วิปัสสนานุบาล


คู่มือชั้นอนุบาล เตรียมสานถึงปริญญา สาขาเห็นโลกตามจริง เพื่อทิ้งนิสัยหวงทุกข์เสียที

วิปัสสนานุบาล ของ  ดังตฤณ

    วิปัสสนานุบาล เป็นคำสนธิระหว่าง วิปัสสนา กับ อนุบาล หมายความว่าเนื้อหามุ่งกลุ่มผู้เริ่มสนใจการปฏิบัติธรรมภาวนา อาจจะยังไม่เคยรู้อะไรเลย หรือเคยได้ยินคำว่าวิปัสสนามาบ้าง แต่ยังไม่กระจ่างแจ้งนักว่าคืออะไร  ต้องเริ่มทำอย่างไร

   หน้าที่ของหนังสือเล่มนี้ 

 คือนำคุณออกมาจากจุดเริ่มต้นด้วยเวลาน้อยที่สุด หรือถ้าเริ่มต้นมาบ้างแล้วแต่สับสน ก็ปรับมุมมองของมือใหม่ ให้เห็นวิปัสสนาต่างไปจากที่ส่วนใหญ่คิดๆกัน คือเปลี่ยนเรื่องของใกลตัวเป็นเรื่องในตัว  เปลี่ยนยากเป็นง่าย เปลี่ยนเครียดเป็นสบาย  เปลี่ยนภาระเป็นของเล่น  เปลี่ยนสงสัยเป็นเข้าใจ และเปลี่ยนซับซ้อนเป็นเรียบง่าย

 แม้หน้าที่ของหนังสือจะเป็นไปดังกล่าวข้างต้น ก็ขอทำความเข้าใจไว้ตรงนี้ ว่า

หนังสือเองไม่มีความสามารถทำให้ผู้อ่านเป็นนักวิปัสสนาขึ้นมาได้แต่ขอรับรองว่าถ้าเข้าใจ วิปัสสนา จริงๆละก็ แม้ไม่หวังก็จะรู้จักความสงบที่น่าอัศจรรย์  แม้ไม่หิวกระหายก็จะรู้รสแห่งศานติอันประหลาดล้ำ

  เพียงสงบได้ท่ามกลางความวุ่นวายและเครื่องเร้าให้เร่าร้อน ก็นับเป็นการเปลี่ยนแปลงที่สำคัญของชีวิตแล้วมิใช่หรือ

 

                                 คัดบางส่วนจากคำนำดังตฤณ

 ถึงผู้อ่านจาก  ใจใสใส

  ทำไมถึงเลือกหนังสือเล่มนี้ให้คุณ 

 เพราะในสภาพสังคม  ระบบนิเวศและรูปแบบความเป็นอยู่ของเราทุกคน ทำให้หลายคนเกิดความเครียดสะสม โดยรู้ตัวหรือไม่รู้ตัวก็ได้ ดังนั้น จิตใจของเราก็อาจจะสะสมความทุกข์  กับหลายๆเรื่องราวในชีวิตไว้โดยไม่จำเป็น

เราต้องฝึกที่จะ  ตัดทุกข์ออกจากจิต  และไม่สะสม ทุกข์ มองทุกข์ให้เป็น หลายๆคนเลือกวิธีแก้ปัญหาในทางที่ไม่ถูกต้อง  เช่นการตัดปัญหาโดยวิธีผิดๆ  คิดสั้น  ฆ่าตัวตาย ใช้ชีวิตให้เลวร้ายกว่าเดิม เบียดเบียนทั้งตนเอง  พ่อแม่  ผู้คนที่รายล้อม  ทำให้ชีวิตเสียเวลาโดยไร้ค่า เปล่าประโยชน์

 บางคนวิ่งหาความรักความเข้าใจ  ไล่ล่าความสุขที่ไม่เคยสุขแท้จริง อยู่ตลอดเวลา  บางคนทำงานจนหัวปั่นเพื่อให้ลืมทุกข์ โดยไม่ใส่ใจต่อสุขภาพและคนที่รักเรามากที่สุด  บางคนซื้อความสุขโดยคิดว่าวัตถุ จะช่วยบรรเทาความทุกข์ที่มีอยู่

ในใจตนเองได้ หารู้ไม่ว่าวัตถุบางอย่างให้แค่ความสะดวก สบาย ได้หน้า แถมยิ่งมีมากยิ่งทุกข์มากเป็นเงาตามตัว สลัดอย่างไรก็ไม่เคยหลุด สักที

 ในหนังสือจะบอกรายละเอียดแบบสอนเด็กอนุบาลให้เริ่มต้นเขียน กอไก่ เป็นนั่นแหละ  เหมือนสาขาวิชา เห็นโลกตามจริง เพื่อทิ้งนิสัยหวงทุกข์

 

โดยการ วิปัสสนา นั่นเอง  ใจใสใส

บทที่ ๑  วิปัสสนาคืออะไร

  วิปัสสนา คือ เห็นตามจริง 

จุดหมายของวิปัสสนา คือ เห็นตามจริงเพื่อเป็นอิสระจากอุปาทานลวงใจทั้งปวงเป็นไทแก่ตัวไม่ถูกครอบงำด้วยอำนาจมืดของความหลงผิด เราจะไม่ตระหนักว่าอันตรายจากการหลงผิดมีมากปานใด จนกว่าจะต้องทุรนทุรายทุกข์ทรมาน

กับผลลัพธ์บางอย่างที่สร้างขึ้นมาเอง  จะดีกว่าไหมถ้าเราสามารถไปถึงความจริงของชีวิต เช่น เราไม่ต้องรบกันเพราะความเชื่อ หรือ เราไม่ต้องทุกข์เพราะความคิดก็ได้

  ทีนี้มาถึงคำถามสำคัญ ว่า การเห็นตามจริงนั้น จะเอาอะไรเป็นเป้าหมายในการเห็น

 คำตอบสำหรับผู้ใคร่คิดทำวิปัสสนาที่บ้าน เป้าหมายของการดูให้เห็น ตามจริงคือทุกสิ่งที่เราหลงไปยึดมั่นถือมั่นโดยไม่จำเป็น แต่กลับทำร้ายเราได้ราวกับศัตรู

  เคยไหมที่เราเสียท่าให้ใครโกงเงินไม่กี่บาทแต่ต้องเก็บมาคิด หนักไม่เลิก

เรียกว่าถูกคนอื่นโกงเงินไม่พอ ยังโดนความคิดของตัวเองปล้นความสุขไปอีก

  เคยไหมที่ตกลงเลิกรักเลิกเป็นแฟนกันแล้ว  แต่อุตส่าห์ คิดหึงหวงคนรักเก่า

คิดถึงอดีตด้วยความเสียดาย คิดพะวงไปว่าเขาจะมีความสุขกับใครอื่นอย่างไร บ้าง

คำถามข้างต้น เป็นเพียงตัวอย่าง  ที่อาจแสดงให้ตระหนัก ว่าคนเรายึดมั่นกับเรื่องไม่เป็นเรื่อง จนทุกข์หนักได้อย่างเหลือเชื่อเพียงไร แต่ความจริงอันน่าตระหนกก็คือแต่ละวันเรา อาจยึดมั่นสิ่งที่ไม่จำเป็นไว้ถึง ๙ เรื่องจากทั้งหมด

 ๑๐ เรื่อง

บางครั้งบางคราวคุณอาจยอมรับกับตนเอง หรือบ่นกับใครๆ ว่าโง่เหลือเกินที่ย้ำคิดย้ำกลุ้ม กับเรื่องเหลวไหลไร้สาระ   เรื่องขี้ปะติ๋ว แต่รู้ทั้งรู้ว่าโง่ ก็หยุดคิดไม่ได้  เอามันไม่อยู่ กู่สติไม่กลับ

  ขอเพียงรู้จักวิปัสสนาอย่างแท้จริง การรู้จักนิยามวิปัสสนาอย่างแท้จริงคือก้าวแรก

และก้าวแรก ก็คือ การยอมรับความจริงผ่านการใคร่ครวญ ด้วยความคิดธรรมดาๆ  ว่าสิ่งใดควบคุมให้เป็นไปตามปารถนาไม่ได้ สิ่งนั้นย่อมไม่ชื่อว่าเป็นของเรา  ยกตัวอย่างเช่น เมื่อยอมรับว่าความคิดไม่ใช่ของเรา เราจะรู้สึกตัว

เหมือนถอนออกจากทุกข์ร้อนเพราะความคิดกว่าครึ่ง และส่งผลให้ความคิดอ่อนกำลังลงทันที

  เหมือนเส้นผมบังภูเขา เหมือนเรื่องน่าขบขันที่พวกเราอ่านไม่ออก ตามเกมไม่ทัน  พอตามไม่ทันก็กลายเป็นเหยื่ออันโอชะของโลกนี้

ผู้คนทั้งหลายหายใจเข้าออกเพื่อรับใช้กิเลสอันก่อเหตุให้ทุกข์มากทุกข์น้อย

และอาจจะตายตาไม่หลับไปพร้อมกับทุกข์ที่กัดกินหัวใจมาตลอดชีวิต

  ต่อเมื่อรู้จักนิยามของวิปัสสนา  และเห็นว่าเพียงเปลี่ยนมุมมองชีวิตเสียใหม่

ตามหลักวิปัสสนา  ก็ไม่ต้องย้ายร่างไปที่ไหน ไม่ต้องทำพิธีรีตรองอันใด

ความสุขก็ปรากฏขึ้นแทนที่แล้วขณะมีลมหายใจ ก่อนจะตายไปกับความไม่รู้และต้นเหตุทุกข์ครั้งใหม่ๆ

 

   สรุป 

 วิปัสสนา คือการเห็นตามจริง ว่าทุกสิ่งทั้งข้างนอกและข้างในเราไม่เที่ยง  บังคับควบคุมให้เป็นไปตามอยากไม่ได้ เพื่อปล่อยวางจากความยึดมั่นถือมั่นผิดๆ

พ้นจากอุปาทานครอบงำให้ทุกข์ใจกับเรื่องที่ไม่ควรเป็นธุระของเรา

   หน้าที่ของผู้วิปัสสนาคือ แค่เปลี่ยนมุมมองเสียใหม่ จากนักเรียกร้อง นักต่อสู้บูชาตัณหา และนักสำคัญตัวผิด มาเป็นคนดู คนรู้ คนต่อสู้เพื่อบูชาความจริง ตามสิ่งที่ปรากฏ แสดงเสียแทน

                                            จบบทที่ ๑ ขออนุโมธนาสาธุกับดังตฤณนะคะ

                                                           ใจใสใส

 

 ถ้าต้องการหาอ่านได้ตามร้านหนังสือค่ะ ราคาเล่มละ ๗๐ บาท

เวลาว่างๆอาจจะมาต่อบทอื่นๆให้นะคะ

 

 

 

หมายเลขบันทึก: 333270เขียนเมื่อ 2 กุมภาพันธ์ 2010 12:59 น. ()แก้ไขเมื่อ 6 กันยายน 2013 22:20 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (4)

ขอบคุณมากที่แวะมาทักทายนะคะด.ร.

เคยเห็นครับแต่ไม่ได้อ่าน

แต่พอจะมีหนังสือของดังตฤนอยู่บ้าง

อ่านจบแล้ว อย่าลืมปฏิบัติบ่อยๆนะครับ

ผมก็พยายามอยู่ครับ

ดีใจที่เจอ คนที่พยายาม เพื่อ ศีล สมาธิ ปัญญา เหมือนกัน

ขออนุโมธนาสาธุ ด้วยคนนะคะ เป็นกำลังใจให้ค่ะ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท