นายเจตน์
นาย นายเจตน์ นายเจตน์ นายเจตน์

มองฟ้า... มองอดีต


แต่ที่เราเจอก็แค่.........โลกๆ.......... เท่านั้นเอง
นานๆ จะแหงนขึ้นมองฟ้าสักที มัวแต่ก้มหน้าก้มตาทำอะไรต่อมิอะไร มีสาระบ้างไม่มีบ้าง แต่พอได้แหงนขึ้นดูทองฟ้า ก็รู้สึกว่าได้มองตัวเองยังไงไม่รู้ อิอิ ไม่ได้หมายความว่าเราเป็นดวงดาวบนท้องฟ้าหรอกนะ จากที่เคยได้เรียนมา แสงระยิบระยับของดวงดาวที่เรามองกว่าจะเดินทางมาถึงโลกก็ใช้เวลาหลายล้านปี ดังนั้นสิ่งที่เห็นก็คือ...อดีต...นี่เอง อ้าว... แล้วไงเนี่ย ก็มองท้องฟ้า.. ก็ได้เวลาทบทวนตัวเองดูว่าเรายืนอยู่บนตำแหน่งที่ควรจะยืนหรือไม่นะสิ บางทีเราอาจไขว้เขวไปกับสิ่งแวดล้อมรอบข้าง หรือหลงตัวเองทั้งดีและไม่ดี ทำให้มันแกว่งไปแกว่งมาจนลืมปณิธาน ลืมอุดมการณ์ของเราไป เวลาที่มองท้องฟ้า จะมองเห็นตัวเองเล็กกว่าฝุ่นละอองบนโลกซะอีก อะไรที่เราเจอที่เราคิดว่ามันยิ่งใหญ่ซะเหลือเกิน ไปๆ มาๆ มันก็งั้นๆ มนุษย์เราจะหวังจะทำอะไรเกินตัวไปได้ แต่ที่เราเจอก็แค่.........โลกๆ.......... เท่านั้นเอง อดีตผ่านไป อนาคตก็ยังมาไม่ถึง วันนี้ทำอะไรให้ตัวเองภูมิใจหรือยังนะ?
หมายเลขบันทึก: 316295เขียนเมื่อ 26 พฤศจิกายน 2009 14:30 น. ()แก้ไขเมื่อ 21 มิถุนายน 2012 15:46 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (10)

สวัสดีคะ
มองฟ้าหาอดีตก็น่าคิดอยู่คะ
มองฟ้าหาอนาคตยิ่งน่าคิดกว่านะคะ

คนเรามองดาวด้วยความรูสึกต่างกัน
คู่รักเขามองดาวแล้วคิดถึงกัน
คนวัยเรียนวัยทะยานอยากมองดาวก็นึกถึงอนาคต
คนมีอุดมการณ์เขามองดาวเหมือนเครื่องนำทางไปคู่กับอุดมการณ์

มาร่วมแบ่งปันความคิดคะ

สวัสดีค่ะ

พี่ชอบมองฟ้า...หาเมฆค่ะ

เอามาประกอบ...การยกเมฆ

 

สวัสดีค่ะ

ขอบคุณนะคะที่แวะไปทักทายกัน

อยู่กับลมหายใจปัจจุบัน ก็มีความสงบดีนะคะ

อยู่กับปัจจุบัน มีสติระลึกรู้เฉพาะหน้าเหมือนที่คุณณัฐลดากล่าวก็เข้ารอยธรรมแล้วนะครับ

สวัสดีค่ะ

มองฟ้า ก็เกิดมรณานุสสติได้เหมือนกันนะคะ

ขอบคุณค่ะ

สวัสดีค่ะ...

ไม่ค่อยได้ทักทายกันเลยนะคะ อิอิอิอิ.....

สมาชิกคนรักน้องฟ้ากะนายเมฆ ก็ต้องชอบมองฟ้าค่ะ

หากแต่พยายาม อยู่กับ ปัจจุบัน ขอบคุณค่ะ

สวัสดีค่ะคุณเจตน์

ในหนังสือ ไม้พุทธประวัติของ ศาสตราจารย์ ดร.พเยาว์ เหมือนวงษ์ญาติ กล่าวถึงต้นสาละในพุทธประวัติมีข้อความว่า

" สาละ เป็นพืชพวกเดียวกันกับพะยอม เต็ง รัง อยู่ในสกุล "Shorea" ในวงศ์ " Dipterocarpaceae" ค่ะ

และว่า

" สาละ Shorea robusta Roxb. เรียกกันว่าสาละอินเดีย เพราะยังมีอีกต้นหนึ่ง เรียกว่า สาละลังกา หรือต้นลูกปืนใหญ่ (Cannonball Tree) เป็นพืชในวงศ์จิก Lecythidaceae (ปัจจุบัน จิกอยู่ในวงศ์ Barringtoniaceae) มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Couroupita guianensis Aubl) "

ดังนั้น สาละอินเดีย น่าจะเป็นต้นที่หมายถึงในพุทธประวัตินะคะ

ขอบคุณที่แวะไปเยี่ยมบันทึกไม้พุทธประวัตินะคะ

มองท้องฟ้า จะเห็นว่าเป็นที่โคจรของดวงอาืืทิตย์และดวงดาว ชีวิตเราก็จะคล้ายกับสิ่งนั้น ชีวิตที่พบเจอความสุขจะเหมือนมองแล้วเจอพระอาทิตย์ หากเจอความทุกข์ก็จะมองเห็นดวงดาวที่มีแสงริบๆ แต่จะเป็นอย่างไรก็ตามเราควรที่จะมีสติดีกว่า

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท