ภาระงานที่หนักอึ้ง...มิกล้าเผยให้ใครๆได้รู้ว่าขณะนี้ไม่ไหวแล้ว...ทำอะไรก็หลงๆลืมๆ...เคยคิดผ่อนคลายแต่ก็มิวายที่จะต้องหอบการหอบงานมาทำต่อที่บ้าน...เอ๊ะ คนอื่นๆเขาเหมือนกับเราบ้างหรือเปล่า ได้แต่คิด คิด คิด ยิ่งปัญหาหลากหลายปัญหาเข้ามารุมเร้าให้เราต้องคิด...แยกแยะไม่ถูกว่าจะเริ่มต้นอะไรก่อน อะไรหลัง อันโน้นก็สำคัญ อันนี้ก็สำคัญแถมยังมีงานอะไรอีกตั้งมากมายรออยู่ข้างหน้า...ที่คาดว่าจะต้องทำให้เสร็จ...มันก็ยังไม่เสร็จ...อดนอนมากๆโรคเก่าก็กำเริบ ปวดหัว ปวดต้นคอ ต้องทานยาขยายหลอดเลือดและคลายกล้ามเนื้ออยู่ตลอด...เพื่อหน้าที่....เพื่อหน่วยงาน.... เพื่อเพื่อนร่วมงาน...เพื่อนักเรียนที่เราต้องรับผิดชอบ...ทำไงดี(ใครจะรู้บ้างว่าตอนนี้สุขภาพกายสุขภาพจิตเราแย่มากๆ)ยิ้มไม่ออกแล้วค่ะ
"เหนื่อยแสนเหนื่อยเมื่อยล้าก็ต้องสู้
เพราะเป็นครูอีกผู้หนึ่งที่ต้องสรรค์-
สร้างลูกศิษย์ได้ตามจรรยาบรรณ
แต่สุขภาพนั้น อ่อนล้า แทบหมดแรง"
เราทำเพื่อคนอื่นมามากมาย
อย่าลืมทำอะไรเพื่อตัวเองบ้าง
(ใครจะรู้บ้างว่าตอนนี้สุขภาพกายสุขภาพจิตเราแย่มากๆ) ยิ้มไม่ออกแล้วค่ะ
เรียกรอยยิ้มกลับคืนมาให้ได้นะคะ
เพราะรอยยิ้มมันทำให้ชีวิตเราสดใสเสมอ
ถ้ามันหนักไป
ให้ "ช่างมันเถอะซะบ้าง" ก็ดูเป็นการผ่อนคลายดีค่ะ
เคยเป็นคนบ้าทำงานค่ะ
บ้าแบบไม่รู้ตัวด้วย
ตื่นแต่เช้าไปทำงาน
กลับถึงบ้านมานั่งทำงานต่อ ไม่เคยนอนก่อนเที่ยงคืน
อาการของโรคก็แบบนี้เลย
จนวันหนึ่งคนใกล้ตัวที่สุดเขามาพูดกับเราว่า
"เดือนหนึ่ง ขอเวลาวันหนึ่ง ที่จะไม่คิดเรื่องงานได้ไหม"
วันนี้อย่าลืมยิ้มนะคะ
สวัสดีค่ะน้องแสงดา
ขอบคุณในความห่วงใย
จะพยายามค่ะ