บทนําเเด่ผู้สนใจอิสลาม 1


อิสลาม


ด้วยพระนามแห่งอัลลอฮฺ ผู้ทรงกรุณาปราณี  ผู้ทรงเมตตาเสมอ 

      มวลการสรรเสริญทั้งมวลเป็นสิทธิของอัลลอฮฺ  เราขอสรรเสริญแด่พระองค์ เราขอความช่วยเหลือจากพระองค์   เราขออภัยโทษจากพระองค์  ขอความคุ้มครองจากอัลลอฮฺให้พ้นจากความชั่วร้ายในตัวของเรา  จากการงานที่เลวร้ายของเรา  ผู้ใดก็ตามที่อัลลอฮฺทรงนำทาง  เขาจะไม่หลงทาง   และผู้ใดที่อัลลอฮฺทำให้เขาหลง  ก็จะไม่มีผู้ใดนำทางเขา   ข้าพเจ้าขอปฎิญานตนว่า  ไม่มีพระเจ้าอื่นใดนอกจากอัลลอฮฺองค์เดียวเท่านั้น  และ ไม่มีภาคีใดๆสำหรับพระองค์  และข้าพเจ้าขอปฎิญานตนว่ามุฮัมมัดคือบ่าวและศาสนาทูตแห่งพระองค์ ขอความสันติสุขจงมีแด่ท่านและครอบครัวของท่าน  สาวกของท่าน และบรรดาผู้ปฏิบัติตามเขาเหล่านั้นด้วยความดีงาม

พระเจ้าอัลลอฮฺได้ตรัสความว่า :

 จงกล่าวเถิด (มูฮัมหมัด) ว่า โอ้บรรดาผู้ได้รับคัมภีร์ ! (ชาวยิวเเละชาวคริสต์) จงมายังถ้อยคำหนึ่งซึ่งเท่าเทียมกันระหว่างเราและพวกท่าน นั่นคือ เราจะไม่เคารพสักการะสิ่งอื่นใดนอกจากพระองค์เท่านั้น และเราจะไม่ให้สิ่งหนึ่งสิ่งใดเป็นภาคีกับพระองค์ และพวกเราบางคนก็จะไม่ยึดถืออีกบางคนเป็นพระเจ้าอื่นจากอัลลอฮฺ  แล้วหากพวกเขาผินหลังให้ (หลีกเลี่ยงจากการกระทำดังกล่าว)  ก็จงกล่าวเถิดว่า พวกท่านจงเป็นพยานด้วยว่า แท้จริงพวกเราเป็นผู้น้อมตาม( อัลอิมรอน 64 )

ศาสนาอิสลามคือศาสนาที่เที่ยงเเท้ เพราะเป็นศาสนาที่ตรงกับฟิฏเราะฮฺของมนุษย์(ธรรมชาติของความเป็นมนุษย์)  กล่าวคือเป็นศาสนาที่ชัดเจนโปร่งใสไม่สร้างความสับสนหรือยุ่งยากมากเกินไป ทุกคนมีสิทธิที่จะสอบถามในสิ่งที่ข้องใจเกี่ยวกับศาสนานี้  เเต่ทั้งนี้ไม่ได้หมายความว่า :ทุกคนมีอิสระในการที่จะตอบคําถามเหล่านั้น อัลลอฮฺได้ตรัสความว่า :   

จงกล่าวเถิด (มูฮัมหมัด) ว่า แท้จริงสิ่งที่พระเจ้าของฉันทรงห้ามนั้น คือ บรรดาสิ่งที่ชั่วช้าน่ารังเกียจทั้งหลาย  ครอบคลุมทั้งสิ่งที่เปิดเผยและสิ่งที่ไม่เปิดเผย  สิ่งที่เป็นบาป  การข่มเหงรังแกโดยไม่เป็นธรรม และการที่พวกเจ้านำสิ่งหนึ่งสิ่งใดมาเป็นภาคีต่ออัลลอฮฺ ซึ่งสิ่งเหล่านั้นพระองค์มิได้ทรงประทานหลักฐานใด ๆ ลงมา  และการที่พวกเจ้ากล่าวให้ภัยแก่อัลลอฮ์ในสิ่งที่พวกเจ้าไม่รู้(อัลอะอฺ รอฟ 33 )

บุคคลที่มีสิทธิในการให้คําตอบเรื่องศาสนา คือ นักวิชาการหรือผู้ที่มีความรู้ด้านศาสนาเท่านั้น

อัลลอฮฺได้ตรัส ความว่า :

 ดังนั้น พวกเจ้าจงถามบรรดาผู้รู้ หากพวกเจ้าไม่รู้ ( อันนะฮฺลุ 43 )

ท่านศาสนทูตอัลลอฮฺ – ขอความสันติจงประสบเเด่ท่าน-  ได้เตือนประชาชาติของท่านไม่ให้สอบถามเรื่องศาสนาจากผู้ที่ไม่มีความรู้  เเละท่านได้อธิบายถึงผลที่จะตามมาหากได้ทําสิ่งนั้น ความว่า :

  เเท้จริงเเล้วอัลลอฮฺจะไม่ทรงเรียกความรู้จากบ่าวคืน  เเต่พระองค์จะเรียกความรู้คืนโดยเอาชีวิตบรรดานักปราชญ์ผู้รอบรู้ทั้งหลาย  จนกระทั้งไม่มีพวกเขาเเม้เเต่คนเดียว  ถึงเวลานั้นเเล้วพวกมนุษย์จะตามคนใหญ่คนโตที่โง่เขลา    พวกเขาจะสอบถามผู้คนเหล่านั้น   ผู้คนเหล่านั้นจะตอบโดยไม่มีความรู้ที่เเท้จริง   ทําให้พวกเขาหลงทาง เเละชักชวนคนอื่นให้หลงทางตามไปด้วย

(เศาะฮีฮฺ บุคอรีย์ 1/50  เลขที่100)

ในอิสลามไม่มีคําว่ายุ่งยาก  สร้างความสับสนในการศรัทธาของเรา   เเละเราไม่จําเป็นต้องสอบถามเกี่ยวกับเรื่องต่างๆ ซึ่งสมองมนุษย์ไม่สามารถที่จะให้คำตอบนั้นได้  เพราะมันคือสิ่งเร้นลับที่อัลลอฮฺไม่ทรงอธิบายให้เรารับรู้   เนื่องจากมนุษย์ไม่ได้รับสาระอันใดจากการรับรู้ถึงสิ่งเหล่านั้น   เเต่หากสิ่งเร้นลับนั้นเป็นประโยชน์ต่อมนุษย์หากเขาได้รับรู้  อัลลอฮฺจะอธิบายสิ่งเหล่านั้นทันทีโดยผ่านวาจาท่านศาสดามูฮัมหมัด    เเละเเน่นอนพวกเรามุสลิมต่างมีข้อสักถามหลายๆข้อที่ต้องการคําตอบ    ฉะนั้นอิสลามได้เตรียมคําตอบมาพร้อมอย่างชัดเจนเพื่อความสะดวกในการเข้าใจ   ตัวอย่างเช่น

สมมุติว่า   มนุษย์ได้ถามถึงความเป็นมาของเขาโดยเเท้จริง พวกเขาจะต้องได้รับคําตอบต่อไปนี้  ในโองการหนึ่งความว่า  :

และขอสาบานว่า แน่นอนเราได้สร้างมนุษย์มาจากธาตุแท้ของดิน  แล้วเราทำให้เขาเป็นเชื้ออสุจิ  อยู่ในที่พักอันมั่นคง (มดลูก)   คือให้ลูกหลานอาดัมเกิดจากเชื้ออสุจิที่มาจากกระดูกสันหลังของผู้ชาย   แล้วเราได้ทำให้เชื้ออสุจิกลายเป็นก้อนเลือด แล้วเราได้ทำให้ก้อนเลือดกลายเป็นก้อนเนื้อแล้วเราได้ทำให้ก้อนเนื้อกลายเป็นกระดูก แล้วเราหุ้มกระดูกนั้นด้วยเนื้อ แล้วเราได้เป่าวิญญาณให้เขากลายเป็นอีกรูปร่างหนึ่ง ดังนั้นอัลลอฮ์ทรงจำเริญยิ่ง ผู้ทรงเลิศแห่งปวงผู้สร้าง.( อัลมุอฺมินูน 12-14 )

  • ถ้ามนุษย์ถามถึงตำแหน่งและฐานะของพวกเขาในโลกนี้  แน่นอนคำตอบที่พวกเขาจะได้รับคือ  โองการของอัลลอฮฺเจ้าในโองการอัลลอฮฺ :

ความว่า : “และโดยแน่นอน เราได้ให้เกียรติแก่ลูกหลานของอาดัม และเราได้บรรทุกพวกเขาทั้งทางบกและทางทะเล และได้ให้ปัจจัยยังชีพที่ดีทั้งหลายแก่พวกเขา และเราได้ให้พวกเขาดีเด่นอย่างมีเกียรติเหนือกว่าผู้ที่เราได้ให้บังเกิดมาเป็นส่วนใหญ่”  

  • ถ้ามนุษย์ได้ถามถึงจุดยืนของพวกเขาต่อสรรพสิ่งที่อัลลอฮฺได้สร้างขึ้นมาในโลกนี้  พวกเขาจะได้คำตอบในโองการอัลลอฮฺความว่า :

 “อัลลอฮฺ คือผู้ทรงทำให้ทะเลเป็นประโยชน์สำหรับพวกเจ้า เพื่อให้เรือเดินสมุทรแล่นไปตามน่านน้ำโดยพระบัญชาของพระองค์ และเพื่อพวกเจ้าจะได้แสวงหาความโปรดปรานของพระองค์ และเพื่อพวกเจ้าจะได้ขอบท่านอัลลอฮฺ ตะอาลา ด้วยเดชานุภาพและเคล็ดลับของพระองค์ ทรงทำทะเลที่กว้างใหญ่ไพศาลให้สงบราบเรียบเป็นประโยชน์สำหรับพวกเจ้า ทั้งนี้เพื่อให้เรือเดินสมุทรได้แล่นไปในท้องทะเลโดยพระบัญชาของพระองค์ และเพื่อพวกเจ้าจะแสวงหาความโปรดปรานของอัลลอฮฺ เพื่อการค้าขาย การค้นคว้าหาทรัพยากรในท้องทะเล เช่น ไข่มุก และจับปลา และเพื่อที่พวกเจ้าจะได้ขอบท่านพระองค์ในสิ่งที่พระองค์ทรงประทานความโปรดปรานแก่พวกเจ้า”( อัลญาซียะฮฺ 12-13 )

  • ถ้ามนุษย์ได้ถามถึงเหตุผลที่พวกเขาถูกสร้างมา    แน่นอนพวกเขาจักต้องได้คำตอบในโองการอัลลอฮฺ    ความว่า :  

“และข้ามิได้สร้างญิน และมนุษย์เพื่ออื่นใด เว้นแต่เพื่อเคารพภักดีต่อข้า    ข้าไม่ต้องการปัจจัยยังชีพจากพวกเขา และข้าก็ไม่ต้องการให้พวกเขาให้อาหารแก่ข้า   แท้จริงอัลลอฮฺ คือผู้ประทานปัจจัยยังชีพอันมากหลาย ผู้ทรงพลัง ผู้ทรงมั่นคง”( อัลซาริยาต 56 -58 )

  • ถ้ามนุษย์ได้สอบถามถึงพระเจ้าผู้สร้างสรรพสิ่งในจักรวาลนี้   ซึ่งมวลการภักดีต้องมีแด่พระองค์เพียงพระองค์เดียว ไม่มีผู้ใดนอกเหนือพระองค์   แน่นอนพวกเขาจะได้คำตอบในโองการอัลลอฮฺ ความว่า :

 “จงกล่าวเถิด มุฮัมมัด พระองค์คืออัลลอฮฺผู้ทรงเอกะ  อัลลอฮฺนั้นทรงเป็นที่พึ่ง    พระองค์ไม่ประสูติ และไม่ทรงถูกประสูติ  และไม่มีผู้ใดเสมอเหมือนพระองค์”( อัลอิคลาส 1-4 )

หมายเลขบันทึก: 336155เขียนเมื่อ 13 กุมภาพันธ์ 2010 12:10 น. ()แก้ไขเมื่อ 12 กุมภาพันธ์ 2012 12:33 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

ไม่อนุญาตให้แสดงความเห็น
พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท