ธรรมหรรษา
รศ.ดร. พระมหา หรรษา นิธิบุณยากร

การประุชุมคณะทำงานประกันคุณภาพการศึกษา ทอมก ครั้งที่ ๑/๒๕๕๓ ณ ม.เชียงใหม่


บรรยายกาศ
การประชุมคณะทำงานประกันคุณภาพาการศึกษา ทมอก ครั้งที่ ๑
วันจันทร์ที่ ๘ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๓
เวลา ๐๙.๐๐ - ๑๖.๓๐ น.
ณ ห้องพระยาศรีวิสารวาจา  อาคารสำนักงานมหาวิทยาลัย มหาวิทยาลัยเชียงใหม่

 

รองศาสตราจารย์ อุษณีย์ คำประกอบ
ผู้อำนวยการสำนักพัฒนาคุณภาพการศึกษา
นำเสนอภาพรวมของการประกันคุณภาพการศึกษาของ ม.เชียงใหม่

คณะทำงานประกันคุณภาพการศึกษา ทอมก. จากมหาวิทยาลัยต่างๆ เช่น จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย มหาจุฬาฯ มหามกุฏฯ เทคโนโลยีสุรนารีฯ เทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือ เจ้าคุณทหารลาดกระบัง และพระจอมเกล้าธนบุรีรวมรับฟังอย่างตั้งใจ


ทีมงานประกันคุณภาพการศึกษาจากจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยซักถามประเด็นเรื่องบุคลากรและงบประมาณในการดำเนินการด้านการประกันคุณภาพของ ม.เชียงใหม่

คณะทำงานจากมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย
ประกอบด้วย พระครูพิพิธสุตาทร,ดร. รองอธิการบดีวิทยาเขตเชียงใหม่
พระมหาหรรษา ธมฺมหาโส,ผศ.ดร, ผู้ช่วยอธิการบดีฝ่ายวิชาการ,
พระมหาสุทัศน์ ติสฺสรวาที รักษาการผู้อำนวยการกองวิชาการ,
นางไฉไลฤดี ยุวนะศิริ ผู้อำนวยการสำนักงานวิทยาเขตเชียงใหม่,
และ นายสนธิญาณ รักษาภักดี หัวหน้าฝ่ายมาตรฐานและคุณภาพการศึกษา

ผศ.ดร.อัจฉราพันธ์ รองคณบดีคณะพยาบาลศาสตร์ ม.เชียงใหม่
นำเสนอความสำเร็จในการนำระบบ QA ไปใช้ในการบริหารคณะด้วยรอยยิ้มที่ิพิมพ์ใจและจับใจผู้ฟัง

ถัดจากนั้น รศ.นพ.วัฒนา นาวาเจริญ ผอ.โรงพยาบาลมหาราชนครเชียงใหม่ ได้ร่วมนำเสนอหลักการและแนวทางในการบริหารโรงพยาบาลว่าทำอย่างไรจึงจะสามารถตอบสนองความต้องการของผู้ป่วยหรือประชาชนทั่วไปได้


ถ่ายรูปร่วมกับผู้บริหารและเจ้าหน้าที่ด้านประกันคุณภาพจากมหามกุฏราชวิทยาลัย

ระเบียบวาระการประชุม

๑. เรื่องแจ้งเพื่อทราบ

๑.๑ ผลการสัมมนาเรื่อง การพัฒนาคุณภาพเื่พื่อความเป็นเลิศ
๑.๒ ประสบการณ์สร้างเครือข่ายกับมหาวิทยาลัยชั้นนำของเอเซีย
๑.๓ การบริหารความเสี่ยง และความเกี่ยวข้องกับการประกันคุณภาพการศึกษา

๒. เรื่องรับรองรายงานการประชุมครั้งที่ ๓/๒๕๕๒

๓. เรื่องสืบเนื่อง

๓.๑ การเขียนบทความเพื่อเผยแพร่ต่อสาธารณาชน

๔. เรื่องเสนอเพื่อพิจารณา

๔.๑ ปฏิทินการประชุมของคณะทำงานประกันคุณภาพการศึกษา ทอมก. พ.ศ.๒๕๕๓
๔.๒ การจัดทำแผนยุทธศาสตร์ แผนกลยุทธ์ และแผนปฏิบัติการของคณะทำงานประกันคุณภาพการศึกษา
๔.๓ การจัดทำวารสารเพื่อเผยแพร่ข้อมูลข่าวสาร และกิจกรรมต่างๆ

๕. เรื่องอื่นๆ

๕.๑ การเืลือกกลุ่มสถาบันเพื่อรับการประเมินภายนอก รอบสามของมหาวิทยาลัยในกำกับของรัฐ
๕.๒ ร่างตัวบ่งชี้ เกณฑ์มาตรฐาน และเกณฑ์การประเมินคุณภาพการศึกษาภายในของ สกอ.

ผลจากการประชุม (เท่าที่จำได้)

เวลา ๐๙.๐๐ - ๑๒.๐๐ น. ณ ห้องพระยาศรีวิสารวาจา 

     คณะทำงานด้านการประกันคุณภาพของที่ประชุมอธิการบดีมหาวิทยาลัยในกำกับของรัฐ (ทอมก.)  ประกอบไปด้วย 

  1. จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
  2. มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย
  3.  มหาวิทยาลัยมหามกุฏราชวิทยาลัย
  4.  มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี
  5.  มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือ  
  6.  มหาวิทยาลัยเจ้าคุณทหารลาดกระบัง   
  7.  มหาวิทยาลัยพระจอมเกล้าธนบุรี 
  8.  มหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์ 
  9.  มหาวิทยาลัยทักษิณ 
  10.  มหาวิทยาลัยมหิดล 
  11. มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ในฐานะเจ้าภาพ

     ได้ร่วมรับฟังบทเรียนความสำเร็จด้านการประกันคุณภาพจากรองศาสตราจารย์ อุษณีย์ คำประกอบ  ผู้อำนวยการสำนักพัฒนาคุณภาพการศึกษา ผศ.ดร.อัจฉราพันธ์ รองคณบดีคณะพยาบาลศาสตร์ และรศ. นพ.วัฒนา นาวาเจริญ ผอ.โรงพยาบาลมหาราชนครเชียงใหม่  มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ซึ่งได้ชี้ให้เห็นว่า "การประกันคุณภาพ" นั้น มีคุณค่าและความสำคัญต่อการบริหาร หรือเป็นเครื่องในการบริหารให้มีประสิทธิภาพได้อย่างไร  โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การพัฒนาประสิทธิภาพในการทำงานของคณาจารย์ ผู้บริหารและผู้รับบริการจากการจัดการศึกษา

     ประเด็นสำคัญที่พบคือ งานด้านการประกันคุณภาพเป็นระบบที่เอื้อต่อการปรับระบบในการทำงาน การเปิดโอกาสให้นำเทคโนโลยีมาใช้ในการบริหารจัดการมหาิวิทยาลัย จนนำไปสู่การพัฒนาคุณภาพของมหาิวิทยาลัยอย่างต่อเนื่อง  อย่างไรก็ดี  ปัญหาที่พบก็คือ ตัวบ่งชี้ของ สมศ. หรือ สกอ. ที่ยังไม่นิ่งนั้น อาจจะทำให้เกิดข้อกังวลต่อการทำงานในด้านการประกันคุณภาพของมหาวิทยาลัยต่างๆ

     สรุปในช่วงเช้า จะเป็นการรับฟังการบรรยาย Best Practice ด้านการประกันคุณภาพของมหาวิทยาลัยเชียงใหม่  เป็นด้านหลัก และมีการเปิดพื้นที่ให้แลกเปลี่ยนกัน  ซึ่งประเด็นที่มีการซักถามจากมหาจุฬาฯ และจุฬาฯ คือ บุคลากรและงบประมาณที่เข้ามาสนับสนุนการทำงานด้านการประกันมีมากน้อยเพียงใด และได้มีการนำระบบ KM มาประยุกต์ในการทำงานมากน้อยเพียงใด ได้ผลหรือไม่อย่างไร

เวลา ๑๓.๐๐ - ๑๕.๓๐ น. ณ ห้องพระยาศรีวิสารวาจา 

     อาจารย์จากมหาิวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี  ได้เป็นประธานในการประชุม ซึ่งทำให้พบประเด็นที่น่าสนใจจากการประชุม ดังนี้

    ๑. การเขียนบทความด้านการประกันคุณภาพการศึกษา   ประเด็นนี้เป็นข้อเสนอจากมหามกุฎฯ ตั้งแต่การประชุมที่จุฬาลงกรณ์มหาิวิทยาลัย ที่ต้องการจะให้คณะทำงานด้านการประก้ันของ ทอมก. ได้นำเสนอปัญหา และอุปสรรค รวมไปถึงการทำงานของทำงานต่อผู้สนใจทั่วไป โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การนำเสนอบทความนี้ในที่ประชุมทางวิชาการทั้งในระดับประเทศ และต่างประเทศ 

    มิติที่ประชุม ได้เห็นพ้องต้องกันว่าควรจะนำเสนอประเด็นเกี่ยววกับบทบาทของการประกันคุณภาพต่อการพัฒนามหาวิทยาลัยสู่ความเป็นเลิศ และภาพรวมของการประกันคุณภาพการศึกษาของคณะทำงานที่มีผลกระทบต่อสังคม และการบริหารมหาวิทยาลัย

   ๒. การจัดทำแผนยุทธศาสตร์ แผนกลยุทธ์ และแผนปฏิบัติการของคณะทำงานประกันคุณภาพการศึกษา  ซึ่งประเด็นนี้ แม้จะเป็นประเด็นที่น่าสนใจ และสมควรที่คณะทำงานควรจะกำหนดเป็นกรอบในการดำเนินการในกลุ่มประกันคุณภาพ  แต่ถึงกระนั้น ที่ประชุมก็กังวลว่า เป็นประเด็นที่ค่อนจะใหญ่มาก และต้องใช้ระยะในการดำเนินการในระยะยาว 

   ๓. การจัดทำวารสารเพื่อเผยแพร่ข้อมูลข่าวสาร และกิจกรรมต่างๆ  ที่ประชุมกังวลว่า แม้ว่าคณะทำงานจะทำงานอย่างหนัก  โดยเฉพาะในหลายๆ มหาวิทยาลัยที่ประสบความสำเร็จในด้านการประกันคุณภาพ เช่น มหิดล จุฬาฯ และมธส. สมควรอย่างยิ่งที่จะถอดบทเรียนเหล่านี้ ออกไปเผยแผ่ให้สาธารณชนได้รับทราบถึงรูปแบบและแนวทางในการทำงาน  ซึ่งจะมีผลต่อการพัฒนาระบบประกันในโอกาสต่อไป

   ถึงกระนั้น ที่ประชุมได้เห็นพ้องต้องกันว่า ควรจะนำเสนอแนวทางเพื่อให้ที่ประชุมใหญ่ของ ทอมก. ได้พิจารณาอนุมัติให้ดำเนินการ เช่น อาจจะเป็นเอกสาร หรือสิ่งพิมพ์ที่ใช้แจกในวาระสำคัญต่อไป

   ๔. การเืลือกกลุ่มสถาบันเพื่อรับการประเมินภายนอกรอบสามของมหาวิทยาลัยในกำกับของรัฐ  ประเด็นนี้มีการถกเถียงกันมาก เพราะแต่ละมหาวิทยาลัย ยังไม่ตัดสินใจว่าจะเลือกกลุ่มใด หรืออยู่ในกลุ่มใดกลุ่มหนึ่งที่มีการกำหนดกรอบโดยสมศ. ที่จะเข้ามาประก้ันในปี ๕๓ 

ข้อสังเกตต่อการประชุมคณะทำงานด้านการประกันคุณภาพ

   ๑. ควรจะมีการจับคู่ในลักษณะพี่ดูแลน้อง หรือเพื่อนช่วยเพื่อนในระหว่างมหาวิทยาลัยในกำกับของรัฐด้วยกัน เพื่อให้ช่วยเหลือกันในประเด็นการประกันคุณภาพ เช่น จุฬาโลก ช่วยมหาจุฬาธรรม (ทั้งสองมหาิวิทยาลัยมีความสัมพันธ์กันด้านประวัติศาสตร์ และบุคคล เพราะผู้ที่ก่อตั้ง และพระราชทานนามมหาวิทยาลัยทั้งสองคือรัชกาลที่ ๕) มหิดลช่วยเหลือมหามกุฏฯ (อยู่ในพื้นที่ศาลายาเหมือนกันและใกล้กันมากในเชิงภูมิศาสตร์) เพราะทั้งสองมหาวิทยาลัยได้คะแนนสูงมากในการประเมินของสมศ.ในรอบที่ผ่านมา ประเด็นคือ ทั้งสองมหาิวิทยาลัยจะเข้าไปช่วยเหลือในด้านของ Know how อย่างไร มีเครื่องมือ ทรัพยากรอะไรที่จะช่วยกันพัฒนามหาวิทยาลัยสงฆ์ทั้งสองแห่งได้บ้าง

