8-9 กพ 53 ไปประชุมเรื่องเกี่ยวกับการประเมินผลการปฏิบัติราชการแนวใหม่ของข้าราชการพลเรือน ภาพรวมก็ยุ่งยากพอควรในวิธีการ จนบางครั้งทำให้หลายคนรู้สึกไปในแง่ลบ ว่าจะทำการประเมินไปทำไม วันนี้ไม่ได้เอาเรื่องประเมินมาบอก แต่อยากมาชวนเราเปลี่ยนมุมมอง ถ้าใครกำลังมองเรื่องนี้ในแง่ลบ เพราะยังไงก็คงหนีไม่พ้นหรอก เปลี่ยนความคิดเราดีกว่า จะได้สบายใจ จะขอเสนอสักสองเรื่องเกี่ยวกับการเปลี่ยนมุมมองดังนี้
1. ถ้าใครกำลังมองว่า ยุ่งยากมาก ทำไปจะได้เงินเพิ่มสักกี่บาท คุ้มไหมกับมานั่งทำตัวชี้วัดเป็นวันๆหรือหลายวัน อันนี้ก็จริงเรื่องเงินอาจเพิ่มไม่มากเพราะยังไงวงเงินรวมก็ถูกกำหนดให้เพิ่มแค่ 6 % ต่อปี แต่แง่ดีก็คือว่า มันเป็นการประเมินที่ค่อนข้างเป็นรูปธรรมมาก ถ้าทำได้ถูกต้องมันจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานมาก เราจะได้ทบทวนตัวเองถึงหน้าที่ ความสำคัญของงาน และจุดที่เราจะพัฒนาได้ชัดเจน ถ้าทำงานได้ดีขึ้นแต่เงินไม่เพิ่มก็ถือว่าทำบุญละกัน
2. แต่ถ้าใครมีความเครียดเรื่องว่าผลงานตัวเองจะไม่ดีแล้วจะทำให้เงินตัวเองลดลงไปมาก แล้วจะเอาอะไรกิน ก็ลองทำใจสบายๆแล้วพยายามทำงานเต็มความสามารถละกัน เพราะผลที่ออกมาเป็นไง เงินก็คงไม่เปลี่ยนแปลงจากเดิมมากนัก เพราะเงินมันน้อย!!!!! จะได้สบายใจครับ
Boss
สรุปว่าต้องทำใจเพราะเป็นสิ่งที่ต้องทำใช่ไหมค่ะ/arom
ช่างมันเต๊อะ!!! อย่างที่เคยบอกในบล็อกที่แล้ว ย้ำ...พวกเราไม่ต้องกังวลไป ปล่อยให้เป็นหน้าที่ของผู้ประเมิน และผู้มีอำนาจท่าน พวกเรามีหน้าที่แค่ตั้งใจทำงานให้มีคุณภาพกันดีกว่า /By Jan
นอกจากต้องทำใจแล้ว สงสัยงานนี้ต้องได้บุญเยอะแน่ๆเลย /jang
ทำงานดีขึ้นแต่เงินไม่เพิ่มแล้วจะเอาแรงที่ไหนทำบุญต่อได้อีกล่ะคะ ต้องให้สมนำสมเนื้อหน่อยแล้วกัน
เห็นด้วยกับทุกความเห็น เวลาทำก็นเหมือนจะทำไปซะทุกอย่างพอจะประเมินจริงๆ เหมือนไม่รู้จะเอาอะไรมาประเมิน บุญหล่นทับจริงๆ.....
สาธุ ชาติหน้าขอให้เกิดเป็นนางฟ้า เพราะทำบุญไว้เยอะ
ทำงานทุกวันนี้ทุกคนได้บุญเท่ากันค่ะเพราะไม่มีใครทำให้ผู้รับบริการหายป่วยได้เหมือนพวกเรา
ทำครั้งแรกอาจงง งง แต่ครั้งต่อๆไปก็จะเข้าใจมากขึ้นและไม่ยุ่งยากนะครับ
อนุเทพ
บางครั้งเราคิดว่าเราทำดีแล้ว ทำงานมากแล้ว แต่พูดไม่เก่ง แต่คิดอีกทีแค่ทำหน้าที่ตัวเองให้ดีที่สุดก็พอแล้ว จริงมั๊ย ขอแค่อย่ามา
กดดันกันมากก้อพอ