การเดินทางข้ามประเทศที่ไม่ธรรมดา เพราะ ต้องผ่านการประทับตราบนพาสพอร์ต ถึง 7 ครั้ง เป็นยังไงลองดูนะคะ...
การเดินทางจากบรูไนไปซาร์บาของมาเลย์ ทางรถยนต์
ที่ต้องไปรถยนต์เพราะเครื่องบินจากบรูไน ไปซาร์บา เขามีวัน จ พ ศ เย็น..ที่นี้วันนั้น เป็นวันจันทร์ แต่อาจารย์เสร็จธุระ ตอน 2 ทุ่ม เลยต้องเดินทางโดยรถยนต์ในวันรุ่งขึ้นคะ
แต่เป็นประสบการณ์ใหม่จริงๆ คะ...เพราะมันไม่ใช่เป็นการข้ามประเทศธรรมดาๆ นะคะ...มันถึงเป็นประสบการณ์ที่คุ้มค่าคะ..ไม่ทราบเหมือนกันว่าภูมิประเทศเขาอยู่กันอย่างไร แต่ต้องประทับตราบนพาสพอร์ต ถึง 7 ครั้งคะ...เขียนเอกสารข้ามประเทศชนิดที่ว่า จำเลขที่พาสพอร์ตได้เลยคะ
วันนั้นวันอังคาร รถทัวร์ออกจากบรูไน 7 โมงเช้าคะ...นั่งไปแป๊ปเดียวก็ถึงด่านคะ...ต้องประทับตราพาสพอร์ตออกจากบรูไน (ครั้งที่ 1) เพื่อเข้ารัฐซาลาวัคของมาเลย์ (ครั้งที่ 2)
ที่ด่านออกจากบรูไน
รถวิ่งอยู่ในซาลาวัค ไม่นานนักคะ...ไม่ถึง ชม. ก็ต้องลงมาที่ด่าน เพื่อออกจากซาลาวัค (ครั้งที่ 3) เข้าบรูไน ใหม่คะ (คร้้งที่ 4) หลัง จากนั้น นั่งรถ ข้ามแพ เป็นแพขนานยนต์เหมือนบ้านเราคะ...นั่งรถไปได้แป๊ปเดียวคะ...ก็ต้องออกจากบรูไน (ครั้งที่ 5) เข้าซาลาวัคใหม่ (ครั้งที่ 6) ขึ้นรถต่อคะ...ที่นี้จะเป็นรัฐซาลาวัคจริงๆ ได้เห็นสภาพบ้านเมืองของซาลาวัค ประชากรของซาลาวัค ส่วนใหญ่เป็นคริสเตียน คะ...ก็จะเห็นโบถส์คริส ตลอดเส้นทางคะ...แต่มุสลิม ก็ไม่น้อยหรอกคะ เห็นว่าประมาณ 40%
ที่มันแปลกอีกอย่างนึงนะคะ ....ก็ตอนออกจากซาลาวัค นี่แหละคะ...จริงๆ ไม่น่าจะมีการประทับตราพาสพอร์ตแล้วใช่ไหม่คะ...ที่มันแปลกคือ ตอนออกจากซาลาวัค เพื่อจะเข้าซาร์บา ต้องประทับตราบนพาสพอร์ตอีกคะ...ทีนี้ เลยทำให้พวกเราบางคนหลงคะ...ไม่ได้ประทับตราบนพาสพอร์ต เพื่อเข้าซาร์บา. ..ไม่ใช่ใครอื่นหรอกคะ อาจารย์ฮุซเซ็น เองคะ...ก็ใครจะไปรู้ละคะ...พอดี ตอนนั้น อาจารย์เขาไปเข้าห้องน้ำคะ...เลยไม่คิดว่าเขาจะประทับตรากัน....แกเลยมาขึ้นรถเลย....ดีนะคะ...พอไปถึงซาร์บา อาจารย์ที่ซาร์บา เขาเอาพาสพอร์ตแก ไปดำเนินการให้คะ....เลยไม่มีปัญหา ....เห็นไหมคะ...เป็นประสบการณ์ใหม่จริง ๆ เพราะถ้านั่งเครื่องบิน ไม่มีทางรู้เลยคะ....
วันนั้นถึงในเมืองโคตาคินาบาลู ซึ่งเป็นเมืองหลวงของซาร์บา ประมาณ 5 โมงเย็นเลยคะ...นั่งรถกันเหนื่อยมากคะ....คุ้มจริงๆๆ
ไม่มีความเห็น