จากที่หนูเคยได้เขียนบันทึก สอนหลานเขียนบันทึกประจำวันและสวดมนต์ หนูมีข้อตกลงกับหลานชาย ป.2 ว่า ให้เขียนบันทึกประจำวันในสมุดและสวดมนต์โดยใช้แรงกระตุ้นเบื้องต้นเป็น Handy drive 4 G ที่เขาปรารถนานำมาใช้งาน หากทำครบ 1 เดือน เขาจะได้เป็นเจ้าของอย่างสมบูรณ์
ขณะที่เริ่มทำหนูก็มีคำถามเกิดขึ้นในตนเองว่า “เป็นการสร้างนิสัยที่ไม่ดีให้หลานชายหรือไม่” ยังไม่ได้คำตอบ แต่หนูขอสังเกตพฤติกรรมไปก่อนทดลองดู หลังจากกลับมากรุงเทพไม่นาน
เมื่อเย็นวานได้รับโทรศัพย์จากหลานชายว่า
“น้าติ๋ว น้องตั้มเอา Handy drive ใส่กระเป๋าไปโรงเรียนด้วย แต่มันหาย”
หนูตอบทันทีตามความเคยชินว่า “ว่าแล้ว”
แล้วจิตหนูก็วกมาที่ลมหายใจ หยุดแว๊บหนึ่ง ใจสบายขึ้น แล้วก็ถามน้องตั้มกลับด้วยน้ำเสียงสบาย ๆ ว่า “แล้วครานี้เราจะทำยังไงดีนะ”
น้องตั้มเงียบไปแล้วโทรศัพย์ก็โดนตัดไป หนูโทรกลับไม่ได้เพราะว่าตังค์ในโทรศัพย์หมด แล้วก็มีนัดกับเพื่อทานข้าวที่หอเย็นนี้ใกล้เวลานัดแล้วด้วย แม้จะห่วงใยหลาน แต่คิดอีกที ลองปล่อยเวลาให้ดำเนินไปสักพักให้น้องตั้มได้ทบทวนในตนเอง แล้วค่อยมาช่วยกันแก้ไขอีกที
เย็นวันนี้หนูจึงโทรหาน้องตั้มอีกรอบ น้องตั้มเล่าให้ฟังว่า
“ช่วยกันหาแล้ว เพื่อน ๆ ในห้องก็ช่วยด้วย แต่ก็ไม่เจอ”
หนูถามว่า
"งั้นเอาไงดีนะ ถ้าน้องติ๋วซื้อให้อีกก็เท่ากับว่าซื้อให้ตั้งสองอัน จากสิ่งที่เพิ่มขึ้นมาน้องตั้มน่าจะทำอะไรเพิ่มขึ้นดีไหมครับ”
หนูหยุดประเด็นไว้ที่ตรงนี้แล้วก็ถามน้องตั้มว่า
“น้องตั้มยังเขียนบันทึกและสวดมนต์อยู่ไหมครับ”
“เขียนครับ แต่ว่าเมื่อวานน้องตั้มลืมสวดมนต์ วันนี้ก็เลยสวดเพิ่มเป็น 3 รอบ”
ทำให้หนูแว๊บขึ้นมากับตนเองว่า อืม ใช้ได้ เราเองก็ต้องเอาหลานชายเป็นตัวอย่าง ถ้ากิจวัตรใดไม่ได้ทำ ก็ทำเพิ่ม จึงถามต่ออีกว่า
“น้องตั้มเห็นบทสวดทำวัตรเย็นไหมครับ”
“เห็นครับตั้มก็อยากอ่านอยู่น้าติ๋ว”
“ดีเลย งั้นเอาอย่างนี้ ถ้าให้น้องตั้มอ่านบทสวดทำวัตรเย็นเพิ่มและนั่งสมาธิต่อสักห้านาทีหลังอ่านจบได้ไหม”
น้องตั้มดีใจแล้วบอกว่า
“เย้ ๆ ได้ครับ ๆ งั้นตั้มจะยืมโทรศัพย์แม่ มาตั้งนาฬิกาเพื่อจับเวลา”
“งั้นก็ตกลงตามนี้ เริ่มเย็นนี้เลย”
ขอบพระคุณค่ะ นาง นงนาท สนธิสุวรรณ ตะกี้หลานชายโทรมารายงานว่า
"น้องตั้ม พาน้องตาล (น้องสาว) มานั่งสมาธิด้วยกันด้วยน้าติ๋ว แล้วก็เข้ามานั่งสมาธิในห้องนอนใหม่ด้วย"
หนูรู้สึกประทับใจ ในความตั้งใจของเขาทั้งสองเลยค่ะ เหมือนยิงนัดเดียวได้นกสองตัวจริง ๆ เลยค่ะ