เชิญชวนดูหนังดีเรื่อง “บ้านฉัน ตลกไว้ก่อน(พ่อสอนไว้)”
ถ้าใครคิดว่าเป็นหนังตลกไร้สาระ ต้องคิดใหม่ค่ะ เพราะหนังเรื่องนี้เป็นหนังชีวิตที่อบอวลด้วยความรักในครอบครัวและมุกตลกตั้งแต่ต้นเรื่องจนจบ แม้ฉากที่เป็นดราม่าก็ยังมีมุกตลกให้หัวเราะ แบบไม่ต้องฝืน
เป็นเรื่องของเด็กชายวัย ๑๒ ที่เกิดมาในครอบครัวที่พ่อเป็นหัวหน้าคณะตลก เขาถูกตั้งชื่อตามตลกอาวุโสว่า “ล้อต๊อก” พล๊อตหลักคือความสัมพันธ์ระหว่างพ่อกับลูก เพราะต๊อกคิดว่าเขาเกิดมาพร้อมความคาดหวังว่าเขาจะเป็นทายาทสืบทอดตลกจากพ่อ เขาจึงพยายามตลกเพื่อให้ “พ่อรัก” และ “ผู้หญิงรัก”
สุดท้ายแม้เขาเป็นตลกอย่างพ่อไม่ได้ แต่เขาก็ได้พบว่าความรักที่พ่อมีให้เขานั้นไม่ขึ้นกับเงื่อนไขว่าเขาจะเป็นตลกหรือไม่เป็นตลกแม้แต่น้อย
พล๊อตรองเป็นรักข้ามรุ่น (ฝ่ายเดียว) ของต๊อก กับหมอน้ำแข็ง หมอน้ำแข็งเป็น “ผู้ชม” คนเดียวที่ขำมุกของต๊อก เป็นผู้ที่เข้าใจความรู้สึกของต๊อก และเป็นผู้ทำลายม่านแห่งความไม่เข้าใจระหว่างพ่อลูก และพ่อลูกก็ได้ช่วยแก้ปมปัญหาชีวิตของหมอน้ำแข็งด้วยวิธีง่ายๆ ซื่อๆ
ทุกซีนมีมุกตลกแทรกเข้ามาอย่างแนบเนียน แม้แต่ตอนที่บีบอารมณ์คุณอาจหัวเราะได้ทั้งที่น้ำตาซึม แม้ตอนที่คุณกำลังหัวเราะ คุณอาจน้ำตาซึมออกมาทั้งที่หัวเราะ ไม่มีมุกตลกที่ล้นเกิน ประดักประเดิด ยัดเยียดแม้แต่มุกเดียว
ดาราทุกคนแสดงเป็นธรรมชาติมากๆ โดยเฉพาะนักแสดงเด็กชายที่แสดงเป็น “ล้อต๊อก” แสดงบทมุกฝืดได้ฝืดจริงๆ แสดงบทดราม่าได้เนียนเข้าถึงอารมณ์ที่ควรเป็น ไม่ขาด ไม่เกิน
เด็กหญิงที่แสดงเป็น “ม่อน” น้องสาวต๊อก ชิงออกมุกตลกแทนพี่ชายได้น่ารัก น่าชัง เป็นดาราเด็กที่ออกมาแย่งซีนผู้ใหญ่ได้ทุกซีน
นักแสดงเด็กทั้งคู่ทำหน้าที่ของตัวเองได้ดีมาก สดใส น่ารักทั้งคู่
ตลกจาตุรงค์เป็นพ่อที่แสดงได้เป็นธรรมชาติมาก จนไม่คิดว่ากำลังดูการแสดง แต่คิดว่าเป็นชีวิตจาตุรงค์จริงๆ เวลาตลกเขาทำได้ตลกแบบไม่ล้น เวลาที่ต้องแสดงอารมณ์อื่นๆ เขาก็ทำได้หมดจด
โดยเฉพาะตอนที่ไปตามลูกชายที่คลินิกหมอน้ำแข็ง ปากดุด่าลูกด้วยความห่วงใย แต่มือฟาดไม้เรียวลงบนขาตัวเอง สามารถเรียกน้ำตาพร้อมกับเสียงหัวเราะได้ทีเดียว
ฉากงานวันแม่ที่โรงเรียนของต๊อก จาตุรงค์สามารถทำให้คุณซาบซึ้งตรึงใจไปพร้อมๆ กับเสียงฮา
ดาราทุกคนแสดงได้ดี ทำให้คนดูเชื่อสนิทใจว่าเป็นคนคนนั้นจริงๆ ไม่ว่าจะเป็น อรอนงค์ ปัญญาวงศ์ (เป็นเมียตลก แม่ของต๊อก) ขวัญจิตมาแสดงเป็นย่าต๊อก เวลาปล่อยมุกฮาก็ทำได้ ดารา(ฉันไม่รู้จัก)ที่แสดงเป็นหมอน้ำแข็งก็ใช้ได้ สวยดี
ได้เห็นจีระนันท์ พิตรปรีชา มาแสดงเป็นแม่หมอน้ำแข็งเป็นของแถม
บทหนังเขียนได้ดีมากค่ะ บทพูดเหมือนคนธรรมดาๆ พูดกัน ไม่เกิน ไม่ขาด ไม่ยัดเยียด บทพูดออกแนวตลกก็สมเหตุผลเพราะครอบครัวนี้เป็นครอบครัวตลก
มีอยู่ตอนหนึ่งที่ฉันขอขอบคุณคนเขียนบทเป็นพิเศษ
หลังจากปมระหว่างพ่อกับลูกที่ว่า “ถ้าต๊อกไม่ตลกพ่อจะรักต๊อกมั๊ย” คลี่คลายลง ต๊อกถามคำถามที่ค้างคาใจเรื่องหนึ่งว่า “ถ้าผมไม่ตลก ผู้หญิงจะชอบผมมั๊ยพ่อ” คำตอบจากพ่อคือ
“ผู้หญิงเขาชอบผู้ชายที่รักครอบครัว....”
ขอบอกว่าคุณ...คนเขียนบท(จำชื่อไม่ได้) ว่า คุณได้คะแนนเต็ม ๑๐๐ ไปจากฉัน เพราะคุณได้ใช้สื่อในมือแสดงความรับผิดชอบต่อสังคม โดยสะท้อนออกมาเป็น “ค่านิยมที่ดีงาม” ที่สมควรปลูกฝังให้แก่ผู้ชายทุกคน ผ่านคำพูดของตัวละครได้แนบเนียนที่สุด เพราะตัวละครของจาตุรงค์เป็นผู้ชายที่รักครอบครัว
สุดท้าย...ฉันยกความดีทั้งหมดของหนังให้ผู้กำกับ ไม่มีรายละเอียดของหนังจุดใดที่ขัดเขิน ทั้งบท ฉาก มุมกล้อง การแสดง ไม่มีอะไรให้ติ
เป็นหนังไทยที่ดี ไม่อาจบอกได้ว่าที่สุด เพราะฉันดูหนังไทยน้อย นับตั้งแต่ดูหนังไทยดีๆ เรื่อง “โหมโรง” ”แฟนฉัน” นี่เป็นหนังไทยที่ดีอีกเรื่องที่อยากแนะนำให้ไปดูกัน
ไม่เพียงแต่เราได้ให้กำลังใจคนทำหนังไทย แต่เราจะได้ดูหนังดีที่สนุกมากๆ คุ้มเงินค่าดู คุ้มค่าน้ำมันรถ คุ้มเวลา และยังได้สาระดีๆ กลับมาบ้าน ไม่ว่างเปล่า
รีบๆ ออกไปดูกันนะคะ อย่าให้หนังดีๆ ออกจากโรงไปก่อน อย่าปล่อยให้คนทำหนังไทยมีฝีมือถอดใจไปทำอย่างอื่น
ออกจากบ้าน ฝ่าม๊อบเสื้อแดงไปดูหนัง ให้ชีวิตเป็นปกติ ไม่เครียด.
อาทิตย์ ๒๑ มีนาคม ๒๕๕๓
ความเห็น (8)
น่าสนใจครับ
ขอบคุณที่มาเล่าสู่กันฟังครับ
เอาภาพหนังมาฝาก
น้องเฟม กับพอลล่า
ปกติไม่ค่อยดูหนังตลกเท่าไหร่ เรื่องของเรื่องก็คือ หลายเรื่องเดินออกมาจากโรงเเล้วเสียดายตังค์ สำหรับเรื่องนี้หากพี่การันตี ขนาดนี้ ก็อยากไปดูครับ--สถานการณ์วุ่นวายในตอนนี้ ไปดูหนังคลายอารมณ์ก็น่าจะเป็นทางเลือกที่ดี...
ขอบคุณค่ะ ที่มีหนังดีดีมาแนะนำ
- น้องเอกไปดูแล้วมาบอกด้วยนะคะว่าชอบหรือเปล่า อยากทราบค่ะ
- ไม่น่าจะผิดหวังนะคะเรื่องนี้
คุณ capuchino
ดูหนังไปด้วยจิบกาแฟไปด้วยน่าจะ OK นะคะ
ลองไปดูนะคะคุณ edura
ไม่มีอะไรเลย