การวิจัยครั้งนี้ผู้วิจัยได้กำหนดวัตถุประสงค์ ขอบเขตการวิจัยเครื่องมือในการวิจัยวิธีดำเนินการวิจัย ผลการวิเคราะห์ข้อมูล สรุปผลการวิจัยและอภิปลายผลตามลำดับ ดังนี้
1. เพื่อศึกษาสภาพปัญหาของการใช้ประสาทสัมผัสตาประสานกับกล้ามเนื้อมือ
2. เพื่อใช้ขบวนการทางดนตรีในการออกแบบกิจกรรมกาพัฒนาสายตาและการใช้กล้ามเนื้อมือ
3. เพื่อผู้เรียนได้ใช้การสัมผัสเกิดการเรียนรู้โดยสื่อวัสดุร่วมกับการพัฒนาเกี่ยวกับกิจกรรมพื้นฐานต่อพัฒนากล้ามเนื้อสายตากับกลุ่มสาระการเรียนรู้อื่นๆ
1. เพื่อการปูพื้นฐานการจัดระบบการรับรู้ในการสร้างและเตรียมความพร้อมในการเข้าสู่กระบวนการปฏิบัติ
2 . เพื่อพัฒนาทักษะการเรียนดนตรีของนักเรียนชั้นอนุบาลปีที่2
3 . เพื่อพัฒนากล้ามเนื้อให้มีความสัมพันธ์กับสายตาและการมองเห็น
4 . เพื่อศึกษาเปรียบเทียบความสามารถของนักเรียนชั้นอนุบาลปีที่2 ก่อนและหลังเรียน
การศึกษาครั้งเป็นการออกแบบฝึกและแก้ปัญหาการใช้กล้ามเนื้อกับการประสานกับสายตาโดยการใช้กิจกรรมการปฏิบัติเครื่องดนตรี กับนักเรียนปฐมวัยชั้นปีที่ 2 โรงเรียนบ้านควนไทรงาม เลขที่ 13/2 ต.นาคา กิ่ง อ. สุขสำราญ จ.ระนอง ประจำปีการศึกษา2549 จำนวน 39 คน
นักเรียนปฐมวัยปีที่ 2 โรงเรียนบ้านควนไทรงาม ปีการศึกษา2549 จำนวน 39 คน
ส่วนที่1 ตัวแปรอิสระ การใช้กิจกรรมการเรียนดนตรี (การฝึกหัดการใช้มือและนิ้วมือ)
ส่วนที่2 ตัวแปรตาม ความสามารถการควบคุมนิ้วมือให้ประสานสัมพันธ์กับสายตากับการมองเห็น
เป็นกิจกรรมที่เป็นต้นแบบการใช้กฎแห่งการรับรู้ในการวางระบบรากฐานการเรียนรู้ในการจัดออกแบบเนื้อหากิจกรรมดนตรีมีองค์ความรู้ด้าน
1. ความรู้เชิงคุณค่า(Qualitative Knowledge)
2 .ความรู้เชิงปริมาณ (Quantitative Knowledge)
3. ความรู้เชิงปฏิบัติการ (Per formative Knowledge) ควบคุมการสร้างออกแบบนวัตกรรมส่งผลให้นักเรียนชั้นอนุบาลปีที่2 โรงเรียนบ้านควนไทรงาม ซึ่งการดำเนินการวิจัยพบว่าได้มีการพัฒนากล้ามเนื้อมือและการสัมพันธ์การใช้สายตาเท่านั้น แต่ผลของการใช้นวัตกรรม จะส่งผลต่อการจัดระบบความพร้อมโดยตรงต่อสภาวะจากการรับรู้ (Perception) เปลี่ยนผ่านพฤติกรรมผ่านกระบวนการเป็นการเรียนรู้ ผ่านการปฏิบัติกิจกรรมการเรียนเครื่องดนตรี เป็นความรู้เชิงปริมาณ ความรู้เชิงปฏิบัติการ(วิธีการใช้กล้ามเนื้อ และหลักการปฏิบัติเครื่องดนตรี) และ3. ความรู้เชิงคุณค่า โดยผ่านสภาวะทางสุนทรียภาพอันได้แก่ 1. การลำลึก 2. คุ้นเคย และ3. ซาบซึ้ง เป็นการปรับพฤติกรรมการฝึกจิต โดยปฏิบัติที่เพลิดเพลินสู่สมาธิ ซึ่งเป็นพื้นฐานในการรับรู้กิจกรรมและความรู้อื่นๆ
จำนวนนักเรียนที่มีลักษณะปัญหาในการปฏิบัติกิจกรรมดนตรีพัฒนากล้ามเนื้อมือประสานสัมพันธ์กับสายตาและการมองเห็น ที่ปรากฏในลักษณะต่างๆ
ตารางที่ 3 แสดงจำนวนนักเรียนที่มีลักษณะปัญหาในการปฏิบัติกิจกรรมดนตรีพัฒนากล้ามเนื้อมือประสานสัมพันธ์กับสายตาและการมองเห็น ที่ปรากฏในลักษณะต่างๆ
รายการ |
จำนวนนักเรียนในชั้นอนุบาล 2 โรงเรียนบ้านควนไทรงาม ปีการศึกษา 2549 จำนวน 39 คน |
|||
ก่อนฝึก |
หลังฝึก |
|||
จำนวน |
ร้อยละ |
จำนวน |
ร้อยละ |
|
1.ด้านการบังคับกล้ามเนื้อ 1.1 การยืดหยุ่นกล้ามเนื้อมือ 1.2 การจำกับงอข้อมือ 1.3 การสั่งการให้ปฏิบัติตาม 1.4 การใช้กล้ามเนื้อถูกต้องตามการปฏิบัติ
2. การปฏิบัติเครื่องดนตรี 2.1 การจับไม้ตีระนาด / การวางนิ้วบนลิ้มคีย์บอด 2.2 การจำจำแห่นงเสียงลิ้มคีย์บอด 2.3 การกดและการบังคับนิ้ว 3.การใช้สายตาการสัมพันธ์การใช้มือในการปฏิบัติเครื่องดนตรี 3.1 ใช้ตาไม่สัมพันธ์กับมือ 3.2 ทิศทางการเคลื่อนมือ 3.3 การมองและวางมือผิดตำแหน่งเสียง
|
32 8 9 15
7 5
2
7
35 39 21
|
82.05 25.00 28.13 46.88
17.95 71.43
28.57
100
89.74 100 53.05 |
- - - -
39 3
-
9
- - - |
- - - -
100 7.69
23.08
- - -
|
จากข้อมูลจะเห็นได้ว่า ก่อนฝึกจำนวนนักเรียนส่วนใหญ่มีข้อบกพร้องในการใช้กล้ามเนื้อการยืดหยุ่นกล้ามเนื้อมือคิดเป็นร้อยละ 82.05 เป็นส่วนใหญ่ และในรายการที่2 การจับไม้ตีระนาด / การวางนิ้วบนลิ้มคีย์บอด คิดเป็นร้อยละ 71.43 และหัวข้อปัญหาที่3 การใช้ตาไม่สัมพันธ์กับมือ 89.74 เป็นส่วนมาก ซึ่งจากเปรียบเทียบคะแนนความสามารถในการปฏิบัติกิจกรรมดนตรีพัฒนากล้ามเนื้อมือประสานสัมพันธ์กับสายตาและการมองเห็นของนักเรียนชั้นอนุบาล 2 โรงเรียนบ้านควนไทรงาม ประจำปีการศึกษา2549
รายการ |
N |
X |
S.D. |
t |
คะแนนการทดสอบก่อนการทดลอง
คะแนนการทอสอบหลังการทดลอง |
39
39 |
11.07
16.07 |
1.20
0.87 |
11.03** |
ค่า t จากตารางที่ระดับ .01 = 3.291
จึงสามารถสรุปได้ว่าการสร้างนวัตกรรมด้านกิจกรรมในครั้งนี้นั้น พบว่าความสามารถในการฝึกปฏิบัติกิจกรรมดนตรีเพื่อการส่งเสริมและพัฒนากล้ามเนื้อมือประสานสัมพันธ์กับสายตาและการมองเห็นของนักเรียนชั้นอนุบาล 2 โรงเรียนบ้านควนไทรงาม ปีการศึกษา 2549 มีการพัฒนาขึ้น เป็นนวัตกรรมในการฝึกให้นักเรียนนั้นเป็นผู้มีกระบวนการทางความคิดอย่างเป็นลำดับขั้นตอน และสร้างนิสัยเป็นผู้มีความอดทน และเป็นผู้ที่มีวิสัยรักศิลปะ ซึ่งคุณสมบัติดังกล่าวนั้น เป็นพื้นฐานในการสืบสานวัฒนธรรมทางศิลปะของชาติต่อไป
ข้อเสนอแนะ
15.1 นักเรียนชั้นอนุบาล 2 มีทักษะกระบวนการในการพัฒนาทางการรับรู้ทางประสาทสัมผัสเป็นประสบการณ์ทางการรับรู้อันได้แก่ 1.ทางด้านการเห็น 2. การฟัง และ 3. การเคลื่อนไหว
15.2 เป็นการวิจัยในการจัดสร้างหลักสูตรการแก้ไขปัญหาการทางสติปัญญา และการพัฒนาการของเด็ก
15.3 เป็นการวางรากฐานความพร้อมในการจัดการศึกษา ในกลุ่มสาระการเรียนรู้ ทั้ง 8 กลุ่มต่อไป
15.4 นักเรียนชั้นอนุบาล 2 มีทักษะกระบวนการในการเล่นดนตรีสูงขึ้น
15.5 นักเรียนมีสมาธิที่ดีต่อการเรียนและมีความรักในการเรียนดนตรี
15.6 ผู้ปกครองและผู้มีส่วนเกี่ยวข้องมีความพึงพอใจในกิจกรรมการเรียนการสอนดนตรี
สอบถามรายละเอียดโทร.0825354867
ไม่มีความเห็น