ทัวร์จีน กลยุทธ์การค้าของรัฐบาลจีน : มุมมองการค้าและการศึกษา

กลยุทธ์การค้าของรัฐบาลจีน : มุมมองการค้าและการศึกษา

ธนสาร  บัลลังก์ปัทมา

พิมพ์ครั้งแรก นิตยสารจุลทัศน์ ปีที่ 1 ฉบับที่ 2 เดือนมีนาคม 2553

            โปรแกรมทัวร์ที่คนไทยนิยมไปท่องเที่ยว ศึกษาดูงาน ในราคาพอเหมาะ ระยะทางไม่ใกล้เกินไป ไม่ไกลเกินไป คงต้องยกให้กับโปรแกรมทัวร์จีน ชมกำแพงเมืองจีน หนึ่งในเจ็ดสิ่งมหัศจรรย์ของโลก แต่มีใครฉุกคิดบ้างว่า ทำไมทัวร์จีนช่างถูกอกถูกใจคนไทย ยิ่งนัก มีทั้งชอบ ทั้งชิม ทั้งโชว์ (ไกด์เพิ่ม “ฉี่” ให้อีกตัว)

                เริ่มตั้งแต่ก้าวออกจากประเทศ โดยสายการบินจีน (Air China) ขาไปเราขึ้นที่ทางออกอย่างดี แต่ขากลับต้องนั่งรถไปขึ้นเครื่อง (แต่ก็ได้บรรยากาศอีกแบบ กับการถ่ายภาพหมู่ก่อนขึ้นเครื่องบิน) เมื่อก้าวลงสู่แผ่นดินพญามังกร คนไทยจะต้องไปเที่ยวชมสถานที่ต่าง ๆ ตามที่รัฐบาลจีนบังคับไว้ คือ โรงงานหยก โรงงานครีมไข่มุก โรงงานผ้าไหม บริการนวดและซื้อยาที่สนามกีฬารังนก และบางทัวร์ต้องไปโรงงานบัวหิมะ และการบูชาผีสิ่ว(ปี่เซียะ)สัตว์นำโชค จากการเดินทางไปปักกิ่งเป็นครั้งที่สองในรอบ 3 ปี ทำให้เราเตรียมตัวในการซื้อของไว้แล้ว ไม่ต้องจ่ายแพงเหมือนนักชอบหน้าใหม่(ในร้านที่รัฐบาลจีนให้ชม)

                โรงงานหยก เป็นโรงงานที่จัดให้ไปในวันที่เดินทางไปเที่ยวกำแพงเมืองจีน ในการไปครั้งแรกเมื่อ 3 ปี ก่อน ราคาหยกยังต่อรองได้มาก แต่ปัจจุบันราคาค่อนข้างแน่นอนขึ้น มีสินค้าเกี่ยวกับความเชื่อให้คนได้เลือกชมหลายชนิด

โรงงานผ้าไหม เป็นจุดที่นักซื้อต้องใจเย็นนิด เพื่อให้คนอื่นซื้อก่อน เมื่อโรงงานขายสินค้าได้ตามเป้าจึงจะเริ่มลดราคาให้ผู้ที่สนใจจึงค่อยซื้อ ในเวลานั้น ในทริปของเราไกด์เร่งเรามากในวันกลับจากเที่ยวกำแพงเมืองจีน ซึ่งครั้งนี้เราขึ้นกระเช้าที่ด่านปาต้าหลิง (ต้องรอไกด์นาน ซื้อตั๋วผิดแบบ คือซื้อเที่ยวเดียว ขาลงจึงต้องรอตั๋ว)

        โรงงานครีมไข่มุก นับเป็นไฮไลต์ของการชอปในครั้งนี้ที่คนใจเย็นสุด ๆ จะได้ของดีราคาไม่แพง ก่อนเข้าไปซื้อได้กระซิบบอกสมาชิกในกรุ๊ปไปแล้วว่าให้ซื้อสองสามคนก่อน แล้วคนที่เหลือค่อยซื้อตอนใกล้กลับ เพราะครีมยี่ห้อนี้มีขายที่ร้านในเซิ่นเจิ้นในราคาถูกกว่าที่ซื้อจากโรงงาน แต่เมื่อไปถึงโรงเรียนเจอข้อเสนอ2 แถม 1 สมาชิกของเราก็รีบจับจองกัน ส่วนคนที่ใจเย็นรอซื้อกลับมาฝากสมาชิกในที่ทำงานของเรายอมรอตามที่กระซิบ ผลการเจรจาเราซื้อได้ 1 แถม 1+1 คือครีมไข่มุก 1 กล่อง แถม 1 กล่อง และผงไหม เท่านั้นยังไม่พอเพราะผู้เขียนไม่ได้ซื้ออะไร(ใจเย็น) พอก้าวลงบันได้เท่านั้น พนักงานมาเสนอขายในราคาพิเศษสุด ๆ ยิ่งกว่า 1 แถม 1+1 เสียอีก (อยากรู้ต้องลองทำดูว่าได้ราคาใด) จุดที่น่าสนใจของครีมไข่มุก มีการรีแบรนด์เปลี่ยนยี่ห้อเป็นตรานกยูง ซึ่งจากการสนทนาทำให้รู้ว่าของเก่ายังมีเหลือขายในราคาพิเศษสุด

         บริการหมอแมะนวดและซื้อยาที่สนามกีฬารังนก คณะในกรุ๊ปของเราเป็นคนพูดเองว่า “พอรู้ว่าเราไม่ซื้อ เขาก็เลิกนวด” ส่วนคนที่ซื้อยังคงนวดต่อไป พร้อมกับเชิญรับพลังลมปราณ แต่เรามารู้ทีหลังตอนไปดูผีสิ่ว(ปี่เซียะ)สัตว์นำโชคแถวหอฟ้าเทียนถานว่าตรงที่ติดกับร้านผีสิ่ว(ปี่เซียะ)สัตว์นำโชคที่รถจอดและมีคนจีนไปเที่ยวเยอะมากนั่นคือร้านขายยาสำหรับคนจีน มีหมอแมะและราคาในราคาถูกกว่าหลายเท่าตัว ซึ่งเป็นเรื่องบังเอิญที่ผู้เขียนกับน้องเหมา หน้าตาเหมือนคนจีน(เพราะเป็นลูกครึ่งไทยจีน) เดินเข้าไปดูและน้องเหมาพูดจีนได้พอสมควร จึงเข้าไปดูและถามราคา

       จุดที่น่าสนใจนอกจากกำแพงเมืองจีน คือ กายกรรมปักกิ่ง และบุฟเฟต์นานาชาติที่บริษัทแทรเวลโปรแถมให้พวกเรา นอกจากนั้นคือการชอปที่ตลาดรัสเซีย(ตลาดที่ต่อรองราคาได้) ต้องใจกล้า ดูลู่ทางลมและทำเลก่อนต่อ จะได้ไม่โดนด่า

       มุมมองด้านการค้าและการศึกษาที่อยากนำเสนอ มีข้อคิดที่น่าสนใจ ดังนี้

       ประการแรก รัฐบาลจีน ยอมทุ่มทุน ส่งคนมาศึกษาในเมืองไทย เรียนรู้วัฒนธรรมไทยก่อนกลับไปเป็นพนักงานขายผ้าไหมและครีมไข่มุก รวมทั้งยังฝึกพนักงานขายให้พูดภาษาไทยได้สร้างความเป็นกันเองแก่ลูกค้า

       ประการที่สอง รัฐบาลจีนส่งคนมาบวชพระ เพื่อศึกษาความเชื่อคนไทย นำไปประยุกต์กับการบูชาผีสิ่ว(ปี่เซียะ)สัตว์นำโชค จากการไปปักกิ่งครั้งแรกการบูชาผีสิ่ว(ปี่เซียะ)สัตว์นำโชคไม่มีการปลุกเสก แต่เมื่อไปครั้งนี้การบูชาผีสิ่ว(ปี่เซียะ)สัตว์นำโชคมีการปลุกเสกที่หอฟ้าเทียนถาน

       ประการที่สาม รัฐบาลจีนมีการบังคับให้บริษัททัวร์ในจีน ต้องนำลูกทัวร์ไปร้านค้าที่เป็นสินค้าวัฒนธรรมและเอกลักษณ์ของจีน

       ประการที่สี่ รัฐบาลมีร้านค้าสำหรับนักท่องเที่ยว แต่ก็มีร้านราคาถูกสำหรับคนจีน เช่น ร้านขายยาที่มีหมอแมะบริการ

       ประการที่ห้า รัฐบาลจีนมีจุดขาย เช่น เป็ดปักกิ่ง กายกรรมปักกิ่ง สุกี้มองโกล ที่ถ้าคนไทยจะไปกินต้องเตรียมน้ำจิ้มสุกี้(แบบขวดพลาสติก)พกพาไปด้วยแบบคณะของเราจึงจะได้รสชาติที่แสนอร่อย

       ประการสุดท้าย รัฐบาลจีนส่งนักศึกษามาเรียนในไทย เพื่อกลับไปพัฒนาการค้าที่จีน และส่งนักศึกษาจีนที่จบการศึกษามาสอนภาษาจีนในไทย นับเป็นการมองการณ์ไกลของรัฐบาลจีนในการเผยแพร่วัฒนธรรมจีน ภาษาจีน (เท่าที่รู้คือนักศึกษาจากมหาวิยาลัยหงเหอที่สอนภาษาจีนฟรี โดยโรงเรียนที่สนใจสนับสนุนค่าที่พักและค่าอาหาร 3 มื้อ)

       การไปเที่ยวปักกิ่งครั้งแรกเมื่อสามปีที่แล้ว เป็นการไปเที่ยวแบบสนุก แต่การไปเที่ยวในครั้งนี้เป็นการไปเที่ยวแบบเก็บเกี่ยวความรู้ ทำให้ได้เห็นมุมมองใหม่มากขึ้น ได้เห็นแนวคิดด้านการตลาดของจีนที่ประสบผลสำเร็จในการค้าขาย ได้เห็นการจัดการศึกษาในโรงเรียนนานาชาติปักกิ่ง หมายเลข 8 ที่ใช้หลักสูตรแคนาดา (พร้อมประกาศนียบัตรที่สวยงามสำหรับผู้ไปเยี่ยมชม)

       กลยุทธ์ด้านการค้าของจีนนับว่าสุดยอดจริง ๆ ทำให้เชื่อว่าจีนต้องเป็นผู้นำการค้าโลกในไม่นานนี้แน่///

[ทัศนาวดี-ใจสว่าง]

ใจสว่าง มาเยี่ยมชม

[คนสนใจจีน]

น่าสนใจ จีนมีวิสัยทัศน์กว้างไกล

[คนไทย]

จีนเค้ามองไกล ไม่ทะเลาะกัน