ไสยศาตร์ในความเป็นผู้นำไทย


ดาบสังหารได้ในระยะ ๑ วา หอกสังหารได้ในระยะ ๕ วา แต่มนต์คาถา แม้จะอยู่สุดขอบฟ้าก็หนีไม่พ้น

การทำศึกรบพุ่งในสมัยโบราณ เป็นการต่อสู้ที่เข้าถึงเนื้อถึงตัวกัน ศิลปในการใช้อาวุธ ดาบ หอก ง้าว ธนู รวมถึงศิลปการต่อสู้ด้วยมือเปล่า จึงถูกพัฒนาขึ้นมาเพื่อฝึกทหารในกองทัพ ในสมรภูมินอกจากความแข็งแกร่งทางร่างกายแล้ว ความแข็งแกร่งทางจิตใจของไพร่พล มีความสำคัญไม่ยิ่งหย่อนไปกว่ากัน การบำรุงขวัญต่างๆจึงมักถูกกระทำผ่านพิธีกรรม การเป่าเสก ทำเครื่องรางของขลังแจกจ่ายกันในกองทัพ ทำให้ความรู้ในพิธีกรรมเหล่านี้ ดูจะกลายเป็นศาตร์หนึ่งที่จำเป็นสำหรับผู้นำ

ซุนวู นักการทหารของจีนยุคชุนชิว แต่งตำราพิชัยสงครามซุนจื่อ ๑๓ บทอันเลื่องชื่อโด่งดังไปทั่วโลก ในขณะที่ของไทยเราก็มีตำราพิชัยสงครามอันเป็นเอกลักษณ์ของตนเอง นอกจากเรื่องลักษณะของสงคราม กลศึก การจัดการกองทัพ รูปแบบการจัดทัพ ทั่วๆไปเหมือนกับตำราพิชัยสงครามอื่นๆแล้ว ยังมีภาคของ โหราศาตร์และไสยศาตร์เพิ่มขึ้นมา จึงทำให้สรุปได้ว่า ศาตร์ทั้งสองนี้เป็นเรื่องจำเป็นที่ผู้นำในอดีตต้องเรียนรู้


พระยาบดินทร์เดชาสิงหเสนี

วิชาแต่งคนและวิชาคุ้มพล วิชาไสยศาตร์ของผู้นำ หนึ่งในตำราพิชัยสงครามไทย วิชานี้มิใช่จะคุ้มครองแต่ตนเอง ยังสามารถคุ้มครองไพร่พลด้วย สามารถทำได้ทั้งการเสกน้ำมันทาตัว เสกหมากกิน หรือเสกปูนคาดคอ เพื่อให้ร่างกายคงทนต่อศาตราวุธต่างๆ มีเกร็ดประวัติศาตร์กล่าวว่า พระยาบดินทร์เดชา (สิงห์) ต้นตระกูลสิงเสนี จอมทัพสมัยรัชกาลที่ ๓ ตอนที่ท่านนำทัพไปปราบเจ้าอนุวงศ์ ที่นครเวียงจันทร์ ท่านได้ใช้วิชาแต่งคนนี้ เสกน้ำมันงาดิบกินและทาตัวให้กับบรรดาทหาร , ในสงครามปราบเงี้ยว ท่านเจ้าคุณพิศาลฯ ปลัดทัพเมืองอุตรดิษถ์ ท่านได้ใช้วิชาแต่งคนเสกหมากให้ไพร่พลกินก่อนออกรบ จนได้รับชัยชนะ อีกทั้งวิชาแต่งคน คุ้มพลนี้ยังปรากฎในวรรณกรรมขุนช้างขุนแผน ตอนที่ขุนแผนยกทัพไปปราบเมืองเชียงใหม่

ครานั้นพลายแก้วผู้แม่ทัพ           ยืนขยับดังพญาราชหงษ์
เรือฤทธิ์เชี่ยวชาญการณรงค์        เห็นลาวยกพลตรงมาครามครัน
จึงชวนผู้รั้งทั้งสามคน                ให้จัดแจงแต่งตนขมีขมัน
ตรวจเตรียมพลไพร่ให้พร้อมกัน     ผูกพันเครื่องครบในสงคราม
เจ้าพลายแก้วก็เสกน้ำมันให้         ทาไพร่ทานายสิ้นทั้งสาม
แต่งตัวขึ้นม้าสง่างาม                  ตามยามเลิศล้วนประสิทธิ์ดี

นอกจากนั้นยังมีพิธีกรรมต่างๆที่กล่าวไว้ในตำราพิชัยสงครามไทย เช่น พิธีโขลนทวาร พิธีการตัดไม้ข่มนาม พิธีเคลื่อนพลตามเกล็ดพญานาค พิธีละว้าเซ่นไก่(การบวงสรวงเจ้าป่าเจ้าเขา) และตำราสวัสดิมงคลในภาคของโหราศาตร์

แม้จะไม่มีการรบพุ่งกันแล้วในปัจจุบัน แต่พิธีกรรมทางไสยศาตร์ต่างๆก็ยังนิยมนำมาใช้โดยผู้นำการชุมนุมประท้วงต่างๆ ที่เสมือนหนึงการยกทัพ ออกศึก เพื่อให้เกิดอัปมงคลแก่ฝ่ายตรงข้าม เกิดมงคลกับฝ่ายตนเอง รวมทั้งเป็นการบำรุงขวัญและกำลังใจให้กับมวลชน เช่นการตัดไม้ข่มนาม การเผาพริกเผาเกลือเพื่อสาปแช่ง การดำเนินกิจกรรมตามฤกษ์ตามดวง (เรียกโก้ๆว่าเป็นการแสดงเชิงสัญลักษณ์) เพียงแต่เหตุผลของพิธีกรรมทุกวันนี้ มิได้เป็นไปเพื่อให้เกิดอัปมงคลแก่อริราชศัตรู แต่เป็นไปเพื่อการทำร้าย ทำลาย คนไทยด้วยกันเอง...)-:

 

ยันต์นี้ลงตระกรุดดอกเดียววิเศษนักแล อย่าว่าแต่ข้าศึกมนุษย์เลย ถึงเทวดาก็มิต้องกลัว ลงแล้วจึงเสกด้วยตนเองเถิด แม้เจ็บไข้เจ็บตาให้เอาตระกรุดแช่น้ำหยอดกินหายแล ถ้าจะเข้าณรงค์สงคราม ให้เอาหญ้าขัดมอญ สันพร้ามอญ โคนดินสอ สีสาย ตระกรุดคงกระพันชาตรี ตีราคาแสนตำลึงทองแล...

จากหนังสือ ๑๐๘ ยันต์ฉบับพิศดาร
อาจารย์ อุรคินทร์ วิริยะบูรณะ

 

 หมายเหตุ : บันทึกฉบับนี้มิได้เป็นการชวนเชื่อให้งมงายในไสยศาตร์ เพียงแต่เป็นการนำเสนอเรื่องราวของความเป็นไทยในอดีต

 

 

หมายเลขบันทึก: 345788เขียนเมื่อ 20 มีนาคม 2010 13:22 น. ()แก้ไขเมื่อ 6 กันยายน 2013 22:37 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (22)

ดีมากเลยค่ะ

ตกแต่งได้สวยมากเลยค่ะ

พอดีพึ่งฝึกสร้างบ๊อล์กแต่ยังไม่สวยขอคำแนะนำบ้างได้ป่าวค่ะ

ทำอย่างไรจะได้หน้าบ๊อล์กสวยแบบนี้ ขอบคุณค่ะ

P
ขอบคุณครับที่ชม ลองsearch ใน google สิครับ ใส่key word พวก "แต่งบล๊อค gotoknow" จะพบคำแนะนำจากหลายๆคนครับ ... ยินดีต้อนรับสู่ go to hell , เอย!! ... go to know ครับ อิอิ (-:

บรรพบุรุษของเราท่านมีจิตวิทยาสูง และมีกุศโลบายที่แยบยล คิดพิธีกรรมฯ เพื่อการสร้างขวัญกำลังใจ เรื่องของพลังอำนาจจิตใจ เป็นสิ่งที่พิสูจน์ทางวิทยาศาสตร์ ไม่ได้ แต่เราก็สัมผัสได้ พี่จรรย์เองก็มีประสบการณ์ตรงหลายครั้งแล้ว แต่มันยังคงอธิบายไม่ได้

แต่ปัจจุบันผู้คนได้นำพิธีกรรม และไสยศาสตร์ มาใช้ผิดๆ

 

P

จริงๆครับพี่จรรย์ ผมว่าเรื่องในชีวิตเราทุกเรื่องมันไม่จำเป็นต้องเอาวิทยาศาตร์มาพิสูจน์ทั้งหมดหรอก ถ้าเรื่องนั้นมันก็ให้เกิดความรู้สึกดีๆ พิธีกรรมก็เช่นกันถ้าทำแล้วรู้สึกดี เกิดขวัญกำลังใจ มันก็ไม่จำเป็นต้องมาพิสูจน์อะไร นอกเสียจากพิธีหลอกลวงที่หวังผลทางการค้า เงินทอง อะไรทำนองนั้น ก็ต้องมาคิดหาวิธีการพิสูจน์กันไปเพื่อยืนยันว่ามันหลอกลวง จะได้ไม่ต้องมาโดนหลอกเสียเงินเสียทอง.....................แต่ก็ยังมีความงมงายที่มาในคราบวิทยาศาตร์เหมือนกันครับ อย่าง GT200 ไม้ล้างป่าช้า เครื่องมือทางวิทยาศาตร์ที่ใช้หลักการไสยศาตร์ หลอกเงินภาษีคนไทยไปทั้งประเทศ อะอะอะ คิดแล้วขำไม่ออกเลยครับ )-:

ผมไม่ได้เข้ามานานยังคิดถึงครับ

P
ขอบคุณที่ยังแวะมาทักทายครับ (-:

ขอบคุณนะครับ

ให้สนธิรดน้ำมนต์ด้วย..

P
ให้สนธิรดน้ำมนต์แล้วอย่าลืมให้พราหมณ์แดงเป่ากระหม่อมนะครับ อิอิ (-: ขอบคุณที่แวะมาทักทายครับ

อากาศก็ร้อน

คนก็ร้อน

ทะเลากันยิ่งร้อน

มาใช้ตำราพิชัยสงคราม

แปลงเป้นกลลยุทธ์

ในการสร้างโครงการดี ๆ

พัฒนาบ้านเมืองกันดีกว่าคะ

P
กลยุทธ์คงจะไม่ได้ผลแล้วละครับ คงต้องทำเสน่ห์ใส่ให้กลับมารักกันจะwork กว่านะผมว่า แต่ในตำราพิชัยสงครามไม่มีวิชาทำเสน่ห์ซะด้วยสิ...

สรุปเราจะไปรบกันหรือนี้ ยามศึกเราร่วมกันรบ ยามสงบเราจะรบกันเอง สงสัยต้องฝึกไว้จะได้ไม่ลืมเมื่อรบกับคนอื่น

P
ทำนองนั้นมั้งครับอาจารย์ กลัวแต่ว่าจะซ้อมรบกันเองเพลินจนหมดเรี่ยวหมดแรงไปรบกับคนอื่นไม่ไหว สุดท้ายต้องมานอนพะงาบๆ หยอดน้ำข้าวต้มให้กัน ขอบคุณสำหรับความเห็นครับ

สวัสดีค่ะคุณฝนแสนห่า

เรื่องไสยศาตร์เป็นเรื่องที่มีมานมนานมากๆจริงๆอย่างทีกล่าวไปแล้วนะค่ะ

และแป้งก็เคยเห็นกะตามาด้วยละค่ะ

คุณปู่แป้งท่านเป็นคนสุรินทร์

ตอนนั้นน้องแป้งยังเด็ก ร้องไม่หยุดทั้งคืน

ป๊าเลยเรียกให้ปู่มาเป่าค่ะ

ปู่ท่องอาไรก็ไม่รู้ซักพัก แล้วก็เป่าที่กระหม่อมน้องค่ะ

ปรากฏว่าน้อง หยุดร้องทันที และนอนหลับไปเลยค่ะ

ขอบคุณสำหรับความรู้ดีๆค่ะ ^_^

P
เป่าด้วยความรัก เสกด้วยเมตตา จากคนที่รักเรา เป็นคาถาที่ทรงพลานุภาพเป็นอย่างยิ่ง จากความทุกข์กลายเป็นความสุข จากหวากลัวกลายเป็นอบอุ่นใจ ไม่จำเป็นต้องหาข้อพิสูจน์...มันมีอยู่จริงครับน้องแป้ง เคยมีประสบการณ์มาเช่นกันครับ (-:

สวัสดีค่ะ

เข้ามาเยี่ยมและถือโอกาสศึกษาเกี่ยวเรื่องไสยศาสตร์

...มีเรื่องของตัวเองเล่านิดนึงค่ะ...ตอนนั้นยังเป็นเด็กชั้นประถม เคยลองท้าทายไสยศาสตร์ด้วยการเข้าไปนั่งให้เขาเข้าทรง ปรากฏว่า(ผี)ไม่ยอมเข้าประทับทรง คนเชิญเลยถามว่า เกิดวันพฤหัสใช่ไหม ตอบไปว่าใช่(ก็ใช่จริงๆ) เขาบอกว่า คนเกิดวันครู ผีไม่เข้าทรงเลยไม่รู้ว่าจริงๆแล้วเป็นอย่างไร

...ตัวเองเชื่อนะคะว่าไสยศาสตร์เป็นศาสตร์อย่างหนึ่ง และเชื่ออีกอย่างนึงว่า ผี..มีอยู่จริง(เพราะเคยเจอ)

P
กล้าทดลองจริงๆนะครับ แค่ชื่อ"ผี" ก็น่ากลัวอยู่แล้ว นี่ยังลองให้มาเข้าสิงอีก ระวังมันสิงแล้วมันจะยึดร่างไม่คืนนะครับ ต้องลำบากไปร้องเรียนศาล บังคับให้มันคืนร่างให้อีก อิอิอิ... เชื้อโรคที่รู้ว่ามีก็เพราะมีกล้องจุลทรรศน์ไปส่องดูมัน อะไรๆที่ตามองไม่เห็นหรือไม่มีเครื่องมือไปส่องดูมันก็ยังมีอีกเยอะครับ.... เชื่อว่ามีเหมือนกัน แต่ไม่เคยเจอ และไม่อยากเจอ ...กลัว
ขอบคุณสำหรับความเห็นครับ (-:

มันจะอยู่ต่อไป จนเราย้ายไปดาวดวงอื่นนั่นแหละครับ (ทรรศนะ)

P
ไม่ว่าไปที่ไหนมันก็ยังอยู่ละครับ เพราะมันจะอยู่ทุกที่ที่มีคนอยู่ 555

ความสามารถ + การสร้างขวัญและกำลังใจ = ความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่ค่ะ

แวะมาทักทายค่ะ ^^

สวัสดีปีใหม่ ขอดวงใจให้สุขสันต์

แคล้วคลาดสิ่งร้ายพลัน มีชีวันอันสุขศรี

หวังใดที่ปรารถนา จงนำพาเพิ่มทวี

ประสบแต่สิ่งดี จงอย่ามีทุกข์แผ้วพาน

มาอวยพรปีใหม่ไทยย้อนหลังคะ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท