วิยะรักษ์
นางสาว วิยะรักษ์ ปุ๋ย ดีดวงพันธ์

โบท๊อกซ์


 
โบท๊อกซ์ โบทอกซ์ หรือ botox เป็นพิษที่เกิดจาก โบทูลินุม แบคทีเรีย ซึ่งมีความเป็นพฺษต่อระบบประสาท แต่จากการนำมาใช้พบผลข้างเคียงคือผ่อนคลายกล้ามเนื้อ ทำให้แพทย์ประยุกต์มาใช้เพื่อลบรอยย่นบนใบหน้า

Botulinum toxin หรือโบโทลินุม เกิดจากแบคทีเรียชนิดไม่ใช้อากาศ ที่เรียกว่า Clostridium botulinum พบในอาหรกระป๋องที่มีเชื้อ โดยเมื่อผู้ได้รับประทานเข้าไปจะเกิดอาการอ่อนแรงของกล้ามเนื้อ อัมพาต ซึ่งถ้ากล้ามเนื้อหายใจเป็นอัมพาต ก็จะถึงแก่ชีวิตได้

อาการเริ่มจาก ปากแห้ง ตาพร่า คลื่นไส้ อ่อนแรงแขนขา พูดลำบาก หายใจไม่ได้ เรียกว่าอาการ โบทูลิซึ่ม Botulism

ต่อมา มีการพยายามสกัดสารนี้ออกมา และมีการนำมาใช้ในการแพทย์ครั้งแรกเมื่อปี ค.ศ. 1980 โดยจักษุแพทย์ และเริ่มนำมาใช้โดยอายุรแพทย์ระบบประสาท ในการรักษา ภาวะตาเข ภาวะหนังตากระตุก แก้มหรือคอกระตุก หลังจากการใช้ในการแพทย์ระยะหนึ่ง พบว่า คนไข้เกิดชอบใจเนื่องจากรอยย่นที่หัวคิ้วหายไป จึงนำมาใช้ในการรักษารอยย่นชนิดที่เกิดจากกล้ามเนื้อ ใบหน้าทำงานมากไป และแพร่หลายจนบัดนั้น

การออกฤทธิ์

ออกฤทธิ์ โดยการไปบล๊อก ตัวส่งสารสื่อประสาท acetylcholine ของกล้ามเนื้อ ทำให้สารสื่อประสาท ทำงานไม่ได้ กล้ามเนื้อไม่สามารถหดตัว โดยจะออกฤทธิ์ ประมาณ 3-6 เดือน

ในไทย มีการนำเข้ามาสองบริษัท ซึ่งเป็นท๊อกซินชนิด serotype A ทั้งคู่

ข้อบ่งชี้

  1. รักษารอยย่นของใบหน้าที่เกิดจากการหดเกร็งของกล้ามเนื้อ เช่นหน้าผาก หรือหัวคิ้วจากการขมวดคิ้ว
  2. เปลี่ยนรูปทรงของใบหน้า ที่เกิดจากการคลายตัวของกล้ามเนื้อ เช่น ผู้ที่กรามใหญ่ กล้ามเนื้อกรามทำงานมาก ฉีดแล้วเรียวเล็กลงได้
  3. รักษาภาวะเหงื่ออกมากผิดปกติ hyperhydrosis โดยไม่ทราบสาเหตุ เช่นที่ฝ่ามือ เท้า รักแร้ หน้า

ข้อห้ามทำ

  1. มีปัญหาแพ้โบท๊อกซ์ หรือ โปรตีนอัลบูมิน
  2. ตั้งครรภ์ ให้นมบุตร
  3. มีความผิดปกติของระบบกล้ามเนื้ออยู่แล้ว เช่น มัยแอสทีเนีย myasthenia gravis หรือโรคกล้ามเนื้ออ่อนแรงอื่น  
  4. เลือดออกง่ายผิดปกติ
  5. ยาบางตัวมีผลต่อโบท๊อกซ์ เช่นยากลุ่มยาแอนติไบโอติกส์ ควินิน

การดูแลหลังฉีด

ภายหลังฉีด ควรอยู่ในท่านั่ง หรือยืนประมาณ 4 ชม. เพื่อกันการไหลของยาไปที่อื่น ใช้กล้ามเนื้อ คือขมวดคิ้ว บ่อยๆให้ยาจับกับตัวรับดีๆ อาจมีจ้ำเลือดเล็กๆไม่ตองทำอะไร ไม่ควรอบซาวน่าสักสามสี่วัน ใช้เครื่องสำอางได้ตามปกติ อาจมีอาการตึงหนักหน้าใน 3-4 วันเป็นปกติ ไม่ต้องกังวล หายไปใน 1-2 สัปดาห์ ยาจะเริ่มออกฤทธิ์ภายใน 5 วัน เต็มที่ใน 2-4 สัปดาห์ อยู่ได้นาน 3-6 เดือน ยิ่งฉีดหลายครั้ง ยิ่งอยู่ได้นานขึ้น

ปัญหาแทรกซ้อน

  1. หนังตาบนตก เกิดจากการฉีดไม่ถูกวิธี มักเป็นนาน 1-3 เดือน
  2. คิ้วตก เกิดจากการกระจายยาไปไกลกว่าปกติ หรือฉีดผิดวิธี
  3. มุมปากตก
  4. จ้ำเลือด
  5. ตาแห้ง
  6. แพ้ ผื่นคัน
คำสำคัญ (Tags): #วันเด็ก
หมายเลขบันทึก: 329701เขียนเมื่อ 21 มกราคม 2010 10:04 น. ()แก้ไขเมื่อ 12 กุมภาพันธ์ 2012 12:06 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท