เมื่อประมาณเดือนกรกฎาคมอ้อได้รับการติดต่อจาก สสจ พิจิตรมาว่าอยากให้ไปสอนเรื่องการตรวจเท้าให้กับเพื่อนๆที่พิจิตรหน่อย แรกๆรู้สึกตื่นเต้นเหมือนกันที่จะได้เครือข่ายพร้อมทั้งมีเพื่อนร่วมอุดมการเพิ่มมากขึ้น แต่แล้วก็มากังวลใจพอควรเพราะผู้ประสานงานบอกว่าต้องการให้เกิดการบริการตรวจเท้าให้ผู้ป่วยเบาหวานทั้งจังหวัดพิจิตร ต้องมานั่งคุยกับทีมว่ามีใครว่างไปช่วยเพื่อนของเราบ้าง และพร้อมทั้งวางแผนการดำเนินการเพื่อไปเรียนรู้ร่วมกันกับเพื่อนๆชาวพิจิตรด้วย ด้วยพอจะทราบมาว่าพิจิตรก็มีหลายที่แล้วเหมือนกันที่ให้บริการตรวจเท้าผู้ป่วยเบาหวานแล้ว และทำได้เป็นอย่างดีด้วย เช่น โรงพยาบาลตะพานหินซึ่งได้คิดนวัตกรรมเรื่อง Monofilament เป็นต้น เราจึงตกลงร่วมกันว่าเราจะไปเล่าระบบที่เราทำงานกันอยู่นี่ล่ะให้ฟัง คิดว่าน่าจะประสบการณ์ที่ชาวพิจิตรเอาไปใช้เป็นประโยชน์ได้บ้าง
หลังจากประชุมทีมกันเพื่อตกลงเรื่องกระบวนการเรียนรู้แล้ว สิ่งที่สำคัญมากที่สุดคือการหาวันว่างที่ตรงกันของทีมงานเราด้วย พร้อมทั้งประสานความพร้อมกับทีมของพิจิตรด้วย ได้วันว่างตรงกันคือวันที่ 14 กันยายน 2552 รู้สึกว่าจะช้าไปหน่อย จริงๆแล้วอยากไปให้เร็วกว่านั้นแต่ในช่วงนี้ทีมงานแต่ละท่านมีงานล้นมือกันมาก
วันที่ 14 กันยายน 2552 ทีมงานของเราทั้งหมด 6 ชีวิต (รวมทั้งโชเฟอร์สุดหล่อของเราชื่อว่า พี่นิด)ออกเดินทางสู่จังหวัดพิจิตรตั้งแต่ 7.00 น มันเช้ามากเลยนะสำหรับตัวอ้อเอง เพราะปกติเวลานี้ยังไม่ตื่นเลย กว่าจะถึงที่อบรมซึ่งเป็นรีสอร์ทที่อยู่นอกตัวเมืองออกไป แต่จำชื่อไม่ได้ขอโทษด้วยนะคะ (ความจำสั้นค่ะ)ก็เกือบๆ 9 โมงเช้าแล้ว มีเพื่อนๆมารออยู่แล้วมากกว่าครึ่งแล้ว เพื่อไม่ให้เสียเวลาเราก็เริ่มกระบวนการเลย
เริ่มด้วยอ้อกล่าวทักทายเพื่อนๆ ให้ทีมพิจิตรเล่าถึงระบบงานเบาหวานที่ดำเนินอยู่ที่พิจิตร และถามถึงความคาดหวังที่มาในวันนี้
1.ต้องการเรียนรู้เรื่องการตรวจเท้า
2.อยากฟังระบบการให้บริการเบาหวานของโรงพยาบาลพุทธชินราช พิษณุโลก
3.อยากมาเรียนรู้ในทุกๆ เรื่องที่วิทยากรนำมา
4.อยากได้ตัวอย่างดีๆ กลับไปปรับใช้ในงานที่ทำอยู่
เมื่อทราบถึงความคาดหวังของเพื่อนๆ แล้ว อ้อค่อยคลายความกังวลลงเล็กน้อยเพราะเตรียมมาค่อนข้างตรง แหมเกร็งข้อสอบถูกเหมือนกันนะเนี่ย อ้อเลยเริ่มต้นด้วยการเล่าถึงระบบการบริการเบาหวานแบบบูรณการของพุทธชินราชเพื่อเป็นพื้นฐานที่จะเล่าต่อถึงการให้บริการในเรื่องการป้องก้น และดูแลภาวะแทรกซ้อนโรคเบาหวาน
อ้อเล่าถึงทฤษฎีการเกิดภาวะแทรกซ้อน(ตามความรู้ที่มีอยู่อันน้อยนิด) และการดูแลสุขภาพเท้าเบื้องต้น แล้วต่อด้วยคุณหนู(ทับทิม)เล่าเรื่องการตรวจประเมินหลอดเลือดส่วยปลาย และประสาทสัมผัสส่วนปลาย ถึงตอนนี้ใกล้เที่ยงพอดีแต่ดูสายตาเพื่อนแล้วมองเห็นความสนใจยังเต็มร้อย แสดงถึงทุกคนมีความตั้งใจร่วมกันในความต้องการพัฒนางานบริการผู้ป่วยเบาหวาน แต่ถึงเวลาพักกินข้าวแล้วก็พักซะหน่อยก็แล้วกัน
บ่ายโมงตรงเราก็เริ่มกระบวนการต่อไป โดยอ้อแนะนำเรื่องการนวดเท้าประจำวันของผู้ป่วย พร้อมทั้งให้เพื่อนทุกคนได้ทดลองปฏิบัติกับตนเองก่อน คราวนี้เริ่มมีทั้งเสียงโอดครวญว่า ทำไมไม่บอกก่อนจะได้ไปล้างเท้า บ้างก็ว่าเหม็นเท้าเพื่อน(ยอกล้อสนุกสนาน)แต่ก็มีเสียงหัวเราะตลอดเวลา ซึ่งอ้อให้เหตุผลที่ไม่บอกล่วงหน้าว่า อ้ออยากให้ผู้ให้บริการทุกคนทราบถึงความรู้สึกของผู้ป่วยเมื่อเขาต้องเอาเท้ามาให้เราดู เมื่อนวดเท้าเสร็จแล้วก็ต่อด้วยการบริหารเท้า ซึ่งเป็นท่าที่ได้เรียนรู้มาจาก อ.นพ.เชิดพงษ์ เมื่อครั้งไปร่วมงาน HA Forum ครั้งที่ 8 ขอขอบพระคุณมา ณ ที่นี้ด้วยนะค่ะ
หลังจากนั้นเราก็แบ่งเป็น 4 ฐานเพื่อฝึกปฏิบัติการตรวจเท้า และการดูแลภาวะแทรกซ้อนที่เท้า โดยฐานที่ 1,2 ฝึกเรื่องการตรวจหาค่า ABI และการใช้ Monofilament โดยมี น้องภู่(ปฏิพิมพ์),น้องเจี๊ยบ(ยุคลธร),น้องอุ๋ย(ปิลันธนา) เป็นวิทยากรประจำ 2 ฐานนี้ ส่วนฐานที่3,4 ฝึกการขูดหนังหนาตาปลา การตัดเล็บและการทำแผลเบาหวาน ซึ่งมีคุณหนูและอ้อเป็นวิทยากรประจำฐาน บรรยากาศในการฝึกมีทั้งความสนุกสนาน และความหวาดเสียวเมื่อมีมีดอยู่ในมือของเพื่อนๆ จบในการฝึกเมื่อเวลาประมาณบ่ายสองกว่า
ต่อด้วยการตอบข้อสงสัยในช่วงท้าย แต่เพื่อนๆร้องขออยากฟังเรื่องอาหารเบาหวานด้วย อ้อเลยขอเล่าเรื่องการลดน้ำหนักของตนเองอย่างได้ผล โดยการกินอาหารเหมือนคนไข้เบาหวานให้ฟังแทนหลังพุดคุยจบก็มีการซักถามกันมากพอควร
เสียงตอบรับ
1.ดีใจที่ได้มาฟังในวันนี้
2.จะนำสิ่งที่ได้ฟังในวันนี้ไปปรับใช้ในการพัฒนางานที่ทำอยู่ให้ดียิ่งขึ้น
3.มั่นใจในการตรวจเท้ามากยิ่งขึ้น คิดว่าจะกลับไปทำ
4.ไม่เคยไปอบรมที่ไหนแล้วต้องมานั่งนวดเท้าตัวเอง
5.อายเท้าตัวเองเหมือนกันนะ
6.ดูแล้วไม่ยากเท่าที่คิด
7.ชอบการอบรมแบบนี้มาก ไม่ง่วงนอน
แล้วเราก็จบการแลกเปลี่ยนกันด้วยความสุขทั้งฝ่ายผู้ให้ และผู้รับ อ้อก็หวังว่าสิ่งที่เรานำไปพูดคุยนั้น คงจะสร้างประโยชน์และเป็นเชื้อไฟเล็กๆ ให้กับเพื่อนๆ ชาวพิจิตรนะค่ะ ถึงเวลานี้พิจิตรคงจะมีระบบการให้บริการเบาหวานที่มีคุณภาพที่ล้ำหน้าพุทธชินราชไปแล้วก็ได้ อ้อและทีมจากพุทธชินราชขอเป็นกำลังใจให้นะค่ะ
อ้อ(เปรมสุรีณ์).....ผู้บันทึก
ดีใจมากเลยนะอ้อ ที่ได้อ่านบันทึกอันมีชีวิตชีวาระหว่างการเดินทางของน้องๆรวมทั้งได้เห็นภาพการแลกเปลี่ยนเรียนรู้กับเพื่อนๆชาวพิจิตรได้อย่างสนุกสนาน เดี๋ยวเราลองมาแกะรอยตามไปดูเพื่อนๆเรากันมั่งดีมั้ย...ว่ารุดหน้าไปถึงไหนละมีแต่เขามาดูเรา..เราไม่ได้ไปดูใครเล้ยย...แบบอาศัยไปแอ่วด้วยน่ะ... 555...
วิธีการที่อ้อใช้ดีมากเลยนะ
เสียดายที่อ้อไม่ได้ไปประชุม retreat กับพวกเรา คิดถึงมากเลย ดูแลสุขภาพดีๆ นะ ยังต้องทำงานด้วยกันอีกนาน
อ้อ ถ่ายทอดประสบการณ์เป็นเรื่องเล่าได้ดีนะ ได้ความรู้สึก เนื้อหาใจความ น่าอ่านเขียนบ่อยๆนะ