มาสร้างบ้านให้คนไม่รู้จักบ้านกันเถอะ


คนบ้า(น) เป็นคนไม่มีบ้าน เพราะไม่รู้ว่าบ้านคืออะไร รู้จักแต่พระราชวังสีรุ้งแห่งกรุงพาราณสี

กว่าสิบปี ที่ทำงานเป็นจิตแพทย์

หมอไม่เคยคิดว่า การเป็นหมอของพวกเขาต้องทำมากกว่าการสั่งยา และกระตุ้นไฟฟ้า

หมอไม่เคยต้องหัดร้องเพลง ก็ต้องหัดร้อง เพราะคนไข้จะไม่คุยด้วยถ้าหมอไม่ร้องเพลง

หมอต้องไปเรียนทำหนัง เพราะญาติไม่เชื่อว่าคนไข้หายดีแล้ว จนกระทั่งได้ดูหนัง

หมอต้องไปเรียนถักไหมพรม เพราะคนไข้ที่บวชเป็นพระหนาวกระหม่อมที่ไม่มีผมคลุม

หมอต้องไปเรียนทำขนม เพราะคนไข้อยากมีคุณค่า อยากมีรายได้จากการขายขนม

หมอต้องไปเรียนจัดดอกไม้ เพราะคนไข้อยากได้งานจัดดอกไม้เป็นอาชีพ

หมอออกเดินสายพอๆกับนักร้อง เพื่อเรียกร้องให้ผู้คนหันมามองเห็นคนไข้ของหมอ เหมือนกับที่หมอมองเห็น

      หมอมองเห็นว่าเขาเป็นคน    มากกว่าจะมองว่าเขาป่วยไข้

       หมอมองเห็นเขาเป็นคน      ที่ป่วยจนไม่รู้ว่าตัวเองป่วย

       หมอมองเห็นเขาเป็นคน      ทั้งที่บางทีเขาไม่รู้ว่าเขาเป็นใคร

      หมอมองเห็นความกลัว      ที่แฝงอยู่ในความก้าวร้าว

      หมอมองเห็นความเศร้า      ที่ซ่อนอยู่ในความหงุดหงิด

       หมอมองเห็นความสุภาพ     ที่ซ่อนอยู่ในความหยาบคาย

                      หมอมองเห็นความงดงามมากมาย

ยกเว้น  หมอมองไม่เห็นญาติ  และโอกาสกลับสู่การยอมรับของสังคม

       วันนี้พยาบาลรายงานว่า คนไข้ที่อาการดีและเป็นคนไข้ชั้นเยี่ยมที่หมออยากให้กลับบ้านนั้น  ญาติปฏิเสธที่จะมารับกลับ  และล่าสุด ปฏิเสะที่จะรับโทรศัพท์จากทางโรงพยาบาล  บอกแต่ว่า ไม่ไปรับมันหรอก  มันอยากกลับก็ให้กลับมาเอง

       วันก่อน หัวหน้าตึกแจ้งว่า คนไข้ของหมอค้างอยู่ในตึกเยอะที่สุด และนานที่สุด เพราะไม่มีญาติมารับ หรือตามหาญาติไม่เจอ ที่อยู่ที่ให้ไว้เป็นของปลอม

       อาทิตย์ที่แล้วรุ่นน้องอีกโรงพยาบาลหนึ่งก็โทรมาปรึกษาว่า พี่ คนไข้หนูเร่ร่อน มานานเท่าไรก็ไม่รู้ ถูกรถชนปางตาย หน่วยเคลื่อนที่นำส่ง ตอนนี้ผ่าตัดแล้ว แต่ไม่รู้บ้านอยู่ไหน ญาติชื่ออะไรก็ไม่รู้ พี่ช่วยเอาคนไข้ไปหน่อยได้ไหม

       คนไข้ที่ว่าถูกส่งมา พร้อมชื่อว่า ชายไทยไม่ทราบชื่อ

       ทั้งๆที่คนไข้พูดเสมอว่า ผมชื่อฉัตรเพชร  มังคละคีรี

        แต่มักจะตามมาด้วยเสียงหัวเราะเยาะหยัน และสายตาดูแคลน ไม่เชื่อถือเสมอ

        พ่อชื่อสมนึก มังคละคีรี แม่ชื่อแม่ตุ้น  พี่ชายชื่อรุ่งศักดิ์ มังคละคีรี

         ฉัตรเพชรพูดซ้ำๆ อย่างเดิม ทุกวัน

        ผมอยู่กุดชุม มุกดาหาร อยู่ตลาดสอง เขาพยายามจะบอกตำแหน่งของสถานที่ที่คุ้นเคย หรือบ้านซ้ำๆ ข้อมูลเหมือนเดิมทุกวัน

        แต่บ้านของฉัตรเพชรคงไกลเกินไป  ไกลเกินการรับรู้ของผู้คนจะได้ยิน

       เรื่องของฉัตรเพชรมันไม่เศร้า  ไม่เร้าอารมณ์  ไม่มีพ่อที่พลัดพราก และไม่ได้เป็น ตัวแทนประเทศไทยไปทำความดี

ฉัตรเพชร เป็นเพียงผู้ป่วยจิตเวช ที่สกปรก เร่ร่อน และกลับบ้านเองไม่ได้

    บ้านของฉัตรเพชรจึงไกลจนเกินกลับไปถึง

 

หมายเลขบันทึก: 316388เขียนเมื่อ 26 พฤศจิกายน 2009 22:10 น. ()แก้ไขเมื่อ 12 กุมภาพันธ์ 2012 10:59 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (3)

ไม่ง่ายเลยนะครับคุณหมอ มาให้กำลังใจ มีอะไรพอช่วยเหลือได้บอกนะครับ( แต่ไม่สามารถเป็นคนไข้ให้คุณหมอได้ ฮ่าๆๆ)

เอามาฝากครับ ที่ไร่

เมื่อวานนี้คนไข้ถามว่า เมื่อไร เสด็จพี่จะคืนสู่พระนคร กว่าจะรู้ว่าเขาพูดถึงบ้านในความฝันของเขา ก็กินเวลาตั้งนาน

บางวันเห็นคนไข้เดินเร่ร่อน ขยะกองนี้ก็บ้าน กองนั้นก็บ้าน กองโน้นก็บ้าน เลยต้องเลยตามเลยว่า อ๋อ....คุณมีบ้านหลายหลัง

สุดท้าย หมอก็ยัง งงๆว่าบ้านที่เราคิดถึง กับบ้านในความคิดของคนไข้เป็นหลังเดียวกันไหม

ตอนเป็นนักศึกษาพยาบาลปี 2 ฝึกงานที่ รพ. จิตเวช ได้ดูแลผู้ป่วย Schizophrenia ชาย อายุ 20 ปี น่าสงสารนะคะ มีโลกส่วนตัว ตอนนั้นจำได้ว่าเคสที่อาจารย์ assigned ให้พึ่ง admit  approach ยาก บางวันเธอไปนั่งใต้ต้นไม้ ยกมือ 2 ข้างจรดหน้าผาก แล้วก็พูดซ้ำๆ "ฟ้าดินเป็นพยาน" แล้วก็ได้แต่ยิ้มคนเดียว ใช้เวลาapproach อยู่ประมาณสัปดาห์เศษๆ ทำรายงานเคส อาจารย์ให้คะแนนเกรด เอ และได้ a good report ..ดีใจมากเพราะวิชาปฏิบัติไม่ว่าจะเป็นสูติ ศัลย์ Med เด็ก ได้ practicum เพียงเกรด 3 ค่ะ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท