การประชุมเชิงปฏิบัติการ WU KM รุ่น ๗ (๑)

ตอนเดิม

มวล. จัดการประชุมเชิงปฏิบัติการเรื่อง KM ให้กับบุคลากรมาแล้ว ๖ รุ่น แต่โปรแกรมครั้งนี้แตกต่างจากครั้งก่อนๆ เนื่องจากมีผู้เข้าประชุมมาจากหลายหน่วยงาน มีทั้งอาจารย์และเจ้าหน้าที่ ซึ่งหน้าที่การงานแตกต่างกัน ดิฉันจึงจะให้ผู้เข้าประชุมรู้จัก KM แบบง่ายๆ ได้ลองฝึกเทคนิคต่างๆ เช่น การฟัง การจับประเด็น การจดบันทึก การเล่าเรื่อง ฯลฯ

วันที่ ๒๕ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๓
ดิฉันออกจากบ้านเกือบ ๗ น. เพื่อไปรับลูกสาวและลูกเขยที่สนามบินนครศรีธรรมราช ช้ากว่าเวลาที่ควรเป็น แต่ก็ต้องแวะเติมน้ำมนรถให้เต็มถังเสียก่อน ช้าแล้วยิ่งช้าเข้าไปอีก เพราะทั้งปั๊มมีคนเติมน้ำมันอยู่เพียงคนเดียว มีรถจอดรออยู่ทุกตู้...ขับรถไปถึงสนามบินเมื่อ ๐๗.๒๐ น. ยังไม่ช้าเกินไป รับลูกเสร็จแวะกลับที่ มวล. ให้ทุกคนทำภารกิจส่วนตัวให้เรียบร้อย ออกเดินทางอีกครั้งเมื่อเวลาประมาณ ๐๘ น. กว่าๆ

การเดินทางไม่ยากเราใช้ถนนสาย ๔๔ หรือ Southern ไปจนสุดเส้นทาง แล้ว U-Turn เข้าสู่ถนนสาย ๔ มุ่งหน้าไปพังงา สับสนเล็กน้อยเมื่อผ่านอ่าวลึกไปทับปุด ต้องโทรศัพท์ถามเส้นทางจากคุณนิรันดร์ จินดานาค หัวหน้าหน่วยพัฒนาองค์กร ๒ ครั้ง แล้วก็ถึงที่หมายเมื่อเวลาประมาณ ๑๑.๑๕ น. ปรากฏว่าห้องพักยังเข้าไม่ได้ ห้องประชุมก็ยังใช้ไม่ได้เพราะมีกลุ่มของมหาวิทยาลัยทักษิณ ใช้อยู่ เราจึงกินอาหารกลางวันกันก่อน ดีใจที่เจอ ดร.ไพบูลย์ ประโมจนีย์ คณบดีคณะเทคโนโลยีและพัฒนาชุมชน และ รศ.ประดิษฐ์ มีสุข คนรู้จักกันที่ทำงานอยู่ ม.ทักษิณ

 

ป้ายต้อนรับของบ่อแสนฯ ที่หน้าอาคาร Lobby

เสร็จจากอาหารกลางวัน เวลา ๑๒.๔๕ น. เราก็เริ่มกิจกรรมกันเลย ดร.กีร์รัตน์ สงวนไทร รองอธิการบดีฝ่ายวางแผนและพัฒนา กล่าวเปิดโครงการและบอกถึงทิศทาง เป้าหมาย KM ในวลัยลักษณ์ ดร.กีร์รัตน์บอกว่ากิจกรรม ๒-๓ วันนี้ถือว่าเป็นกิจกรรมมอบกระบี่แรก มหาวิทยาลัยเชื่อว่ากระบี่หรือ KM เป็นเครื่องมือ...ที่พยายามเทียบคียง KM กับกระบี่คือถ้าได้ไปแล้วไม่ไปฝึกใช้ให้ชำนาญ คุ้นเคย เป็นวิถีคิด วิถีชีวิต กระบี่เล่มนั้นก็ไร้ค่า การประชุมครั้งนี้ถือว่าเป็นกระบี่แรก...ยังต้องฝึกอีกนาน จามองก็ใช้เวลานาน กระบี่กว่าจะชำนาญต้องฝึกปฏิบัติ ...KM ก็เหมือนกัน

มหาวิทยาลัยเชื่อว่า KM จะเป็นเครื่องมือที่จะช่วยขับเคลื่อน มวล. ไปสู่เป้าหมายได้...๒-๓ วันนี้น่าจะสร้างแรงบันดาลใจ ให้คิดการเอา KM ไปพัฒนางาน....ทีมงานก็พยายามที่จะเตรียมตรงนี้ ให้เราเริ่มต้นรู้จัก บางคนอาจทราบมาบ้างแล้วก็อาจลองฝึก ปรมาจารย์ด้าน KM บอกไว้ว่า KM ไม่ใช่ผลที่เกิดขึ้น อย่าไปพูดว่าทำ KM ….KM เป็นเครื่องมือที่จะช่วยให้บรรลุเป้าหมาย

เป้าหมายของ มวล.คืออะไรบ้าง ต้องเอาเป้าหมายเป็นหลักก่อน แล้วจึงเอา KM และเครื่องมือตัวอื่นๆ...ยังมีเครื่องมืออีกหลายตัว KM เป็นเพียงเครื่องมือตัวหนึ่ง...ถ้าใช้อย่างถูกทางถูกวิธี จะทำให้เราทำงานมีความสุข ต่อจากนั้นจึงพูดถึงพันธกิจต่างๆ ของมหาวิทยาลัยคือสร้าง “ศึกษิต” สร้าง “ความรู้” และอำนวยประโยชน์แก่สังคม รวมทั้งปัจจัยสู่ความสำเร็จ Brand สำหรับศึกษิต ผลงานวิจัย องค์กรในส่วนของมุมมองภายใน และมุมมองจากภายนอก
 
ทั้งหมดที่เล่าให้ฟังคือเป้าหมาย... KM เป็นเครื่องมือที่ดีตัวหนึ่ง....ต้องเชื่อร่วมกันก่อน ยกเรื่อง GT200 ...KM ก็เหมือนกัน ต้องเชื่อ...เริ่มจากความเชื่อ เชื่อแล้ว เข้าใจ ลงมือปฏิบัติ จนเข้าถึงแก่น...

เราไม่ได้ทำ KM เพื่อ KM แต่ใช้ KM เพื่อให้บรรลุแผนยุทธศาสตร์ที่สำคัญ มหาวิทยาลัยได้ปักธงเป้าหมายไว้ ๕ เรื่อง ๕ ธง คือการเพิ่มคุณภาพบัณฑิต การสร้างเสริมคุณค่างานวิจัยและงานบริการสังคม การพัฒนาอุทยานการศึกษาฯ การเพิ่มสมรรถนะองค์กร และการชื่นชมคุณค่าบุคลากร ถ้าจะทำให้สำเร็จเราเชื่อว่า KM เป็นเครื่องมือตัว ในประเด็นยุทธศาสตร์ ๕ กลยุทธ์ที่ ๙ ระบุว่าประยุกต์ใช้หลักคิดของ KM เป็นเครื่องมือการพัฒนาคน พัฒนางาน และพัฒนาองค์กร
 
ดร.กีร์รัตน์แตะ KM นิดหน่อยว่ามีคำว่า Management และ Knowledge...ความรู้มี ๒ อย่าง Tacit & Explicit Knowledge ระดับการจัดการความรู้ขององค์กร อยากไปถึง stage 5 Knowledge-centric เกิดวัฒนธรรมการจัดการความรู้…ยกสไลด์ของอาจารย์ประพนธ์ที่ว่าต้องปรับเครื่องมือให้เข้ากับบริบท KM ที่เรียนรู้ไปไม่ใช่จะเอาไปใช้ได้ทั้งดุ้น ต้องปรับให้เข้ากับบริบท การสร้างความรู้ ๒ แนวทางของอาจารย์วิจารณ์...ความรู้ในองค์กรส่วนใหญ่มาจากความรู้ในตัวคน

สิ่งนี้จะเกิดขึ้นได้ต้องเริ่มต้นที่ใจ เป็นเรื่องของสายใย เป็นเรื่องของเครือข่าย ใจต้องเชื่อก่อนจึง...KM จะเดินได้เป็นเรื่องของความเชื่อมโยงที่มาจากความผูกพันอันมั่นคง….เชื่อว่าการประชุมครั้งนี้ทุกคนจะได้กระบี่ที่ใช้การได้ดีกลับไป

วัลลา ตันตโยทัย

[ชาดำเย็น]

สวัสดีครับ อ.วัลลา

ขออนุญาตเสริมในส่วนของ อ.กีร์รัตน์ นิดหน่อยครับ ซึ่งท่านมีวลีเด็ดๆ ที่เกี่ยวกับ KM ในการนำมาประยุกต์ใช้และขับเคลื่อน KM ไว้ว่า "ใจมา เวลามี เวทีเกิด" ครับ

จาตุรนต์