นายพฤฒิชัย ดำรงรัตน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า ได้สั่งการให้กรมบัญชีกลาง
เร่งเสนอแนวทางแก้ไขปัญหา อุปสรรค เพื่อเป็นการผ่อนคลายการปฏิบัติตามระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการพัสดุด้วยวิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์ พ.ศ. 2549 หรือ e – auction โดยได้พิจารณาผ่อนคลายการจัดหาพัสดุ
ด้วยระบบ e-auction ใน 3 รายการคือ งานก่อสร้างที่มีความซับซ้อน การซื้อยาและเวชภัณฑ์ และการจัดซื้อจัดจ้าง IT บางประเภท โดยมีผลบังคับใช้ตั้งแต่คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบ ซึ่งคาดว่ากระทรวงการคลังจะสามารถนำเข้าเสนอคณะรัฐมนตรีเพื่อให้ความเห็นชอบได้ในเดือนธันวาคม 2552
นายพฤฒิชัย ดำรงรัตน์ กล่าวว่าได้มอบหมายให้กรมบัญชีกลางทำการศึกษาและพัฒนาระบบ
e-auction ซึ่งกรมบัญชีกลางทำการศึกษากรณีตัวอย่างของต่างประเทศ เช่น สหภาพยุโรป ฝรั่งเศส อิตาลี อังกฤษ เป็นต้น และระดมความคิดเห็นของส่วนราการและภาคเอกชน รวมทั้งธนาคารโลก โดยได้ข้อสรุปว่าการจัดหาพัสดุด้วยวิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์ ยังมีความเหมาะสม และเป็นไปตามเจตนารมณ์ของการกำหนดระเบียบเพื่อให้เกิดความโปร่งใส ตรวจสอบได้ มีการแข่งขันอย่างเป็นธรรม รวมถึงยังมีระบบการอุทธรณ์เพื่อให้เกิดความเป็นธรรม อย่างไรก็ตาม เห็นควรมีการปรับปรุง โดยผ่อนคลายการจัดซื้อจัดจ้างด้วยระบบ e – auction ใน 3 เรื่องคือ
1. งานก่อสร้างที่มีความซับซ้อน และมี BOQ หลากหลายรายการในโครงการเดียวกัน เช่น โรงไฟฟ้า งานก่อสร้างรถไฟฟ้า พิพิธภัณฑ์ อนุสาวรีย์ ศาลากลางจังหวัด โรงพยาบาล อาคารห้องปฏิบัติการ เป็นต้น
2. การซื้อยาและเวชภัณฑ์ลักษณะพิเศษ เช่น ยาที่สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยาประกาศกำหนดให้รายงาน เช่นยารักษามะเร็ง
3. การจัดซื้อจัดจ้างสินค้าประเภทเทคโนโลยีเกี่ยวกับการพัฒนาระบบ Software สำหรับงานที่มีลักษณะเฉพาะที่ผู้พัฒนาต้องเข้าไปศึกษารูปแบบการทำงานหรือความต้องการของผู้ใช้
ทั้งนี้ให้อยู่ในดุลพินิจของหัวหน้าหน่วยงานที่จัดหาพัสดุ ให้สามารถเลือกใช้วิธีการจัดหาตามระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการพัสดุ พ.ศ. ๒๕๓๕ และที่แก้ไขเพิ่มเติม หรือระเบียบ ข้อบังคับ ของหน่วยงาน โดยไม่ต้องใช้ระบบ e-auction
นอกจากนี้ได้พิจารณาลดค่าปรับจากการยึดหลักประกันซอง ในบางกรณี อาทิ การไม่สามารถไปยื่นซองได้ตามวัน เวลาที่กำหนด ที่เดิมจะถูกยึดเงินอยู่ที่ร้อยละ 5 ของวงเงินงบประมาณ เพื่อลดภาระของผู้ประกอบการ
ไม่มีความเห็น