   ๒. ควรจัดลำดับความสำคัญของปัญหา หรือเรื่องที่จะทำว่า คณะทำงานด้านการประกันคุณภาพทั้ง ๑๓ แห่งจะทำอะไรก่อน หรือหลัง เรื่องใดที่ไม่จำเป็นก็ไม่ควรจะไปเร่งเช่น วารสาร หรือบทความทางวิชาการ แต่สิ่งที่ควรทำอย่างเร่งด่วน คือร่างตัวบ่งชี้ว่าควรจะทำอย่างไร มีลักษณะอย่างไร   รวมไปถึงการเลือกกลุ่มสถาบัน ควรมีการพบปะพูดคุุยและแบกเปลี่ยนกัน แบ่งปันข้อมูลระหว่างกัน ว่าควรจะมีแนวทางอย่างไร มีเทคนิค และวิธีการเลือกอย่างไร   ประเด็นคือ มีการนำเรื่องนี้ไปอยู่ในวาระอื่นๆ แทนที่จะนำไปไว้ในวาระเสนอเพื่อพิจารณาเร่งด่วน  และในขณะเดียวกัน มีเวลาน้อยมากที่จะพูดทั้งสองเรื่องดังกล่าว จึงทำให้พลาดโอกาสดีในการจะได้หาทางออกร่วมกัน

   ๓. ควรจัดกลุ่มทำงาน โดยแยกออกเป็นกลุ่มงานต่างๆ เพื่อให้แต่ละกลุ่มไปทำงาน และหาทางออกร่วมกันและนำมาเสนอในการประุชุมเดือนพฤษภาคม  เช่น กลุ่มจัดทำร่างตัวบ่งชี้ กลุ่มการหาแนวทางเพื่อเลือกสถาบัน กลุ่มการเขียนบทความ กลุ่มกลุ่จัดทำวารสาร และกลุ่มจัดทำยุทธศาสตร์

   ๔. ควรนำ KM ไปเป็นเครื่องมือสำคัญในการดำเนินการประกันคุณภาพการศึกษา จากการสังเกตจะพบว่า แม้ว่า KM จะเป็นหนึ่งในตัวบ่งชี้ของการประกันคุณภาพการศึกษา แต่ถึงกระนั้น มหาวิทยาลัยบางแห่งในประเทศไทย (เท่าที่ค้นหาในอินเตอร์เน็ตของมหาิวิทยาลัยอื่น) กลับมีท่าทีต่อ "KM" แต่เพียงพิธีการเท่านั้น คือ "มีเื่พื่อให้รู้ว่ามี KM" หรือ "มีเพื่อจะได้บอกคนอื่นว่าเรามี KM" หรือ "มีเพื่อให้ได้คะแนนหรือแต้มในการทำ KM"  นับเป็นเรื่องที่น่าเสียดายมหาวิทยาลัยบางแห่งที่ดังมากในเรื่องการบริหาร (ไม่ใช่ ๑๓ แห่งของ ทอมก.) เมื่อคลิกไปดูการทำ KM กลับพบว่า เนื้อในขาดวัฒนธรรมของ KM   แต่กล่าวมาทั้งหมดไม่ได้หมายความว่า KM คือทั้งหมดของการทำ QA แต่ทั้งคู่มีความสัมพันธ์กันอย่างแยกไม่ออก

    เป็นที่น่าอนุโมทนาเหลือเกิน ที่ประชุมได้พูดถึงมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ เพราะมหาวิทยาลัยแห่งนี้ได้นำเทคโนโลยีมาใช้ในการบริหารงานและมีเป็นมหาวิทยาลัยในอันดับต้นๆ ในเมืองไทยที่ขึ้นเรื่องการเปิดพื้นที่ทางเทคโนโลยีมาใช้ในการบริหารจัดการมากที่สุด ซึ่งผู้เขียนเองได้บอกในที่ประชุมว่า "ระบบการจัดการความรู้ของ Gotoknow" ถือเป็นปฏิมากรรมชิ้นเอกที่มอ. หรือสงขลานครินทร์ได้ดำเนินการ   

   หวังใจเหลือเกินว่า มหาวิทยาลัยต่างๆ จะตระหนักรู้ และมองเห็นคุณค่าและความสำคัญในการใช้พื้นที่ "Blog" ในการแบ่งปันข้อมูลระหว่างกัน แ่บ่งปันเรื่องราวดีๆ หรือประสบการณ์ดีๆ ที่แต่ละท่านพบมาแลกเปลี่ยนกัน  โดยเฉพาะอย่ิางยิ่ง "การประกันคุณภาพที่เรากำลังเผชิญอยู่ในขณะนี้" 

   มิฉะนั้นแล้ว เราก็ยังคงหลอกตัวเองอยู่ตลอดเวลาว่า "เรามี KM เีพียงเพื่อให้มี" แต่เมื่อถามว่า มีประโยชน์อย่างไร หรือใช้อย่างไร

     "เราก็จะหันมาตอบตัวเอง หรือกลุ่มตัวเองว่า 'เออ... เราใช้ประโยชน์เพื่อให้เราได้แต้มจากการประกันคุณภาพการศึกษางัย!!!!!" 

คำสำคัญ (Tags): #kmcu#mcu#qa#mcukm
หมายเลขบันทึก: 334692เขียนเมื่อ 8 กุมภาพันธ์ 2010 09:47 น. ()แก้ไขเมื่อ 6 กันยายน 2013 22:22 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (10)

นมัสการครับ

   *    เข้ามาติดตามการประชุมวิชาการระดับมหาวิทยาลัย   บรรยากาศเข้มข้นเอาจริงเอาจังมากเลยครับ

  *   ผมมีข้อมูลบางส่วนมาเล่าให้ฟังครับ   ผมไปฟังอาจารย์มหาวิทยาลัยท่านหนึ่ง ท่านเล่าให้ฟังถึงเรื่องการจัดทำหลักสูตรมหาวิทยาลัย  ท่านเล่าให้ฟังว่า  จากการเปรียบเทียบมหาวิทยาลัยของไทย กับ มหาวิทยาลัยของต่างประเทศ

*  มหาวิทยาลัยต่างประเทศ   เขาเขียนวิสัยทัศน์ในสิ่งที่มหาวิทยาลัยทำได้ และ ไปถึง  แต่มหาวิทยาลัยของไทย  มักจะเขียนวิสัยทัศน์ในสิ่งที่มำไม่ได้ และ ไปไม่ถึง

 *   ครับ ก็เป็นเพียงความคิดเห็นจาก อาจารย์มหาวิทยาลัยท่านหนึ่ง เท่านั้นครับ   ไม่ได้เป็นข้อมูลหรืองานวิจัยใดๆ  มหาวิทยาลัยไทยอาจไม่เป็นแบบนั้นก็ได้   เอาเป็นว่านำมาแลกเปลี่ยนเรียนรู้ครับ

ท่านรองฯ

* ขอบคุณมากที่แวะเข้ามาชมบรรยากาศและแบ่งปันแงุ่มุมการพัฒนามหาวิทยาลัย

* Vision หมายถึง วิสั้น ไม่ได้หมายถึงวิสัยทัศน์น่ะ จึงทำให้มหาลัยไทยไปไม่ถึงตามที่บางท่านคาดหวัง

* อย่างไรก็ดี ในฐานะที่เป็นมหาวิทยาลัยในกำกับของรัฐ พวกเราจะพยายามเต็มที่เพื่อจัดการศึกษาเพื่อสนองตอบต่อเด็กไทยให้เพียบพร้อม ไปด้วยความรู้คู่คุณธรรม

* ตอนที่อาตมาพิมพ์อยู่นี่ เรากำลังพูดถึง TQF : Thai Qualifications Framework for Higher Education กำลังสนุกเลย

* พร้อม กันนี้ได้คุยถึงเรื่องของ KM และ RM ว่าเราควรจะปรับรูปแบบการทำงานอย่างไร ให้สอดรับกับความเป็นจริง และปฏิับัติได้

ตามตัวบ่งชี้ของมหาวิทยาลัย

นมัสการพระคุณเจ้า

  • ตอนสุดท้ายของเป้าหมายงดงามเจ้าค่ะ  คือการสินความเป็นมนุษย์ด้วยหลักการของความจริง ความดี ความงามอันเป็นการดูแลด้วยหัวใจ 
  • วันนี้มีผู้ใหญ่ใจดีท่านหนึ่ง  ติดต่อไปทางโทรศัพท์แจ้งให้ทราบว่าท่านได้ขอหมายเลขมือถือจากโรงเรียนของครูคิม
  • ผู้ใหญ่ใจดีท่านนี้ได้ติดตามการทำงานของพวกเรา "คณะจิตอาสา" และแจ้งความประสงค์จะเข้ามาร่วมมือด้วย  โดยมีพลังของท่านอีก ๑ กลุ่ม
  • ตกลงกันว่าจะมาร่วมกิจกรรมในการจัดค่ายฯ ครั้งต่อไปที่โรงเรียน "บ้านถ้ำพริก" สพท.พิษณุโลก เขต ๓
  • กลุ่มของท่านจะนำสิ่งของที่นักเรียนขาดแคลนและทุนการศึกษามามอบให้นักเรียน  เพื่อเป็นกำลังใจและสนับสนุนการทำงานเพื่อจิตอาสาของพวกเรา
  • พี่ครุคิมจึงอยากจะขอบคุณพื้นที่ GotoKnow เป็นอย่างสูง ที่ให้โอกาสเรียนรู้การแบ่งปันและการสร้างสัมพันธภาพอันดี

นมัสการครับ

เพื่อเป็นการพัฒนาที่ดีของมหาวิทยาลัย ขอเป็นกำลังใจให้ทีมงานมหาจุฬาลงกรณทุกท่านที่เสียสละเพื่อหน่วยงานของเรา ให้พัฒนาก้าวหน้าต่อไป

ครูคิม

  • ธรรมะ ย่อมรักษาผู้ประพฤติธรรม
  • ทำดี อย่างไรก็ต้องดีในบั้นปลาย
  • เจริญพร

ดร.ฤทธิชัย

  • อนุโมทนาขอบคุณอาจารย์ที่เห็นความสำคัญของการพัฒนามหาวิทยาลัย
  • เจริญพรตามตรงว่า มหาิวิทยาลัยของเราในปัจจุบันอาตมาไม่ห่วงเรื่องของ Hardware แต่ที่อาตมาห่วงมากเมื่อมองไปในหลายกลุ่มงานจะพบว่า เราต้อง Empowerment peopleware ให้มากกว่าที่เป็นอยู่ในขณะปัจจุบัน
  • เรามีอาจารย์สายศาสนาและปรัชญาเยอะมาก แต่ที่ต้องเพิ่มให้มากๆ สายบริหาร
  • เจริญพร
  • นมัสการพระคุณเจ้าธรรมหรรษาครับ
  • มาขอเรียนรู้การประชุมเกี่ยวกับงานประกันคุณภาพการศึกษาในระดับมหาวิทยาลัยด้วยครับ..
  • พร้อมขอบพระคุณที่ไปเยี่ยมชมและร่วมแสดงความเห็นครับ

อาจารย์ธนิตย์

  • ขออนุโมทนาขอบคุณมากที่กรุณาแวะมาเยี่ยมเยียน
  • อาตมาเพิ่งเดินทางกลับมาถึงกรุงเทพฯ
  • ได้แนวคิดอะไรดีๆ จากการประชุมเพื่อเอามาสานต่อ
  • เจริญพร

นมัสการครับพระอาจารย์

แวะมาเยี่ยมครับ

ได้กำไรครับ ได้พบ อ.ช่วย ด้วย

โยมหนานเกียรติ

  • รองเชียงใหม่, อ.บุญช่วยเป็นบุคลากรที่ทรงคุณค่า และเป็นพระรุ่นใหม่ที่ทำงานรับใช้พระพุทธศาสนาอย่างหนัก
  • แวะไปเชียงใหม่เมื่อใด ก็ได้พบท่านเมื่อนั้น
  • แต่อาตมายังหาโอกาสพบโยมหนานเกียรติอยู่น่ะ
  • เจริญพร
พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท