ว่าด้วยจิตวิญญาณฮักเมืองน่าน


กรอบรูปห้าเหลี่ยม หมายถึง กรอบของศีลธรรมอันดีงามและกรอบกติกาที่จะใช้ยึดโยงความสัมพันธ์ระหว่างมนุษย์และสิ่งแวดล้อม เพื่อการอยู่ร่วมกันอย่างสันติ กรอบห้าด้านที่เท่ากัน หมายถึง ความเสมอภาคระหว่างคนทุกเชื้อชาติ ศาสนา

ทุกๆ ปี เหล่าอาสาสมัครฮักเมืองน่านราว ๑๘ ชีวิต จะมานั่งล้อมวงทบทวนบทเรียนการทำงานร่วมกัน และวางแผนงานในรอบปีใหม่

ปีนี้ เราเริ่มถกกันถึงจิตวิญญาณของฮักเมืองน่านที่กลั่นออกมาเป็นสัญลักษณ์ของมูลนิธิฮักเมืองน่าน เพื่อย้ำเตือนสำนึกในจิตวิญญาณของผู้อาวุโสที่ถากถางทางให้เราเดินตาม

 

“มูลนิธิฮักเมืองน่าน”ชื่อย่อว่า “ฮมน.”

เครื่องหมายของมูลนิธิเป็นรูปห้าเหลี่ยม ตรงกลางมีอักษร ฮ.

 

อักษร ฮ.ในรูปห้าเหลี่ยมสื่อความหมายว่า เป็นพยัญชนะตัวสุดท้ายในภาษาไทย แสดงความเป็นเอกลักษณ์ด้านภาษา นอกจากนี้ยังเน้นความเป็นที่สุด การให้ความร่วมมือกันทำงานอย่างเสมอภาคในการเชื่อมโยงเป็นเครือข่ายในลักษณะเบญจภาคี

 

ปรัชญาที่แฝงไว้ในสัญลักษณ์ 

ตัว ฮ. มาจากคำว่า ฮัก ซึ่งเป็นภาษาเหนือ แปลว่า รัก เป็นการให้ความหมายถึงความรักในแผ่นดินถิ่นเกิด รักธรรมชาติ สิ่งแวดล้อม วัฒนธรรม ประเพณีอันดีงาม รวมทั้งความรักผูกพันกันของคนที่หลากหลาย แม้จะอยู่ต่างชนเผ่าและต่างเชื้อชาติ แต่มีหัวใจเดียวกันคือความรักและศรัทธาต่อสิ่งแวดล้อม ต่อถิ่นฐานบ้านเกิด

รัก นี้ยังหมายถึง รักแท้ ที่มาจากความเมตตา กรุณา มุฑิตา และอุเบกขา (พรหมวิหาร ๔)

กรอบรูปห้าเหลี่ยม หมายถึง กรอบของศีลธรรมอันดีงามและกรอบกติกาที่จะใช้ยึดโยงความสัมพันธ์ระหว่างมนุษย์และสิ่งแวดล้อม เพื่อการอยู่ร่วมกันอย่างสันติ กรอบห้าด้านที่เท่ากัน หมายถึง ความเสมอภาคระหว่างคนทุกเชื้อชาติ ศาสนา

เลข ๕ ยังหมายถึง เบญจภาคี, พละทั้ง ๕ (ศรัทธา, ความเพียร, ศีล, สมาธิ, ปัญญา) , ผัสสะ ๕ (ตา หู จมูก ลิ้น กาย)

ขีดเส้นลากจากมุมของกรอบ หมายถึง เส้นสายแห่งความสัมพันธ์ที่จะยึดโยงเอาผู้คน กลุ่มคน องค์กร และภาคีการทำงานต่างๆ เข้าเป็นเครือข่าย พร้อมที่จะถักทอและขยายความสัมพันธ์กันออกไปอย่างไม่หยุดนิ่ง

นอกจากนี้ตัวกรอบห้าเหลี่ยมและเส้นที่ขีดออกจากมุมนั้น เป็นสัญลักษณ์ของ “ตะแหล๋ว” ที่แสดงถึงความเป็นศิริมงคลของชีวิต และความเชื่อ ความศรัทธาของผู้คนที่มีต่อธรรมชาติและสิ่งที่อยู่เหนือธรรมชาติ

ตะแหล๋ว(เฉลว) เป็นสิ่งคุ้มครองความดี ป้องกันความชั่วร้าย เป็นสัญลักษณ์ของการเชื่อมคนกับฟ้าและดิน (ฟ้า หมายถึงสิ่งที่อยู่เหนือธรรมชาติ, ดิน หมายถึง บรรพบุรุษ ผู้อาวุโส)

 

ที่มา : เวทีสรุปบทเรียนอาสาสมัครฮักเมืองน่าน ๑๐ ธันวาคม ๒๕๕๒ ณ ศูนย์การเรียนรู้โจ้โก้ อ.ภูเพียง จ.น่าน

หมายเลขบันทึก: 321156เขียนเมื่อ 18 ธันวาคม 2009 11:42 น. ()แก้ไขเมื่อ 6 กันยายน 2013 22:05 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท