ปี๊ปรั่ว ขันแตก ไหรั่ว มาสนทนากัน


ความเชื่อ   กลายไปเป็น การกระทำ   ทำบ่อยๆ กลายเป็น สันดาน     สุดท้าย สันดาน กำหนด ชะตากรรม  

**********

ความเชื่อของเราแต่ละคน   เป็น ทิฏฐิ  เป็นวิสัยทัศน์ (สังกัปโป)   แต่  เราไม่เคย ย้อน กลับมา สำรวจมัน

อุปมาหรือสมมติว่า   "สัญญา" (จำได้ หมายรู้)  เป็น file  หรือ เป็น "ภาชนะบรรจุความเชื่อ"  ความคิดต่างๆ ของเรา

(ก)  ที่บรรจุอยู่   เป็นอะไร    กุศล หรือ อกุศล    เราเคย แยกแยะพิจารณาไหม

(ข) ภาชนะ ของเรา เป็นอะไร  ปี๊ปเปล่า   ขวดปากแคบ   ไหรั่ว   ใบไม้แห้ง ขันแตก แก้วคว่ำ  ฯลฯ หรือเปล่า    รับยาก ลืมง่าย    รับง่าย ลือยาก ฯลฯ

(ค) ความรู้ต่างๆในโลก  เป็น มหาสมุทร  แต่  เรารู้แค่ ไหรั่ว ขันแตก   ... ซึ่ง มันน้อยมากๆๆๆๆ  จริงไหม

(ง) เรา รับ ความเชื่อต่างๆ มาตอนโหมดไหน   รับมาด้วยความกลัว  โดนยัดเยียดมา ต้องกับจริตตน   ความอยาก  ความจำเป็น  ฯลฯ   เราเคย พิจารณา "การตรวจรับ" หรือ QC คุณภาพ ของ น้ำที่เรา บรรจุ ใน ไหรั่ว ขันแตก  ของเราไหม

(จ) เรา ไป ตัดสิน วิพากษ์ วิจารณ์ สิ่งต่างๆ   โดย พิจารณา จาก ภาชนะ ขันแตก ไหรั่ว  ของเรา อยู่บ่อยๆ    ระวังนะ   จะก่อ เวรกรรม  โดย ไม่รู้ตัว  เข็มขัดสั้น ได้ง่ายๆ

(ฉ) ที่ ทะเลาะ ที่ขัดแย้ง  ที่เป็นทุกข์  ก็เพราะ  เรา รู้ไม่เท่าทัน  ความคิด นั่นเอง  ปล่อยให้มาป่วนจิตของเราอยู่เรื่อยๆ    และ จิตเราเมื่อเกิดอาการ  เรา รู้เท่าทันหรือยัง ว่ามัน กำลังผลิตความคิดแบบเฉโก(ความคิด แบบเจออัตตา)  ออกมาเพียบเลย

หมายเลขบันทึก: 326459เขียนเมื่อ 10 มกราคม 2010 10:51 น. ()แก้ไขเมื่อ 26 เมษายน 2012 16:13 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (6)

แวะมาสวัสดีปีใหม่ ค่ะอาจารย์ *^__^*

ความเชื่อถูกกำกับด้วยสิ่งแวดล้อมแต่ละยุคและสมัย ความเชื่อบางอย่างถูกล้มล้างไปในที่สุด ด้วยความเชื่อใหม่ ไม่ต่างอะไรกับความเชื่อหัวปักหัวปำกับความรู้ทางวิทยาศาสตร์ ที่ยังต้องพัฒนาเครื่องมือวิธีการพิสูจน์ความเชื่อ.....ตลอดไปไม่มีวันสิ้นสุด และเครื่องมือทางวิทยายาศาสตร์ก็ไม่ละเอียดพอที่จะพิสูจน์ ปรากฏการณ์บางอย่างได้ เพราะเครื่องมือทางวิทยาศาสตร์ก็เกิดจากความเชื่อ ที่มีทั้งแบบ ปี๊ปรั่ว ขันแตก ไหรั่ว และแบบมั่วๆก็มี บางที่ก็เกิดจากความสงบนิ่ง จนปิ๊ง.... ร้องออกมาเป็น........กลายเป็นกฏเกณฑ์ทางวิทยาศาสตร์ที่เชื่อถือและนำมาต่อยอดไม่รู้จบ.....

จะกิน หรือ จะหายใจ เอาพลังงานไว้เลี้ยงอัตตา เรียนมากรู้มาก กระดูกดำขึ้นทุกวันๆ กินก็เก็บไม่ได้ หายใจก็กักไม่อยู่ มันเลยเข้าๆออกๆอย่างนี้ทุกวัน เหมือนปี๊บรั่ว ไหแตก กะละมังทะลุ อัตตามันก็โตเอาๆ ทุกวัน

ไม่พอสักที รู้สึกว่าชีวิตลำบาก ทุกวันนี้ก็เลยต้องมานั่งพิจรณาหารูรั่ว อุดรอยซึมมัน โปรเจคนี้ไม่รู้ว่าชั่วชีวิตจะสำเร็จหรือเปล่า...

สวัสดีปีใหม่ครับอาจารย์

ลากไปไม่ถึงนิพพาน ลดความร้อนของกิเลศที่มันทำงานของมันอย่างหนักไม่มีวันหลับนอนก็น่าจะเป็นบุญแล้วหละครับ วิวัฏฏะวน.....

ฝึกสมาธิมันเป็นทางที่มีสุขที่สุดเลยอ่ะครับ

เวลาเราหยุดคิดได้ เมียเมอจะเลิกหมดยังได้เลย แบบสุขมากมายจั๊กกรู๊iiiiiiiii

แม้แต่ปากกายังมีความงามของมันเลย จิงนะ

แต่เซ็งอย่างเดียว

เบื่อสุดเลยอ่ะคับ

ผีชอบมากวน

หรือเปนเพาะเราจิตละเอียดจนมองเห็นสิ่งละเอียดรึเราบ้าหว่า

งงวุ้ย

วันอังคารที่ ๒๕พฤษภาคม๒๕๕๓ ปกติ ช่วงเช้าขณะขับรถไปทำงาน จะเริ่มพิจารณาอารมณ์ของตนเอง ว่า ตาดู หูฟัง เรียกว่าประชุม ครบองค์ ผัสสะทั้ง๕ ไล่ตั้งแต่หยาบไปหาละเอียด ปัจจัยปรุงแต่ง  ทำให้องค์๕นั้นได้ทำหน้าที่ ปรากฏ อารมย์ หลากหลาย ปรากฏให้พิจารณา ตัวไหนไล่จับทันก็หมดห่วง เป็นตัวๆไป อย่างนี้ ทำทุกวัน  แต่มันเยอะมากไป  วันนี้เลยตั้งหลักใหม่มาเล่าให้ฟัง ป้องกันตัวไว้ก่อนตัวไหนปรากฏ ก่อนใช้การพิจารณาลมหายใจเข้า-ออก จะมีภาวนาด้วยหรือไม่ก็ได้ ตามชอบใจ แต่ผมใช้ภาวนาด้วย จับล็อคคอไว้ก่อน ขังไว้เลยไม่ให้เพ่นพ่าน ตัวไหนแยมหน้าเข้ามาจับล็อคคอหมด  อารมณ์เริ่มสนิทเบา เงียบ ลมหายใจเบาใจอยู่ในลู่แล้ว วันนี้ตั้งการ์ดสวย กำหนดภาวะการรับรู้ อื่นๆ พอได้ ใกล้หวยออกพอดี  ลมพัดลมเพ๕๒๓๖๓๐

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท