หนีเที่ยวในเมืองมะนิลา
ด้วยในการที่มาประชุม workshop ในครั้งนี้ ทุกคนที่มาบอกว่าไม่เคยได้รับการต้อนรับที่สุดห่วยได้ขนาดนี้ พร้อมทั้งสถานที่ประชุมหรือนำผู้เข้าประชุมเข้าสถานกักกันเลย มีการเช็คชื่อตลอดตั้งแต่หน้าประตู แต่คนไทยก็สุดยอดมากเหมือนกัน หนีเที่ยวกันแหลกๆๆ แถบแหกคอกด้วย เพราะเรามี 2 ท่านที่เป็นผู้นำ และสัญญาว่าจะดูแลสุภาพสตรีทั้ง 2 ท่าน
เริ่มต้นตั้งแต่ วันที่ 7 มีนาคม 2553 เมื่อประชุมเสร็จเราก็ประสานทันที่กับคนขับรถของ กรรมการสิทธิ philippines ทั้นที่ ความดีทั้งยกให้ท่าน 2 นายพล ที่เป็นนักประสานงานยอดเยี่ยมมาก เราเริ่มเดินทางจาก antipolo มาที่ มะนิลา ใช้เวลากว่า 3 ชั่วโมง และเราก็ได้รับลิ้มลองการจราจรของ philippines แต่พวกเราไม่ได้บ่นกันสักคำ แต่ใบหน้ายิ้มแย้มไปด้วยความสุข แต่ทุกคนจะแซวผู้เขียนมาก เหมือนการหนีออกเที่ยวที่หนีพ่อแม่มาเลย เปล่าหรอกผู้เขียนเองอยากออกมากเพราะอยากเห็นสภาพชีวิตของเด็กเร่ร่อน ของครอบครัวเร่ร่อน ว่ามีการเปลี่ยนแปลงอย่างไร เพราะเมื่อ ปี 2532 ผู้เขียนเคยมาฝึกอบรมที่การทำงานกับเด็กเร่ร่อน ที่ philippines ซึ่งมากับพี่สาวที่ใจดีเป็นอย่างมาก คือ รศ.ลักษณา เสถียรสวัสดิ์ (ท่านได้เสียชีวิตไปแล้ว) ซึ่งมาในครั้งนั้นเป็นการเดินทางต่างประเทศครั้งแรกของผู้เขียน และมาอยู่นานถึง 21 วัน เพราะพี่แมวมีเพื่อนทำงานที่สหประชาชาติ philippines เป็นทางไหนก้ได้รับความสะดวกสบาย และนอนที่บ้านเพื่อนพี่แมว ได้เห็นอะไรมากมาย ซึ่งเทียบกับครั้งนี้แล้วไม่มีเลย ตามรางการประชุมแน่นไปหมด และไม่มีการกำหนดเนื้อหาที่แน่นอน
ไม่มีความเห็น