04 นายร้อยตำรวจตรี


          ท่านประธานใหญ่แห่งองค์การดาร์ดปริ้นซ์ติดต่อสื่อสาร ด้วยระบบเครือข่ายใยแก้วนำแสงใครจะรู้บ้างว่า เบื้องหลังแล้ว บริษัทสื่อสารยักษ์ใหญ่ระดับโลกจะให้การสนับสนุนองค์กรมืดอย่างลับๆ

          “ว่ายังไงบ้าง โครงการของเราเรียบร้อยดีไหม?”

          เสียงทุ้มกังวานภาษาอังกฤษ ชัดเจนแจ่มใส ปราศจากคลื่นรบกวน

          “เรียบร้อยทุกอย่างครับท่าน วางใจได้”

          สาขาประเทศไทยตอบฉะฉาน

          “ตอนนี้การ์ซาร์ เคย์ อยู่ประเทศไทย นำตัวมันเข้ามาร่วมงานกับเราให้ได้ มันเป็นคนมีฝีมือสามารถทำเงินได้อย่างมหาศาลทีเดียว”

          “ผมจัดการเรียบร้อยแล้วครับท่านหัวหน้าใหญ่ ไม่ต้องกังวล ตอนนี้ผมสั่งให้ลูกน้องติดตามมันกลับไปรับค่าจ้าง เผื่อมันเล่นตุกติก ผมเชื่อแน่ว่าไม่นานนี้ มันจะต้องตอบตกลง”

          “ฮ่า...ฮ่า...ฮ่า...ฮ่า...ดีมาก สาขาประเทศไทย ท่านทำงานรวดเร็วดี นั่นแหละเป็นสิ่งที่เราต้องการ ผลงานในครั้งนี้ ท่านจะได้รับการสนับสนุนเพิ่มจากเดิมอีก 5 เท่า พร้อมทั้งกำลังคน ที่เราจะจัดส่งให้ไม่เกิน 3 วัน”

          จิตใจของประธานสาขาประเทศไทยเบิกบานพองโต กับการสนับสนุนด้านกำลังคนและทุนทรัพย์จากสำนักงานใหญ่ ที่จะมาถึงในอีกไม่กี่วันข้างหน้า นั่นเป็นการแสดงให้เห็นว่า สาขาประเทศไทยได้รับความไว้ใจมากขึ้นกว่าแต่ก่อน

          “อย่าลืมเรื่องโครงการของเราล่ะ”

          ตอบรับอย่างชัดถ้อยชัดคำ เอ่ยลาหัวหน้าใหญ่ แล้วจึงเรียกประชุมพลเพื่อจัดการต้อนรับหน่วยกำลังเสริมที่จะมาถึง

________________________________________

 

          ผู้อำนวยการหน่วยสืบสวนสอบสวนพิเศษ โทรศัพท์หาอดีตมือปราบอย่างรวดเร็ว

          “ไอ้สิทธิ์เหรอ? นี่ชั้นเองนะ”

          “.........................................”

          “พ่อแกไงวะ?”

          “.........................................”

          “แกรีบเข้ามาพบฉันด่วนเลย มีเรื่องสำคัญจะบอกให้แกรู้”

          “.........................................”

          “รีบๆ มา ไอ้งานอื่นพักไว้ก่อนได้ไหม?”

          “.........................................”

          “นี่เป็นคำสั่งโว้ย!”

          วางหูด้วยอารมณ์ฉุนเฉียว แต่สีหน้าบ่งบอกอารมณ์ดีใจ มันเป็นข่าวดีที่มือปราบไม่ควรพลาด

          ไม่ถึงครึ่งชั่วโมง อดีตว่าที่นายร้อยตำรวจตรีหนุ่ม ก็อยู่ในห้องทำงานอันเย็นฉ่ำของผู้อำนวยการหน่วยสืบสวนสอบสวนพิเศษ ด้วยเสื้อโอเวอร์โค้ต สีหน้าบอกบุญไม่รับ

          “มีอะไรก็ว่ามาเถอะครับ ผมกำลังรีบ”

          สิทธิ์ธนูเร่ง ด้วยสีหน้าตื่นๆ

          “ไม่ต้องรีบร้อนไปไหนหรอกโว้ย...เอกสารต่างๆ ที่แกให้ฉันไว้ ผู้ใหญ่ได้พิจารณาแล้ว...ผลเป็นยังไงรู้ไหม?”

          ไม่มีอาการโต้ตอบใดๆ จากอดีตมือปราบตงฉิน

          “ทางสำนักงานให้แกกลับมาทำงานเหมือนเดิมโว้ย!!”

          “หา!! อะไรนะครับ? หัวหน้า ผมไม่ได้หูฝาดใช่ไหม?”

          เบิกตาโต ไม่เชื่อหูตัวเอง ผู้เป็นนายจึงย้ำอีกครั้ง ด้วยเสียงที่ชัดถ้อยชัดคำ

          “แกได้กลับเข้ามาทำงานเหมือนเดิม โดยไม่มีความผิดใดๆ”

          ในใจของว่าที่นายตำรวจเต้นเป็นส่ำด้วยความยินดี แต่ยังวางฟอร์ม กล่าวด้วยเสียงเรียบๆ

          “แล้วยังไงล่ะครับ? หัวหน้า”

          “ยังมีข่าวดีมากกว่านั้นอีกนะ...ฉันว่าแกดีใจบ้างก็ได้ อย่ามาทำฟอร์มกันหน่อยเลยโว้ย”

          หัวหน้าหน่วยอ่านใจมือปราบหนุ่มได้แม่นยำ การทำงานเสี่ยงเป็นเสี่ยงตายด้วยกันมา ทำให้แต่ละคนรู้ซึ้งถึงความรู้สึกภายใต้เป็นอย่างดี แต่มือปราบยังคงนิ่งเงียบ ไม่แสดงอาการ

          เป็นข่าวดี ที่ฉันเองก็ไม่คาดคิดว่ะ”

          กล่าวหน้าตาย แววตามีความหมาย

          “ข่าวอะไรครับ?”

          “แกได้รับการแต่งตั้งให้เป็นร้อยตำรวจตรี!!”

          คำตอบที่คิดไม่ถึงแบบสายฟ้าแลบ ทำเอามือปราบหนุ่มอึ้งไปพักใหญ่ ก่อนตะกุกตะกักถามผู้เป็นนายอีกครั้ง

          “อะ...อะไรนะครับหัวหน้า?...หัวหน้าพูดเป็นเล่นน่ะ”

          “เรื่องจริงโว้ยไอ้สิทธิ์ ดูคำสั่งแต่งตั้งนี่สิวะ”

          หัวหน้าหน่วยชูแผ่นใบคำสั่งแต่งตั้งยศ เขารับเอาไปพิจารณาใกล้ๆ ด้วยมือที่เย็นเฉียบ

          มันเป็นคำสั่งจากสำนักงานตำรวจแห่งชาติเกี่ยวกับการแต่งตั้งยศเป็นกรณีพิเศษแก่ว่าที่นายร้อยตำรวจตรีสิทธิ์ธนู ให้เป็นนายร้อยตำรวจตรีสิทธิ์ธนู สุทธิฤทธากรณ์ สังกัดหน่วยสืบสวนสอบสวนพิเศษ ในตำแหน่งหัวหน้าสายตรวจปราบปรามพิเศษ โดยลงลายมือชื่อผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติไว้เป็นลายลักษณ์อักษรชัดเจน

          มันเป็นสิ่งที่คนอย่างเขาเฝ้าฝันหามาตลอดเวลา 3 ปี เต็มหลังจากจบการฝึกฝนอย่างหฤโหดตลอดระยะเวลา 1 เดือนเต็ม เพื่อให้เป็นมือปราบเดนตาย ที่มีความพร้อมทั้งกายและใจ จนได้เข้าบรรจุเป็นเจ้าหน้าที่ประจำหน่วยสืบสวนฯ

          เขาทุ่มเทและทำงานอย่างเต็มความสามารถ ไม่เห็นแก่เหน็ดเหนื่อย จนถึงวันที่เกิดเรื่องราวใหญ่โต เป็นข่าวครึกโครมตามหน้าหนังสือพิมพ์ นั่นแหละจึงถือว่าเป็นวันสุดท้ายแห่งการทำงานที่เขารัก

          มาบัดนี้เขาได้รับการบรรจุเข้าเป็นนายตำรวจอย่างเต็มภาคภูมิ เพราะการพิจารณาและเห็นชอบจากผู้ใหญ่

          ผู้อำนวยการสุกันฑ์ สังเกตกิริยาของลูกน้องมือดีโดยตลอด รอยยิ้มน้อยๆ ผุดขึ้นบนใบหน้า

          “ยินดีด้วยไอ้เสือ...นายร้อยตำรวจตรีสิทธิ์ธนู สุทธิฤทธากรณ์”

          หัวหน้าลุกขึ้นยืนเดินอ้อมมาตบบ่าลูกน้องมือดี ที่กลับมาทำงานอีกครั้ง ด้วยตำแหน่งหน้าที่และความรับผิดชอบที่มากขึ้นกว่าเดิม

          นายร้อยตำรวจตรีหนุ่มลุกขึ้นยืนตรง ทำความเคารพผู้บังคับบัญชา ด้วยความทะมัดทะแมง

          ผอ.สุกัณฑ์ ยื่นมือขวามาจับมือด้วยความยินดี แรงใจที่ส่งถึงกัน ทำให้สิทธิ์ธนูมีกำลังใจ และพร้อมที่จะปฏิบัติงานต่อไปด้วยดี

          มือปราบหนุ่มลุกขึ้นยืนตรง ตบเท่าชิด ยกมือขวาขึ้นกระทำวันทยหัตถ์ พร้อมรายงานตัวด้วยเสียงที่ดังฉะฉาน

          “ผมร้อยตำรวจตรีสิทธิ์ธนู สุทธิฤทธากรณ์ สังกัดหน่วยสืบสวนสอบสวนพิเศษ ตำแหน่งหัวหน้าสายตรวจปราบปรามพิเศษ รายงานตัวครับผม!”

          หัวหน้าหน่วยยืนนิ่ง แสดงการเคารพตอบในแบบเดียวกัน

          “ดีมาก...หน่วยสืบสวนสอบสวนพิเศษ ขอต้อนรับร้อยตำรวจตรีสิทธิ์ธนู เข้าปฏิบัติหน้าที่หัวหน้าสายตรวจปราบปรามพิเศษ ขอให้ทำงานด้วยความตั้งใจและเต็มความสามารถ เหมือนที่เคยทำมาให้ได้ตลอดไป”       

_____________________________________

          “หล่อไม่เบาเลยโว้ย ผู้หมวด”

          “ขอบใจว่ะ”

          รอยยิ้มผุดขึ้นบนใบหน้า แทบจะตลอดเวลาของผู้หมวดหมาดๆ

          วันนี้เป็นวันดีอีกหนึ่งวัน ที่ร้อยตำรวจตรีสิทธิ์ธนูจะได้เข้าประจำตำแหน่งอย่างเป็นทางการกับชุดตำรวจใหม่เอี่ยมที่เขาเฝ้าฝันจะได้สวมใส่มาเป็นเวลาเนิ่นนาน และดูเขาจะปลาบปลื้มไม่น้อยกับการสวมใส่เครื่องแบบสีกากี มันเป็นชุดที่มีมนต์ขลังอยู่เสมอ สิทธิ์ธนูยืนอยู่หน้ากระจกบานใหญ่พิจารณาเครื่องแต่งกาย เป็นเวลานานด้วยความชื่นชม

          “ฉันรอเวลานี้มานานมากแล้ว แกรู้ไหม?”

          “ฉันยินดีกับแกด้วยว่ะ สิทธิ์”

          “วันนี้ แกต้องเข้าเวรหรือเปล่า?”

          “ตอนนี้รอคำสั่งพิเศษจากท่านผู้บังคับบัญชา ฉันเลยยังไม่ต้องเข้าเวร เอาเป็นว่าวันนี้ ฉันขอไปส่งแกก็แล้วกัน”

          ผู้หมวดหนุ่มพยักหน้า จัดเครื่องแต่งกายให้เรียบร้อยเป็นครั้งสุดท้ายก่อนที่จะสวมหมวกทรงหม้อตาลสีกากี พร้อมในชุดเครื่องแบบเต็มยศ

          ผู้กองหนุ่มยิ้มอย่างยินดีกับเพื่อนสนิท ก่อนที่จะพากันออกจากคฤหาสน์หลังงามด้วยเมอร์ซิเดสเบ็นซ์ ซีแอลเค 230 คอมเพรสเซอร์ สีน้ำเงินเข้ม ตรงไปยังหน่วยสืบสวนสอบสวนพิเศษ

_______________________________________ 

          ห้องประชุมใหญ่แห่งหน่วยสืบสวนสอบสวนพิเศษ ร้อยตำรวจตรีสิทธิ์ธนู สุทธิฤทธากรณ์ เข้าพิธีประดับยศอย่างเป็นทางการ เหล่าผู้บังคับบัญชาและนายตำรวจประจำหน่วยฯ ต่างร่วมแสดงความยินดีกับนายร้อยหนุ่มกันอย่างถ้วนหน้า

          “สิทธิ์ เดี๋ยวนายเข้าไปพบฉันที่ห้องด้วยนะ”

          ผู้อำนวยการหน่วยฯ ออกคำสั่งเบาๆ แก่นายร้อยหน้าใหม่ ชายหนุ่มแสดงการเคารพ ก่อนที่จะขอตัวเพื่อนๆ ตำรวจ ตามผู้บังคับบัญชาไป

          “เอาหล่ะ เรื่องต่างๆ ก็เป็นอันเสร็จสิ้นแล้ว ตอนนี้แกเองก็ได้เป็นนายร้อยสมกับที่เคยตั้งใจไว้ แต่แกรู้ไหม? ว่าการที่แกได้บรรจุเป็นตำรวจเต็มตัว ทำให้แกรับหน้าที่เพิ่มมากขึ้น”

          “หมายความว่ายังไงครับหัวหน้า?”

          “แกอ่านเอาเองสิ”

          พลตำรวจโทสุกัณฑ์ ยื่นเอกสารซองสีน้ำตาลให้ผู้ใต้บังคับบัญชา มีข้อความปั้มด้วยหมึกสีแดงชัดเจนว่า ‘ลับเฉพาะ ด่วนที่สุด’ นายตำรวจหนุ่มเปิดซองหยิบเอกสารภายในออกดู

          ท่านนายพลเอ่ยต่อด้วยเสียงเข้ม

          “ทางสำนักงานฯ เพิ่งได้รับแจ้งเมื่อไม่กี่วันมานี้เอง ว่าองค์การดาร์ดปริ้นซ์ ได้เข้ามายังประเทศของเราแล้ว แต่ยังไม่รู้แผนการของพวกมัน ว่าเข้ามาประเทศเราเพื่ออะไร?”

          “แล้วทำไมต้องเป็นผมด้วยล่ะครับหัวหน้า?”

          สายตาจ้องมองรายละเอียดของสำนักงานฯ อย่างคร่าวๆ

          “ผลงานต่างๆ ที่แกทำให้หน่วยสืบสวนฯ ของเรา โดยเฉพาะอย่างยิ่งเรื่องงานคุ้มกันมิสเตอร์แม๊คเคลย์ที่นอกเหนือความคาดหมาย ทำให้ผู้ใหญ่ต้องปรับเปลี่ยนกระบวนการกันใหม่หมด เรื่องนี้ได้ส่งข้อมูลไปทางอังกฤษด้วย ทำให้ความสัมพันธ์ของเราอาจจะมีแววดีขึ้นเหมือนเดิม ส่วนแกได้รับการพิจารณาเป็นกรณีพิเศษ ว่าทำไมการทำงานของหน่วยเราจึงไม่มีอำนาจเด็ดขาด ผู้ใหญ่จึงต่างลงความเห็นว่า ถ้าจะให้แกมีอำนาจสั่งการได้มากขึ้น มีวิธีเดียวคือ การแต่งตั้งให้เป็นนายร้อยตำรวจตรี”

          “แต่นั่นก็ไม่ได้หมายความว่าผมต้องทำหน้าที่ทุกอย่างนี่ครับ”

          “เอาเถอะวะสิทธิ์ งานนี้เป็นงานระดับชาติเชียวนะโว้ย ฉันอ่านคร่าวๆ แล้ว คำสั่งไม่ได้ระบุว่าแกต้องทำงานแบบไหน? กับใคร? ทั้งหมดขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของแกเอง อยากจะเอาใครเข้ามาร่วมมือด้วยก็ได้ หากแกสามารถที่จะสืบหาให้ได้ว่า จุดหมายของพวกมันคืออะไร? งานนี้ถือเป็นงานสายลับนะ”

          นายตำรวจตรีหมาดๆ นิ่งคิด

          “ไม่น่าจะยากเกินไปสำหรับแกนะสิทธิ์ แค่เฝ้าติดตามพวกมัน อย่างอื่นไม่ต้องทำ และงานนี้ไม่ได้ง่ายอย่างที่แกคิดหรอก ไม่อย่างนั้นทางสำนักงานฯ คงไม่โอนเรื่องนี้มาที่หน่วยของเรา และระบุอย่างชัดเจนว่า หัวหน้าชุดปฏิบัติการ คือร้อยตำรวจตรีสิทธิ์ธนู!!”

          ท่านผู้อำนวยการอธิบาย มือขวาลูบคางที่มีเคราเขียวครึ้ม

          ผู้หมวดหนุ่มนิ่งอึ้ง คิดไม่ถึงว่า เพียงชั่วเวลาข้ามคืน ที่เขาได้เป็นนายตำรวจสัญญาบัตรอย่างที่ต้องการ หน้าที่ความรับผิดชอบมันจะมากขึ้นอย่างนี้

          “รายละเอียดต่างๆ ขององค์การนี้อยู่ในเอกสารนั่นแล้ว แกไปอ่านเอง สงสัยอะไรก็ติดต่อมา ฉันจะได้ขอข้อมูลเพิ่มเติมให้”

           ________________________________________

          “งานนี้ฉันจำเป็นต้องขอความช่วยเหลือจากแกล่ะฤทธิ์”

          “แกนี่จริงๆ เลย ทุกเรื่องเลยสิวะ? มันไม่ใช่งานที่ฉันถนัดเลยนะโว้ย”

          “เถอะน่า...ลูกน้องของแกตั้งเยอะแยะ สายสืบก็อีกเพียบ มีอะไรที่แกยังไม่ถนัดอีกวะ ที่สำคัญกว่านั้นคือฉันวางใจแกที่สุด”

          เจอดอกนี้ผู้กองหนุ่มถึงกับยิ้มร่า แสดงความชอบใจ กล่าวตอบรับอย่างเสียมิได้

          “ก็ได้ๆ แล้วจะให้ช่วยยังไง?”

          “ช่วยสืบหาที่อยู่ของไอ้องค์การอุบาทว์นี้โดยเร็ว ใช้เครือข่ายที่มีอยู่ให้เกิดประโยชน์มากที่สุด”

          ผู้หมวดสิทธิ์ธนู คลี่เอกสารที่ได้รับให้กับผู้กองหนุ่มอ่านอย่างละเอียด

          ผู้กองเพื่อนรักอ่านอย่างพินิจพิเคราะห์จนเข้าใจในเนื้อความ

          “ฉันว่ามันมีอะไรที่น่าสงสัยไม่น้อยเกี่ยวกับองค์การนี้ว่ะ?”

          “เรื่องอะไร?”

          “ก็ในเมื่อเป็นองค์การที่ลับสุดยอด แล้วทำไมมีรายงานล่ะว่า ตอนนี้กำลังเข้ามาตั้งฐานที่ประเทศของเรา แสดงว่าต้องมีใครปล่อยข่าวมากกว่า”

          ผู้หมวดแห่งหน่วยสืบสวนฯ พยักหน้าใช้ความคิด แต่คิดยังไงก็ยังคิดไม่ออก

          “แต่ว่าแกอย่าลืมเรื่องไอ้มือปืนนั่นด้วยนะ”

          ผู้กองพยักหน้ารับอย่างเสียมิได้

          “เออ...เออ...ตอนนี้ก็ให้คนหาข่าวอยู่ล่ะโว้ย”

          “กระจอกหนึ่งเรียกรังใหญ่ กระจอกหนึ่งเรียกรังใหญ่”

          วิทยุสื่อสารประจำตัวขนาดเล็กของผู้กองหนุ่ม ดังขัดจังหวะการสนทนา ด้วยเรื่องที่สำคัญกว่า...

________________________________________

 โปรดติดตามตอนต่อไปใน วันเสาร์ที่ 1 มกราคม 2553

 

หมายเลขบันทึก: 322857เขียนเมื่อ 25 ธันวาคม 2009 11:52 น. ()แก้ไขเมื่อ 3 มิถุนายน 2012 11:54 น. ()สัญญาอนุญาต: สงวนสิทธิ์ทุกประการจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท