางาซากิ)  เพื่อสิ่งใหม่    ในขณะที่คนอื่นๆคิดถึงการต่อสู้เพื่อเปลี่ยนแปลง   แต่เรียวมะเป็นนักปฏิรูปที่เชื่อว่าจะเปลี่ยนแปลงสังคมได้โดยสันติ”

 

นางาซากิเป็นจังหวัดแรกๆที่มีชาติตะวันตกเข้ามา   สัญลักษณ์ของที่นี่  หากไม่รวมสัญญลักษณ์ของประวัติศาสตร์สมัยใหม่คืออะตอมมิกบอมบ์และรูปปั้นสันติภาพแล้ว  ก็จะเป็นสัญลักษณ์ของประวัติศาสตร์ยุคเปิดประเทศ   คือ  ไม้กางเขน  โบสถ์  เครื่องแก้ว  ขนมไข่ (คาสเตลลา)  และ  นักปฏิรูป  เรามานางาซากิครั้งแรกเมื่อยี่สิบปีก่อน  ครั้งนั้นมองเห็นแค่ไม้กางเขน...มาจนถึงคาสเตลลา แต่ไม่เคยสัมผัสถึงการดำรงอยู่ของ “นักปฏิรูป” หรือคนหนุ่มหัวก้าวหน้าจากทั่วสารทิศที่เดินทางเข้ามานางาซากิเพื่อแสวงหาและเรียนรู้สิ่งใหม่จากตะวันตก  ..รวมทั้งเรียวมะ.. 

 

ไม่ว่า  NHK  จะสร้างภาพยนตร์ Ryoma-Den ด้วยเหตุผลของวิกฤตเศรษฐกิจ หรือภาวะที่ญี่ปุ่นถูกท้าทายโดยศักยภาพของจีนและเกาหลี  หรือด้วยเหตุผลอื่นใด    แต่การที่ภาพของเรียวมะสอดแทรกไปในทุกเส้นทางที่ผ่านและสัมผัส   สถานที่ท่องเที่ยวต่างๆมีอาคารหนึ่งหลังหรืออย่างน้อยหนึ่งห้องที่สละพื้นที่ให้กับการแสดงนิทรรศการเกี่ยวกับ Ryoma-den   คนไทยต่างถิ่นหกคนอย่างพวกเราจึงพลอยได้รู้จัก  และชื่นชมเรียวมะกับเขาไปด้วย... ลืมเรื่องระเบีดปรมาณูไปเสียสนิท

 

คงมีหลายอย่างที่เรียวมะคิดและทำ  แต่เรายังมิได้ศึกษาประวัติของเขาอย่างถ้วนถี่  มีแต่ประโยคสำคัญที่ถูกจับมาเป็นประเด็น ทำนองว่า

 

 .... ไม่ว่าโลกและคนอื่นจะคิดอย่างไร  จงอย่าไขว้เขว   จงเชื่อมั่น ยืนหยัดและเดินตามแนวทางที่เราเชื่อมั่น  สักวันหนึ่งก็จะสำเร็จ  และโลกจะได้เห็นเราอย่างที่เราเป็น .....

 

หมายเลขบันทึก: 349351เขียนเมื่อ 3 เมษายน 2010 16:13 น. ()แก้ไขเมื่อ 10 มิถุนายน 2012 13:32 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (3)

แล้วตกลงคุณเรียวมะทำอะไรครับ

ปัทมาวดี โพชนุกูล ซูซูกิ

ขอบคุณค่ะคุณ ohm

ขออนุญาตนำข้อความของคุณ molecularkitten

เขียนเมื่อ : 8 ส.ค. 52

http://topicstock.pantip.com/chalermthai/topicstock/2009/08/A8179562/A8179562.html#9

มาโพสต์ไว้ตรงนี้นะคะ

*********

Sakamoto Ryoma เป็นซามูไรที่เกิดที่แคว้น Tosa ในสมัยที่มีการแบ่งชนชั้นกันนั้น เรียวม่าเกิดมาในครอบครัวพ่อค้าที่ไปซื้อเอาตำแหน่งซามูไรมา จึงถือเป็นซามูไรชั้นล่าง ไม่มีสิทธิ์ใส่ถุงเท้าเดิน หรือกางร่มตามถนนหนทางไปมา เป็นต้น เป็นยุคสมัยที่มีการแบ่ง

ชนชั้นกันรุนแรง และสิ่งเหล่านี้ก็ฝังอยู่ในใจเรียวม่าเรื่อยมา

เรียวม่าถูกส่งไปเรียนวิชาดาบที่เอโดะ ขณะนั้นญี่ปุ่นอยู่ในการปกครองของระบอบศักดินาโชกุน ซึ่งมีนโยบายปิดประเทศมาได้สองร้อยหกสิบกว่าปี เมื่อยุคล่าอาณานิคมมาถึง บรรดาชาติตะวันตกเริ่มกดดัน ข่มขู่ให้ญี่ปุ่นเปิดประเทศ ชาวอาทิตย์อุทัยบางส่วนเริ่มตระหนักถึงแสนยานุภาพทางอาวุธและวิทยาการที่ญี่ปุ่นไม่อาจต่อต้านได้ เรียวม่าเองก็เป็นหนึ่งในกลุ่มนี้ ที่เริ่มมีแนวความคิดว่าระบอบโชกุนอาจจะไม่ใช่สิ่งจำเป็นสำหรับญี่ปุ่นอีกต่อไป เขาใฝ่ฝันถึงความเท่าเทียมกันในแบบ Democracy ที่ได้ยินมาว่ามีใช้ในอเมริกา เหล่าแคว้นต่าง ๆ ก็เริ่มเคลื่อนไหวทางการเมือง เมื่อเห็นว่าตระกูลโชกุนโตกุกาว่า ซึ่งเป็นรัฐบาลไม่อาจป้องกันภัยประเทศจากเงื้อมมือต่างชาติได้ ซามูไรเริ่มรวมกลุ่มกันเพื่อต่อต้านรัฐบาล รัฐบาลเริ่มเคลื่อนไหวเพื่อปราบล้าง ถือเป็นยุคสมัยแห่งการนองเลือดทีเดียว

เรียวม่าจึงตัดสินใจหนีออกจากแคว้น เขาได้พบกับ Katsu Kaishu ซึ่งเป็นข้าราชการชั้นผู้ใหญ่คนหนึ่งของรัฐบาล อาจารย์คัทสึ

เคยไปอเมริกามาแล้ว รับรู้ว่าญี่ปุ่นไม่อาจดื้อแพ่งปิดประเทศได้อีกต่อไป ทำให้ถึงแม้ว่าเป็นข้าราชการ คัทสึก็ต้องการให้มีการปฎิรูปการปกครองเหมือนกัน และสิ่งที่จะเอาไปสู้กับต่างชาติได้ก็คือ วิชาความรู้ของต่างชาตินั่นเอง ซามูไรไม่อาจแกว่งดาบอย่างสมัยก่อนสู้กับเรือรบและปืนไฟขนาดใหญ่ได้อีกต่อไปแล้ว

คัทสึตั้งโรงเรียนเดินเรือ ทำให้เรียวม่าสนใจเรื่องเดินเรือมาก ในหัวของซามูไรพเนจร ซกมก ท่าทางปอน ๆ อารมณ์ดีกลับคิดการใหญ่มากมาย ไม่ว่าจะเป็นการค้ากับต่างชาติและการปฎิรูปการปกครอง เป็นต้นคิดการทำการค้าทางทะเลในรูปแบบบริษัทขึ้นเป็นครั้งแรกในญี่ปุ่น เป็นผู้เจรจาหาทุนมาก่อตั้งโรงเรียนนายเรือที่โกเบจนได้รับสมญาว่า เป็นบิดาแห่งกองทัพเรือ งานยิ่งใหญ่ของเขา คือ การเป็นผู้เจรจาโน้มน้าวให้แคว้นใหญ่อย่างซัทสึมะ และโชจูที่เคยบาดหมางกันเข้าเป็นพันธมิตรเพื่อบีบรัฐบาล และจากพันธมิตรตรงนี้เองที่ทำให้ระบอบการปกครองโชกุนของตระกูลโตกุกาว่าที่มีมาสองร้อยกว่าปีถึงกาลสิ้นสุดลง (สามารถติดตามดูได้ใน Atsu-hime)

เรียวม่าจึงถือว่าเป็นคนในประวัติศาสตร์ที่ชาวญี่ปุ่นยกย่อง ด้วยแนวความคิดทันสมัยที่หาได้ยากในยุคนั้น สิ่งที่ผู้คนทึ่งคือ

ทั้งที่เป็นเพียง ซามูไรร่อนเร The Indispensable 'Nobody' คนหนึ่ง แต่กลับกล้าทำ กล้าเปลี่ยน และกล้าฝันในสิ่งที่ผู้คนในระบอบศักดินาแทบไม่กล้าฝันถึง หรือนึกถึงไปได้

อนุสาวรีย์ท่านเรียวม่าที่แคว้น Tosa บ้านเกิด (จ. โคจิ ในปัจจุบัน) เหม่อมองออกไปในทะเลอย่างที่ใฝ่ฝันว่าจะได้เดินเรือออกเดินทางค้าขายได้อย่างเสรี

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท