รวมทั้งงบกันเหลื่อมปีเพื่อให้เบิกจ่ายได้ 93% ตามเป้าหมาย เนื่องจากยังมีเม็ดเงินลงทุนที่ค้างเบิกจ่าย เพื่อเร่งให้เข้าสู่ระบบถึง 478,000 ล้านบาท ซึ่งการบริหารจัดการเศรษฐกิจที่ดีของภาครัฐจะช่วยเพิ่มความเชื่อมั่นในการลงทุนของในและต่างประเทศ และจะทำให้จีดีพีตลอดทั้งปี 49 สูงกว่าปี 48 ได้ โดยจะสามารถขยายได้ 4.6% เป็นอย่างต่ำ เพราะจะเห็นได้จากครึ่งปีแรกของปี 48 จีดีพีขยายตัวต่ำกว่า 4% แต่สามารถดันให้สิ้นปี ขยายได้ถึง 4.5% ดังนั้น จะต้องไม่ปล่อยให้การบริหารเศรษฐกิจแกว่งไปเรื่อย ๆ จนกระทบกับความมั่นใจ ส่วนปัญหาทางการเมืองเป็นสิ่งที่คาดการณ์ได้ลำบาก จึงไม่ได้กำหนดไว้ในการประมาณการเศรษฐกิจ แต่เชื่อว่าสถานการณ์จะคลี่คลายขึ้น โดยสิ่งที่สร้างความมั่นใจให้แก่นักลงทุนคือภาครัฐจะต้องเป็นแกนนำในการขับเคลื่อนการใช้จ่ายภาคการลงทุนจากโครงการต่าง ๆ เพื่อสร้างความมั่นใจให้แก่นักลงทุน”ด้านนายทนง พิทยะ รมว.คลัง กล่าวว่าผลจากการรายงานอัตราการขยายตัวของเศรษฐกิจไทยไตรมาสแรกของปีนี้ ที่ สศช. ระบุว่าขยายตัว 6% น่าจะเป็นแรงขับเคลื่อนให้เศรษฐกิจไทยในไตรมาสที่ 2 เติบโตได้อย่างต่อเนื่อง และหากไตรมาสที่ 2 ยังมีการเติบโตสูง ก็คาดว่าตลอดทั้งปีนี้เศรษฐกิจไทยน่าจะขยายตัวได้ 4.50% เนื่องจากภาวะเศรษฐกิจในไตรมาสที่ 3 และ 4 ที่เหลือยังน่าเป็นห่วง โดยเฉพาะการลงทุนใหม่ของภาคเอกชน จึงจำเป็นต้องเร่งการลงทุนของภาคเอกชนให้มากขึ้น
ไทยรัฐ 6 มิ.ย. 49