หลักคิดข้อที่ 3 ที่ท่าน ว. บอกว่าเป็นหนทางในการที่ทำให้คนธรรมดากลายเป็นมนุษย์ผู้มีใจสูง ปฏิสัมพันธ์ดีก็มีความสุข ซึ่งมีรายละเอียด ดังนี้
1. ในโลกนี้มีมิตรอยู่ 3 ประเภท
1.1 บาปมิตร เพื่อนชั่ว จงอย่าคบ
1.2 กัลยาณมิตร เพื่อนดี จงคบ
1.3 พันธมิตร เพื่อนที่ผูกพันกันด้วยผลประโยชน์ จงระวัง
2. ต่อความร้ายด้วยความดี ต่อความตระหนี่ด้วยการให้ ต่อความโกรธด้วยความเมตตา ต่อความเท็จด้วยความสัตย์ ต่อผู้มีพระคุณด้วยความกตัญญู
3. ดีต่อเขาเท่ากับดีต่อตนเอง ร้ายต่อเขาเท่ากับร้ายกับตัวเอง ยิ้มให้เขาเท่ากับยิ่มให้ตัวเอง เราแสดงต่อเขาอย่างไร เขาก็สะท้อนมาอย่างนั้น
4. ลดความรู้สึกลง เพิ่มความรู้ให้มากขึ้น ลดความเป็นฝักฝ่ายลง เพิ่มความสามัคคีให้มากขึ้น ลดความรุนแรงลง เพิ่มสันติวิธีให้มากขึ้น คนที่เห็นต่างจากเรา ไม่ได้หมายความว่าเขาเป็นคนไม่ดี
5. บุคลิกภาพของเราคือสิ่งที่กำหนดคนที่เข้ามาหาเรา ผู้ยิ้มย่อมได้รับการยิ้มตอบ ผู้โกรธย่อมได้รับการโกรธตอบ เราเป็นอย่างไร เขาก็เป็นอย่างนั้น
6. "อย่าทำให้คนข้างหน้าคุณเจ็บ" เพราะมนุษย์จดจำคนที่ทำให้เกลียดยาวนานกว่าจดจำคนที่ทำให้รัก หนึ่งคำพูดที่ดี มีค่ายิ่งกว่าทองพันชั่ง หนึ่งอ้อมกอดที่เปี่ยมไมตรีจิต ติดตราตรึงใจไปถึงสามฤดูหนาว
7. มีศัตรูหนึ่งคนนับว่ามากเกินพอ มีเพื่อน 500 คนยังน้อยเกินไป วิธีทำลายศัตรูที่ดีที่สุดคือ จงเปลี่ยนศัตรูมาเป็นมิตร
ทั้ง 7 ประการคือแนวทางสร้างมิตรที่มีคุณภาพ และผมเชื่อว่า พวกเราสามารถทำได้ทุกคน ขึ้นอยู่ว่า คุณทำใจให้ว่างเปล่าลงบ้าง เท่านั้นเอง
สวัสดีค่ะ ยินดีที่ได้รู้จักเหมือนกันค่ะดีใจที่เข้ามาเจอคนที่รู้จักโนนคร้อฯ
ตอนนี้ที่โรงเรียนก็น่าอยู่ค่ะ บรรยากาศดี ต้นไม้เยอะออกแนวร่มรื่น
จนไม่อยากจะย้ายไปไหน คนที่นี่น่ารักค่ะเหมือนพี่เหมือนน้อง
ทำงานอย่างสบายใจ ถ้าเอาหลักคิดข้อที่ 3 นี้มาใช้บ้างคงสุขกว่าเดิม
ปล.คิดบวก ชีวิตบวก อันนี้ conferm ค่ะ
อ้อ งานเจ้าพ่อพึ่งผ่านพ้นไป
ไว้แวะมาเที่ยวอีกนะคะ
หรือจะแวะมาแถว ๆ โนนคร้อด้วยก็ยินดีต้อนรับค่ะ
สวัสดีครับครูอ้อย
เห็นด้วยครับ การมีมิตรดีกว่ามีศัตรู การคิดของครูอ้อยประเด็นนี้จะทำให้โลกเต็มไปด้วยมิตรภาพ แต่การที่เราจะสนิทชิดเชื้อมันอยู่ในใจเราครับ ขอบพระคุณครับ
สวัสดีครับคุณสกุณา
งานเจ้าพ่อช่วงเดือนที่แล้วผมติดภารกิจ แต่ผมไปกราบท่านหลังจากงานเลิกไปแล้ว 2-3 วัน ถ้ามีโอกาสไปอีกผมจะแวะไปเยี่ยมครับ ขอบพระคุณมากครับ