สุนทรียภาพแห่งชีวิต...ความงดงามทางวรรณศิลป์


หนังสือสุนทรียภาพแห่งชีวิตแม้มิใช่ตำราทางวรรณคดีโดยตรง แต่เนื้อหาสาระอันเกิดจากการทุ่มเทความรักความสนใจใฝ่รู้ในการศึกษาค้นคว้าเพื่อประกาศคุณค่าทางวรรณศิลป์ ในฐานะงานศิลปะที่ทำให้มนุษย์ได้เสพความงาม ความประณีตและความละเอียดอ่อนของชีวิต...

สุนทรียภาพแห่งชีวิต...ความงดงามทางวรรณศิลป์ 

 

                                                       ชฎารัตน์ สุนทรธรรม

 

 

                ท่ามกลางกระแส “ทุนนิยม” ในโลกปัจจุบัน ที่คนในสังคมให้ค่ากับวัตถุมากกว่าให้ความสำคัญกับคุณค่าทางด้านสุนทรียที่ปรากฏในรูปของงานศิลปะแขนงต่าง ๆ รวมทั้งงานทางด้านวรรณคดีหรือวรรณกรรม รองศาสตราจารย์ ดร.รื่นฤทัย สัจจพันธุ์ นักวิชาการผู้เชี่ยวชาญและมีความรักในงานทางด้านวรรณคดีและวรรณกรรมไทย  จึงได้บรรจงถ่ายทอดความรู้ทางวรรณคดีโดยใช้กระบวนการการวิเคราะห์ การวิจารณ์ การสังเคราะห์รวมทั้งบูรณาการการศึกษาวรรณคดีกับการศึกษาศิลปะและศาสตร์แขนงอื่น ๆ ในลักษณะ “ศิลปะส่องทางให้แก่กัน”  กลั่นกรองออกมาเป็นบทความวิชาการจำนวน 8 บท     เพื่อให้ผู้อ่านหรือผู้เสพได้ตระหนักถึงคุณค่าและความงดงามทางด้านสุนทรียรสของวรรณดคีในแง่มุม ต่าง ๆ ซึ่งรวมอยู่ในหนังสือเชิงวิชาการชื่อ “สุนทรียภาพแห่งชีวิต”  

                บทความวิชาการทั้ง 8 บทที่รวมอยู่ในหนังสือเล่มนี้ ผู้เขียนได้ปรับปรุงจากการบรรยายในที่ประชุมทางวิชาการ ซึ่งจัดโดยราชบัณฑิตยสถานและและสถาบันการศึกษาหลายแห่ง เนื้อหาของบทความล้วนแสดงให้เห็นพลังทางสุนทรียของวรรณคดีที่คนรุ่นก่อนรังสรรค์ไว้เป็นมรดกล้ำค่าเพื่อให้คนรุ่นหลังได้ศึกษาวิเคราะห์และได้เสพรับความงาม ความละเอียดอ่อนของงานวรรณศิลป์

                เนื้อหาของบทความที่ว่าด้วยเรื่อง “สุนทรียภาพแห่งชีวิต:คุณค่าทางวิจิตรศิลป์” กล่าวถึงกวีนิพนธ์หรือวรรณคดีบริสุทธิ์ที่จัดว่าเป็นวิจิตรศิลป์แขนงหนึ่ง กวีนิพนธ์หรือวรรณคดีเกิดจากการที่กวีสร้างสรรค์ความงดงามขึ้นด้วยตัวอักษร   ฉะนั้นอาจกล่าวได้ว่าสุนทรียภาพในงานวรรณคดีเกิดขึ้นเนื่องจากกวีมีความรอบรู้ในอัตลักษณ์และอัจริยภาพของภาษา สามารถเลือกสรรถ้อยคำมาปรุงแต่งให้งานศิลปะที่ใช้ภาษาเป็นสื่อมีความงดงาม นอกจากนี้การเลือกเทคนิคการใช้คำซ้ำ การใช้โวหารภาพพจน์ การเลือกใช้เสียงและความหมายของคำ หรือการเลือกใช้ฉันทลักษณ์ที่เหมาะสมเพื่อให้เกิดลีลาจังหวะในการอ่านล้วนแล้วแต่สร้างความไพเราะและทำให้เนื้องานมีความหมายที่ลึกซึ้งสะเทือนอารมณ์ จึงจะทำให้ผู้เสพมองเห็นภาพ ได้ยินเสียง กระตุ้นให้เกิดจินตนาการสามารถยกระดับจิตใจของมนุษย์ให้สูงขึ้น และผู้เสพจะได้รับอรรถรสและสุนทรียรสจากการอ่านวรรณดคีเรื่องนั้น ๆ ได้อย่างเต็มที่

               บทความเรื่อง “สุนทรียรสในบทกวี” ผู้เขียนได้วิเคราะห์สุนทรียรสในบทกวีอันเกิดจากเสียงและความหมายรวมทั้งลีลาจังหวะของฉันทลักษณ์ การที่กวีเลือกใช้ฉันทลักษณ์แต่ละประเภทที่แตกต่างกันไม่ว่าจะเป็น โคลง กลอนหรือร่าย ก็จะสามารถสะท้อนความรู้สึกที่หลากหลายแตกต่างกันไปด้วย สำหรับสุนทรียรสทางด้านความหมายเกิดจากการเลือกสรรถ้อยคำหรือภาษาที่ให้ความหมายหลายมิติที่สามารถสื่อให้เห็นภาพ แสง สี เสียงและภาพที่แสดงความเคลื่อนไหวได้

               วรรณคดีเรื่องลิลิตพระลอ เป็นวรรณคดีอมตะที่อยู่ในใจของผู้รักวรรณคดีมาช้านาน เพราะเป็นเรื่องที่ได้รับยกย่องว่ามีความไพเราะและเป็นสุดยอดของวรรณคดีประเภทลิลิต บทความเรื่อง “ความรักและความตายในลิลิตพระลอ” ทำให้ผู้อ่านได้เสพสุนทรียรสในเรื่องและความรักและความตายของตัวละครเอกได้อย่างสะเทือนอารมณ์ ไม่ว่าจะเป็นบทคร่ำครวญของพระนางบุญเหลือที่แสดงถึงความรักความผูกพันที่มีต่อพระลอ ซึ่งเป็นพลังความรักที่บริสุทธิ์ที่แม่พึงมีต่อลูก ความรักของพระลอและพระเพื่อนพระแพง ซึ่งเป็นความรักที่ตกอยู่ในบ่วงที่ร้อยรัดไว้ด้วยความหลงใหลและกิเลสตัณหา รวมถึงการจบเรื่องแบบโศกนาฏกรรมของตัวละครเอก ล้วนเป็นภาพที่สร้างความสะเทือนใจซึ่งติดตรึงอยู่ในความทรงจำของผู้อ่านมาตราบนานเท่านาน

                บทความเรื่อง “วรรณคดีไทยที่ครูไทยควรซาบซึ้ง” ความซาบซึ้งที่เกิดขึ้นกับสิ่งใดสิ่งหนึ่งเป็นเรื่องละเอียดอ่อน ถึงแม้ความซาบซึ้งจะเป็นเรื่องของการใช้อารมณ์มากกว่าเหตุผล แต่ความซาบซึ้งในวรรณคดีจะเกิดขึ้นได้ก็ต่อเมื่อผู้อ่านทำความเข้าในในวรรณคดีอย่างลึกซึ้งและถ่องแท้  ด้วยกระบวนการวิจักษ์และวิจารณ์ ในบทความเรื่องนี้ ผู้เขียนวิเคราะห์ให้เห็นว่าวรรณคดีที่จะสร้างความซาบซึ้งให้เกิดขึ้นกับผู้อ่านต้องมีคุณลักษณะต่าง ๆ เช่น กวีต้องมีศิลปะการเลือกสรรถ้อยคำอย่างประณีตบรรจงเพื่อสร้างความไพเราะให้กับบทประพันธ์ เนื้อหาต้องมีหลากรสหลายอารมณ์  นอกจากนี้กวีต้องแสดงทัศนะที่มีต่อโลกและชีวิต และทำให้ผู้อ่านเข้าใจโลกและชีวิตรวมถึง  เข้าใจความซับซ้อนในเรื่องธรรมชาติของอารมณ์มนุษย์ได้อีกด้วย และการที่จะสร้างความซาบซึ้งให้เกิดขึ้นกับผู้อ่านวรรณคดีต่างเพศหลายวัยก็มีวิธีการต่าง ๆ กัน ซึ่ง ดร.รื่นฤทัยก็ได้แจกแจงไว้อย่างละเอียด

                นอกจากผู้อ่านจะได้เสพสุนทรียรสในงานวรรณคดีหลาย ๆ เรื่องแล้ว ข่าวคราวที่ก่อให้เกิดความสับสนในวรรณคดีเรื่อง “สามัคคีเภทคำฉันท์” ซึ่งนักเรียนนักศึกษารู้จักกันดีเพราะเป็นหนังสือที่ใช้เป็นแบบเรียนในชั้นมัธยมศึกษาตอนปลาย หลายบทหลายตอนเป็นที่จดจำและคุ้นเคย เพราะเป็นบทที่ได้รับการคัดเลือกให้ท่องจำ ก็มีปรากฏในบทความเรื่อง “สามัคคีเภทคำฉันท์ เกือบจะเป็นสามัคคีเภทในวงวรรณกรรม” ในบทความเรื่องนี้ ดร.รื่นฤทัย ได้กล่าวเท้าความอย่างละเอียดเกี่ยวกับวรรณคดีเรื่องสามัคคีเภทคำฉันท์ทั้ง 2 ฉบับ คือฉบับของกรมศิลปากรซึ่งเป็นสำนวนต้นแบบ และฉบับของกระทรวงศึกษาธิการที่ใช้เป็นแบบเรียน รวมถึงมูลเหตุที่วรรณคดีเรื่องนี้ตกเป็นข่าว นอกจากนี้ยังมีการเปรียบเทียบสำนวนและเนื้อหาของทั้งสองฉบับที่แตกต่างกัน โดยมีการยกตัวอย่างให้เห็นชัดเจน

                ในบทความเรื่อง “ความสัมพันธ์ระหว่างวรรณคดีกับศิลปะ” ตอกย้ำความคิดในเรื่อง “ศิลปะส่องทางให้แก่กัน” ได้ชัดเจนและหนักแน่นขึ้น ดร.รื่นฤทัย  ได้วิเคราะห์ให้เห็นความสัมพันธ์ระหว่างวรรณคดีกับศาสตร์แขนงอื่น ๆ ไม่ว่าจะเป็นทางด้านจิตรกรรม ประติมากรรม สถาปัตยกรรม สังคีตศิลป์และศิลปะการแสดง  และสรุปว่าการนำเนื้อหาของวรรณคดีไปสร้างงานศิลปะแขนงอื่น ๆ กระทำในสามลักษณะคือ การสร้างซ้ำ (repetition) โดยใช้สื่อศิลปะร่วมสมัยได้แก่ ภาพยนตร์ เช่นภาพยนตร์การ์ตูนเรื่องสุดสาคร  และสร้างเป็นละครร็อคโอเปร่า เรื่อง อิเหนา – จรกา เป็นต้น นอกจากนี้มีการนำไปสร้างใหม่ในลักษณะการตีความใหม่ (re-interpretation) เช่นนำเรื่องพระอภัยมณี ไปสร้างเป็นละครเวทีเรื่อง นางอภัยมณี และ ลุยไฟ ตีความใหม่ในแนวคิดสตรีนิยม และการสร้างใหม่ (re-creation) โดยการนำตัวละครและเรื่องราวในวรรณคดีไปสร้างใหม่ โดยเพิ่มจินตนาการในด้านเหตุการณ์และเรื่องราวต่าง ๆ จนแทบหาเค้าเดิมไม่พบ เช่น วรรณกรรมเยาวชนเรื่อง ครุฑน้อย นำครุฑซึ่งเป็นสัตว์ในวรรณคดีเรื่องกากี ไปผูกเรื่องใหม่ เป็นต้น

                อย่างไรก็ตาม การสร้างสุนทรียภาพและการเสพสุนทรียรสย่อมต้องอาศัยพื้นฐานจากการอ่าน บทความเรื่อง “การสร้างนิสัยรักการอ่าน” เป็นบทความเรื่องสุดท้ายที่รวบรวมไว้ในหนังสือเล่มนี้ด้วยเช่นกัน ผู้เขียนชี้ให้เห็นความสำคัญของการปลูกฝังเยาวชนให้มีนิสัยรักการอ่าน ซึ่งควรจะเริ่มต้นจากตนเองและอาศัยความร่วมมือร่วมใจจากสถาบันครอบครัว โรงเรียนรวมทั้งชุมชนและสังคมเพื่อพัฒนาศักยภาพในการอ่านให้เข้มข้นและแข็งแกร่งยิ่งขึ้น

                หนังสือสุนทรียภาพแห่งชีวิตแม้มิใช่ตำราทางวรรณคดีโดยตรง แต่เนื้อหาสาระอันเกิดจากการทุ่มเทความรักความสนใจใฝ่รู้ในการศึกษาค้นคว้าเพื่อประกาศคุณค่าทางวรรณศิลป์ ในฐานะงานศิลปะที่ทำให้มนุษย์ได้เสพความงาม ความประณีตและความละเอียดอ่อนของชีวิต  ของ รองศาสตราจารย์ ดร.รื่นฤทัย สัจจพันธุ์  มาสู่ผู้สนใจด้านวรรณคดีศึกษา ด้วยภาษาที่สละสลวย ทุกเรื่องราวสามารถยกตัวอย่างประกอบคำอธิบายได้กระจ่างชัด ทำให้หนังสือ “สุนทรียภาพแห่งชีวิต” เป็นหนังสือที่มีคุณค่าในวงวรรณคดีอีกเล่มหนึ่ง

 

 

 

ที่มา :

นิตยสารขวัญเรือน คอลัมน์ดวงใจวิจารณ์ ปีที่ 28 ฉบับที่ 830 ปักษ์หลัง มิถุนายน 2539

               

           



ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท