หมอฟัน สามก็ก และภาษาไทย


Appreciative Inquiry เพื่อการวิจัยการเรียนการสอนภาษาไทย (ตอนที่ 1)

เมื่อวานผมมีโอกาสถามอาจารย์ทันตแพทย์ท่านหนึ่ง สุภาพสตรีท่านได้รับการทาบทามเป็นผู้บริหารหลายครั้ง อายุไม่มากแต่อาจารย์ผู้ใหญ่ชอบ อาจารย์รุ่นใหม่ก็ชอบ ท่านเคยถามผมว่าทำไมเหรอ "เราไม่เห็นจะเก่ง ก็แค่อาจารย์เด็กๆ" ผมบอกเขาว่าในมุมมองของผมนั้น หามองในด้านของธุรกิจ เขามีความสามารถในการเป็นตัวกล่างโดยธรรมชาติ พูดตรงไปตรงมา แต่สุภาพ ลักษณะนี้ผมถือว่าเป็นคนมีชีดความสามารถในการ "สื่อสารสูง" ก่อนจะทำงานสำคัญจะถามเพื่อนร่วมงานและปรึกษาอาจารย์ผู้ใหญ่ ทั้งที่เป็นมิตรและไม่ค่อยชอบกัน ครับย้ำอีกครั้งว่าเธอมีขีดความสามารถในการสื่อสาร "ขั้นเทพ"

เมื่อวานผมเจอเธอก็เลยถามว่า "เด็กๆคุณชอบเรียนภาษาไทยไหม" เขาตอบว่า"ชอบสิ ชอบเรียน"  ก็เลยถามต่อ "ไอ้ที่ชอบเรียนนะชอบเรียนตอนไหนที่สุด" นึกสักพักเขาก็บอกผมว่า "ชอบวรรรณคดี กลอน สามก็ก หนังสือนอกเวลาพวกนี้แหละ และที่ชอบที่สุดคือชอบตอนที่ครูให้เขียนวิจารณ์ ว่าชอบไม่ชอบตรงไหน ตอนนั้นเป็นตอนม.ต้น เรียนที่สวนกุหลาบนนทบุรี"

 

แนวทางการวิจัยแบบนี้เริ่มจากการคัดเลือกกลุ่มตัวอย่างประเภทสุดขั้ว โดยลองเริ่มสังเกตคนที่สื่อสารเก่ง สามารถควบคุมการใช้ภาษาของตนให้ได้ผลตามที่ต้องการได้ จากนั้นเข้าไปสัมภาษณ์อย่างที่ผมลองทำมาข้างต้น ถามประสบการณ์การเรียนภาษาไทยที่ดีที่สุดของเขาด้วยคำถามแบบ AI แล้วเอาไปทดลองขยายผลในชั้นเรียน ลองให้นักเรียนอ่านวรรณคดีแล้วเขียนวิจารณ์ดูครับ แล้ววัดผลดูครับ นี่อาจนับเป็นงานวิจัยเพื่อแก้ปัญหาการเรียนการสอนภาษาไทยก็ได้ครับ ลองปรึกษาอาจารย์ที่ปรึกษาดูครับ  อาจลองเอาแนวคิดของ NLP กับเรื่องนี้ก็ได้นะครับ ดูเรื่อง Neuro Linguistic Programming (NLP) ได้ที่

 ที http://www.oknation.net/blog/print.php?id=383735

 

 

 

 

คำสำคัญ (Tags): #appreciative inquiry
หมายเลขบันทึก: 322561เขียนเมื่อ 24 ธันวาคม 2009 10:14 น. ()แก้ไขเมื่อ 6 กันยายน 2013 22:06 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (4)

ขอบคุณสำหรับภาพดีๆครับ คุณชาดา

ภาษาไทยสำคัญครับ

ผมเป็นคนนึงที่เอนทรานซ์ได้ตอน ม5 เพราะ ไทย กะ สังคม

เคยคิดบ้างไหมครับว่า คณิต ฟิสิกส์ เคมี ชีวะ อังกฤษ มันเป็นวิชาที่จำเป็น

และผมเองได้มีโอกาสเรียนพิเศษ วิชาเหล่านี้ เหมือนๆกับเพื่อนๆหลายคน

และถ้าจะให้ดีกว่านั้น (แทนคำว่า แต่ ครับ)

ผมได้มีโอกาส เรียน คอร์ส สังคม คอร์สสั้นๆแต่ มันส์โครตๆ

และอ่านหนังสือ ติวไทยเอนทรานซ์ ในสมัยนั้น 4 เล่ม

แล้วพยายามจับจุดให้ได้

ผมเองก็ เคย เป็น นักพูดสาระวิทยาศาสตร์ สมัย ม ต้น อยู่แล้ว

จึงขอยกความดีความชอบทั้งหมด ให้วิชารอง อย่าง สังคม กับ ภาษาไทย ครับ

ทั้ง 2 วิชาทำให้ผม ได้ไปเรียน มหาลัย เร็วกว่าเพื่อน 1 ปีเต็มๆ

ทุกวันนี้ ยังพยายามจะใช้ภาษาให้ถูกต้องครับ แม้จะ ตะกุกตะกัก อยู่บ้าง

เจ๋มากคุณม่อน ผมเคยทำคล้ายๆคุณเลย

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท