ชีวิตที่พอเพียง : ๙๐๙. วิจัยตลาดเงินเพื่อหาทางใช้ประโยชน์จากความไร้เหตุผลของมนุษย์



      หนังสือเรื่อง What the Dog Saw โดย Malcolm Gladwell กระตุ้นให้ผมเขียนบันทึกนี้


          ผมซื้อหนังสือเล่มนี้จากสนามบินภูเก็ต ด้วยความศรัทธาในชื่อผู้แต่ง    แต่เมื่ออ่านเรื่องแรกก็รู้สึกผิดหวัง   อาจเป็นเพราะผมอ่านรายละเอียดไม่รู้เรื่อง   ทั้งๆ ที่ผมชอบชื่อเรื่องรอง ที่บอกว่า “To a worm in horseradish, the world is horseradish”   ที่ผมคิดว่าโคลงโลกนิติ์ ให้ใจความเดียวกัน แต่ให้สุนทรีย์มากกว่า

                                       รู้น้อยว่ามากรู้         เริงใจ
                                   กลกบเกิดอยู่ใน          สระจ้อย
                                  ไป่เห็นชะเลไกล          กลางสมุทร 
                                  ชมว่าน้ำบ่อน้อย           มากล้ำ ลึกเหลือ

          แต่เมื่ออ่านไปถึงเรื่องที่ ๔ ชื่อเรื่อง Blowing Up ที่เล่าเรื่อง “คนบ้า ๒ จำพวก”    ที่เป็นนักใช้ข้อมูลวิเคราะห์ตลาดหุ้น   ที่ไม่เหมือนนักวิเคราะห์บ้านเรา ที่ใช้ข้อมูล (จริงๆ แล้วใช้สารสนเทศ) จากแหล่งอื่นมาใช้วิเคราะห์    คือยืมจมูกคนอื่นหายใจ   แต่ “คนบ้า” ในเรื่อง ๒ คนนี้ทำธุรกิจสำนักวิจัยครับ แต่ไม่ใช่วิจัยเพื่อตีพิมพ์ เป็นการวิจัยเพื่อเอาไปคาดการณ์ตลาดหุ้น   แล้วลงทุนเองหวังรวย

          สำนักวิจัยของ “คนบ้า” ทั้ง ๒ สำนักนี้ มีทีมงานที่มีความรู้สูงมาก    มีทั้งนักคณิตศาสตร์ระดับปริญญาเอก  นักศึกษาปริญญาเอก  นักไอซีที  นักจิตวิทยา  และนักฟิสิกส์    คือใช้ทั้งทฤษฎีขั้นสูง    การเก็บข้อมูลที่หลากหลาย   และการวิเคราะห์หาแนวโน้ม

          สำนวนการเขียนของ Malcolm Gladwell แพรวพราวน่าตื่นตาตื่นใจไปกับการพรรณาบรรยากาศของสำนักทั้งสอง ที่ต่างก็มีตำราในห้องสมุดหลายพันเล่ม    และมี computational power สูงมาก   และมีความเหมือนกันที่ “ความบ้า” quantitative analysis   โดยเขามีศัพท์สะแลง เรียกนักวิจัยเหล่านี้ว่า “quants”   และความเหมือนอีกอย่างหนึ่งคือต่างก็รวยมากจากการค้าหุ้น

          แต่ ๒ สำนักนี้ต่างกันโดยสิ้นเชิงในวิธีวิทยาลึกๆ ของการวิจัย   กลุ่มแรกที่รวยมานานกว่า รวยกว่า มีชื่อเสียงกว่า เน้นการวิจัยเพื่อหาแนวโน้มจากการศึกษาความมีเหตุผลของมนุษย์   อิง “ทฤษฎีระฆังคว่ำ” (normal curve)   แต่กลุ่มหลังเน้นการศึกษาความไม่มีเหตุผลของมนุษย์   พยายามวิจัยหาร่องรอยของการที่ส่วนปลายของเส้นโค้งรูประฆังทั้ง ๒ ข้างมันโป่ง   หรือกล่าวตรงๆ หาโอกาสที่ตลาดหุ้นจะไม่เป็นไปตามเหตุผล

          เท่ากับทั้ง ๒ สำนัก เป็นนักเล่นการพนันในตลาดหุ้นด้วยการซื้อขายสิ่งที่เขาเรียกว่า options   คือซื้อขายสิ่งที่ไม่มีคัวตน   เขาเป็นนักเล่นการพนันชั้นเซียน เพราะใช้ความรู้เชิงวิชาการสูงมาก สูงกว่านักวิชาการในมหาวิทยาลัยโดยทั่วไป   และเจ้าสำนักที่ ๒ กำลังอยู่ระหว่างตามวัดรอยเท้าเจ้าสำนักแรก   แต่วัดทีไรก็เหมือนเด็ก ๒ ขวบวัดรอยเท้าผู้ใหญ่

          เรื่องนี้จบแบบหักมุมว่าในช่วงฤดูใบไม้ร่วงปี ค.ศ. ๒๐๐๑ ตลาดหุ้นสหรัฐกำลังอยู่ในขาขึ้น   กูรูท่านแรกกวาดซื้อหุ้นอย่างมั่นใจ    แต่กูรูท่านที่ ๒ ขายหุ้นก้อนใหญ่มาก   แล้วไม่กี่วันต่อมาก็มีเครื่องบิน ๒ ลำบินมาชนอาคารแฝดของ World Trade Center   กูรูท่านที่ ๒ กลายเป็นเทพยดาในตลาดหุ้นทันที

          สุนัขไม่ได้รับรู้โดยการดูหรือใช้ประสาทตา เพียงอย่างเดียว   สุนัขยังรับรู้โดยใช้จมูกหรือประสาทกลิ่นด้วย    คนที่ทำกิจกรรมที่เสี่ยงสูง ต้องรู้จักดมกลิ่น

 

วิจารณ์ พานิช
๓๐ พ.ย. ๕๒
                
           
        

หมายเลขบันทึก: 322362เขียนเมื่อ 23 ธันวาคม 2009 11:42 น. ()แก้ไขเมื่อ 14 กุมภาพันธ์ 2021 07:05 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (1)
พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท