การส่งเสริมการเรียนรู้ และการพัฒนานักเรียน
การส่งเสริมการเรียนรู้และการพัฒนานักเรียน ครูต้องทำการบันทึกผลหลังการสอนอย่างละเอียด แล้วนำผลที่ได้จากการสอนมาวิเคราะห์เพื่อพัฒนานักเรียน รวมทั้งในการประเมินและบันทึกผลหลังการสอน หากพบประเด็นปัญหาหรือจุดบกพร่องใด ๆ ทั้งส่วนที่เป็นจุดด้อยและจุดเด่นที่เกิดกับนักเรียนและในการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ ครูผู้สอนจะต้องรีบแก้ไขโดยหาแนวทางและวิธีการที่เหมาะสม เช่น การแก้ไขปัญหาโดยการทำวิจัยในชั้นเรียนเพื่อพัฒนานักเรียนอย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้ยังได้จัดกิจกรรมส่งเสริมการเรียนรู้ ทั้งภายในห้องเรียนและนอกห้องเรียน เช่น การสอนซ่อมเสริมให้กับนักเรียน การพัฒนาและปรับปรุงเอกสารประกอบการสอนรวมทั้งยังมีการเสริมแรง สนับสนุนนักเรียนที่มีความสามารถด้านพลศึกษา กรีฑา กีฬา รวมถึงทักษะในอีก หลาย ๆ ด้าน ดังผลการแข่งขันที่นักเรียนได้รับทั้งในระดับโรงเรียนและระดับกลุ่มเครือข่ายฆ้องชัยไตรมิตร ระดับเขตพื้นที่การศึกษากาฬสินธุ์ เขต 2 ระดับจังหวัดกาฬสินธุ์ รวมถึงหน่วยงานราชการอื่น ๆ เช่น คณะศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น
ชื่อเรื่อง รายงานการพัฒนาแบบฝึกทักษะการยิงประตูบาสเกตบอล ชั้นมัธยมศึกษา
ปีที่ 3 กลุ่มสาระการเรียนรู้สุขศึกษาและพลศึกษา
ผู้รายงาน นางสมหมาย วิเศษชู
สถานศึกษา โรงเรียนฆ้องชัยวิทยาคม อำเภอฆ้องชัย จังหวัดกาฬสินธุ์
ปีที่รายงาน 2551
บทคัดย่อ
รายงานการพัฒนาแบบฝึกทักษะการยิงประตูบาสเกตบอล ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 กลุ่มสาระการเรียนรู้สุขศึกษาและพลศึกษา ครั้งนี้มีวัตถุประสงค์
1) เพื่อพัฒนาแบบฝึกทักษะการยิงประตูบาสเกตบอล สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 โรงเรียนฆ้องชัยวิทยาคม ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2551 ที่มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ 75 / 75
2) เพื่อศึกษาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน
กลุ่มสาระการเรียนรู้สุขศึกษาและพลศึกษาของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 โรงเรียนฆ้องชัยวิทยาคม สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษากาฬสินธุ์ เขต 2 ปีการศึกษา 2551 หลังการเรียนโดยใช้ แบบฝึกทักษะการยิงประตูบาสเกตบอลให้สูงขึ้น
3) เพื่อหาดัชนีประสิทธิผลของแบบฝึกทักษะการยิงประตูบาสเกตบอล และ 4) เพื่อศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อการเรียนโดยใช้แบบฝึกทักษะการยิงประตูบาสเกตบอล
กลุ่มตัวอย่างที่ใช้เป็นนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 โรงเรียนฆ้องชัยวิทยาคม อำเภอฆ้องชัย จังหวัดกาฬสินธุ์ จำนวน 30 คน เครื่องมือที่ใช้ในการศึกษาคือ แบบฝึกทักษะการยิงประตูบาสเกตบอล สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 แผนการจัดการเรียนรู้ หน่วยทักษะการยิงประตูบาสเกตบอล ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 จำนวน 14 แผน แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนเป็นแบบปรนัยชนิดเลือกตอบ 4 ตัวเลือก จำนวน 30 ข้อ แบบทดสอบภาคปฏิบัติ จำนวน 5 ชุด และ แบบวัดความพึงพอใจที่มีต่อแบบฝึกทักษะการยิงประตูบาสเกตบอล สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 มีจำนวน 20 ข้อ เป็นแบบมาตราส่วนประมาณค่า สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ค่าเฉลี่ย ค่าร้อยละ ค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และค่า
t – test
จากการศึกษาและพัฒนาแบบฝึกทักษะการยิงประตูบาสเกตบอล ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ครั้งนี้ สามารถสรุปผลการศึกษาและพัฒนาได้ดังนี้
ที่สร้างขึ้นมีประสิทธิภาพ เท่ากับ 83.86 / 84.00 ซึ่งสูงกว่าเกณฑ์มาตรฐานที่ตั้งไว้
คะแนนทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนก่อนเรียนและคะแนนทดสอบหลังเรียน
มีความแตกต่างกัน อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 และคะแนนทดสอบหลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียน
พลศึกษามีประสิทธิผลเท่ากับ 0.6734 แสดงว่านักเรียนมีความรู้ความเข้าใจด้านทักษะการยิงประตูบาสเกตบอลในเนื้อหาที่เรียนเพิ่มขึ้นร้อยละ 67.34
โดยรวมมีค่าเฉลี่ยเท่ากับ 3.85 ( = 3.85) หมายถึง นักเรียนมีความพึงพอใจต่อการเรียนด้วยแบบฝึกทักษะการยิงประตูบาสเกตบอล อยู่ในระดับเหมาะสมมาก
อาจารย์ค่ะ รบกวนแสดแบบฝึกทักษะได้ไหมค่ะ