เพื่ออธิบายและแลกเปลี่ยนประสบการณ์ตอนที่เราได้ไปเข้าค่ายยุวพุทธิกสมาคมในพระบรมราชูปถัมภ์ เป็นระยะเวลา 7 คืน 8 วัน วันแรกรู้สึกอึดอัด เบื่อหน่าย เพราะขัดกับการกระทำของเราหลายๆอย่าง เช่น ให้เดินจงกรมช้าๆ นั่งสมาธินานๆ รู้สึกปวดขา ปวดหลัง เวลารับประทานอาหารก็ต้องกำหนดสติและต้องรับประทานช้าๆรวมทั้งอาหารยังเป็นมังสวิรัติ ก่อนรับแประทานต้องกำหนดว่า เห็นหนอ ( ตามส่วนประกอบของอาหารที่เรามองเห็น ) อยากรับประทานหนอ ยกไปจับ ( มือขวาจับช้อน มือซ้ายจับส้อม ) ยกมาอ้า แล้วกำหนดว่าเห็นหนอ อยากหนอ ยกมาอ้าใส่พร้อมทั้งต้องทำกิริยาให้ตรงกับคำพูดนั้นๆ ( ทำให้เป็นปัจจุบัน ) เพื่อให้เรามีสติสัมปชัญญะอยู่ทุกเมื่อ ทางค่ายห้ามคุยกันแต่พวกเราก็ชอบแอบคุยกันในห้องน้ำและตอนนอนก็มักจะชอบคุยกันเสียงดังมากๆ และต้องตื่นตอนตี4.30 ( ขอบอกว่าง่วงนอนมากๆ ) เมื่อตื่นนอนมาแล้วทางท่านวิทยากรก็ให้มากำหนดสติโดยการตบแปะจังหวะต่างๆ มีดังนี้ 4 6 8 10 12 14 จังหวะ เพื่อปลุกให้ตื่นและสดชื่น จากนั้นก็ฟังเรื่องราวที่วิทยากรเล่า สวดมนต์ แผ่เมตตาช่วยผู้ป่วย และอุทิศส่วนกุศลให้ผู้ที่ล่วงลับไปแล้ว หลายคนมากมายมหาศาล แต่สุดท้ายหลังจากจบมหาวิทยาลัยพระพุทธเจ้า ก็รู้สึกมีความสุขที่สุดในโลกเลย สงบ สว่าง ไสว ช่วงโชติชัชวาล มากมายมหาศาล ถ้าใครมีโอกาสก็ขอให้ลองไปปฏิบัติดูนะคะ เพราะเป็นการสร้างกุศลที่ยิ่งใหญ่ที่สุด สาธุ
ไม่มีความเห็น