การเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยีมีผลต่อการบริหาร ในปัจจุบันการใช้เทคโนโลยีถือเป็นส่วนหนึ่งของการทำงานในทุกระดับ การขยายตัวการใช้เทคโนโลยีไปสู่ผู้ปฏิบัติงานในระดับต่างๆผู้บริหารจึงหลีกเลี่ยงไม่ได้ที่จะต้องเผชิญกับสภาวการณ์ของการทำงานในสิ่งแวดล้อมที่ใช้เทคโนโลยีมากขึ้น แบบแผนการทำงานของผู้บริหารจึงต้องเปลี่ยนไปด้วยเทคโนโลยีที่สามารถรวงบรวมข้อมูล เก็บข้อมูล นำเสนอข้อมูล และเผยแพร่ข้อมูลอย่างรวดเร็วผลักดันให้ผู้บริหารบางครั้งต้องมีการตัดสินใจที่รวดเร็วขึ้น ต้องมีการเรียนรู้ใหม่เพิ่มขึ้นตลอดเวลาให้ทันกับการพัฒนาการของเทคโนโลยี
สารสนเทศ (Information) หมายถึง สาระความรู้ ความจริงที่สามารถนำไปใช้ถ่ายทอดสื่อสาร
การบูรณาการเทคโนโลยี (Integrated Technologies)
1. เทคโนโลยีคอมพิวเตอร์ (Computing Technology) คอมพิวเตอร์ที่นำมาใช้ทางด้านการเรียนการสอน (computer-Based Instruction) สามารถแบ่งออกเป็น 2 ประเภทใหญ่ๆ ได้แก่ Computer-Assisted Instruction หรือเป็นที่นิยม เรียกตัวย่อของคำแรกว่า CAI และคอมพิวเตอร์อีกประเภทหนึ่งได้แก่ Computer-Managed Instruction หรือ CMI คอมพิวเตอร์ทั้งสองประเภทแบ่งตามลักษณะของการนำไปใช้ในกิจกรรมของการเรียนการสอนทั้งหมด โดยที่ CAI จะเป็นคอมพิวเตอร์ที่ใช้กับผู้เรียนเป็นส่วนใหญ่ และ CMI จะเป็นคอมพิวเตอร์ที่นำไปใช้ในการดำเนินหรือจัดการกระบวนการของการเรียนและการสอน
2. เทคโนโลยีฐานข้อมูล (Data-based Technology) จะเป็นแหล่งรวบรวมข้อมูลเก็บไว้ในรูปของ Digital Code พัฒนาควบคู่กับเทคโนโลยีคอมพิวเตอร์เพราะเทคโนโลยีคอมพิวเตอร์จะมีประโยชน์น้อยถ้าไม่มีข้อมูลหรือโปรแกรม
3. เทคโนโลยีการสื่อสาร (Telecommunication Technology) หรือเทคโนโลยีคมนาคม และเทคโนโลยีการสื่อสารนี้เองที่เป็นตัวเชื่อมให้คอมพิวเตอร์กับฐานข้อมูลที่กระจายกันอยู่ทั่วโลกสามารถเชื่อมต่อกันได้เกิดสภาวการณ์ไร้พรมแดนหรือโลกาภิวัตน์ กับสังคม
.เทคโนโลยีการศึกษา (Educational Technology) เทคโนโลยีการศึกษาจะทำให้งานบริหารวิชาการของสถานศึกษาทั้งด้านหลักสูตรการรียนการสอน การวัดและการประเมินผลดำเนินไปอย่างมีคุณภาพ
ปัจจุบันคอมพิวเตอร์สามารถนำมาช่วยงานการเรียนการสอน เรียกว่า คอมพิวเตอร์ช่วยสอน หรือ CAI และคอมพิวเตอร์ช่วยจัดการเรียนการสอน หรือ CMI เราสามารถนำคอมพิวเตอร์เหล่านี้เชื่อมโยงกันเป็นเครือข่าย (Networks) ขึ้นภายในสถาบันการศึกษาเอง เพราะจากการศึกษาและวิจัยได้ข้อสรุป จนเป็นที่ยอมรับแล้วว่าเทคโนโลยีทางการศึกษาสามารถเพิ่มประสิทธิภาพและประสิทธิผลลดข้อจำกัด และเปิดโอกาสทางการศึกษาให้ กว้างขึ้น
1.ประสิทธิภาพ (Efficiency) หมายถึง การได้ผลผลิตสูงขึ้น โดยไม่ต้องมีการลงทุนเพิ่มในการบริหารการศึกษา
2. ประสิทธิผล (Effectiveness) หมายถึง การได้ผลผลิตตรงตามความต้องการ หรือตรงตามจุดมุงหมายที่กำหนดไว้
3. คุณภาพ (Quality) หมายถึงความเป็นเลิศ และความพอดีกับความต้องการ
ในฐานะ ของนักบริหารการศึกษา นอกจากประโยชน์ที่เกิดขึ้นในระบบของการจัดการเรียนการสอนแล้ว ผู้บริหารยังต้องเห็นความสำคัญเทคโนโลยีที่แตกต่างออกไปจากฝ่ายปฏิบัติการหรือครูผู้สอน ในส่วนของผู้บริหารนอกจากจะเข้าใจอย่างลึกซึ้งถึงประสิทธิภาพของเทโนโลยีที่จะช่วยให้มีการบวนการเรียนรู้ที่ดีแล้วยังต้องพิจารณาถึงปัจจัยอื่นๆที่มีอิทธิพลต่อการนำเทคโนโลยีไปใช้ เช่น
1. การดำเนินนโยบายทางการเมือง เศรษฐกิจ และสังคม
2. การผลักดันของธุรกิจ
3. การปรับตัวเองเพื่อเข้าสู่การเปลี่ยนแปลงในทางการศึกษา
4. ราคาที่ลดลงและมีแนวโน้มจะลดลงของวัสดุและอุปกรณ์การศึกษา
5. เทคโนโลยีปัจจุบันสามารถนำผสมผสาน หรือประยุกต์ใช้กับงานได้หลายอย่าง
ไม่มีความเห็น