"ภาวะเครียด” ภัยร้ายคร่าชีวิตคน

"ภาวะเครียด” ภัยร้ายคร่าชีวิตคน

ภาวะเครียด เป็นเรื่องของจิตใจที่เกิดจากความตื่นตัว เตรียมเผชิญกับเหตุการณ์อย่างใดอย่างหนึ่งซึ่งไม่น่าพึงพอใจ หรือคาดไม่ถึง เป็นเรื่องที่เราเองคิดว่าหนักหนาสาหัสเกินกำลังความสามารถที่จะแก้ไข้ได้ ทำให้เกิดความรู้สึกหนักใจ กังวล ไม่สบายใจ หรือแม้แต่คับข้องใจ และส่งผลให้เกิดอาการผิดปกติทางร่างกายเกิดขึ้น หากว่าความเครียดนั้นมีมากและคงอยู่เป็นระยะเวลานาน
แต่ทว่าความเครียดที่ไม่มากนัก จะเป็นแรงกระตุ้นที่ดี ช่วยให้คนเราเกิดแรงฮึดมุมานะที่จะเอาชนะปัญหาและอุปสรรคต่างๆ แต่หากเรามีความเครียดมากมาย และไม่รู้จักผ่อนคลาย และหากปล่อยไว้นานเข้า อาจมีปัญหาความผิดปกติทางร่างกายและจิตใจได้ในที่สุด

สาเหตุจากความเครียดมีสาเหตุ 3 ด้าน ได้แก่

1.สาเหตุทางด้านจิตใจ เช่น ความกลัวว่าจะไม่ได้ดั่งหวัง กลัวจะไม่ประสบความสำเร็จ หนักใจกังวลใจในงานที่ได้รับมอบหมาย หรือแม้แต่กลัวกังวลสิ่งที่ยังมาไม่ถึง

2.สาเหตุที่เกิดจากการเปลี่ยนแปลงในชีวิต เช่น การเปลี่ยนช่วงวัย แต่งงาน การตั้งครรภ์ การเข้าทำงานหรือเปลี่ยนงาน หรือเปลี่ยนที่เรียน

3.สุดท้ายคือสาเหตุจากการเจ็บป่วยทางร่างกาย เช่น การเจ็บไข้ต่างๆ โรคที่รุนแรง และเรื้อรัง หรือโรคที่คาดว่าถึงแต่ชีวิตในที่สุด

ดังนั้นใครที่คิดว่าอยู่ในภาวะ เครียด ลองมาบำบัดความเครียดด้วยวิธีง่ายๆ ดังนี้

• ออกกำลังกาย กีฬาจะทำให้เราได้ระบายออกซึ่งแรงขับของจิตใจในด้านต่างๆ เช่น ความคับข้องใจ ความโกรธ ความเสียใจ ไม่พอใจ

• พูดระบายความเครียด โดยเลือกบุคคลที่ไว้วางใจได้ และมีความอดทนสูงในการฟัง แล้วเล่าปัญหาหรือความเครียดต่างๆ ให้ฟัง ถึงแม้เข้าจะไม่สามารถช่วยหาทางออกให้ได้ แต่อย่างน้อยคุณก็ได้บรรเทาความกดดัน และรู้สึกเครียดได้ หรือถ้าหาไม่ได สัตว์เลี้ยงก็สามารถใช้แทนได้เหมือนกัน

• นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ อย่างน้อย 8 ชั่วโมง

• ทานอาหารคลายเครียด ซึ่งได้แก่ ทริปโตฟาน (1-2 กรัม ก่อนนอน) พบได้ใน ไข่ ถั่วเหลือง นมวัว เนื้อสัตว์, วิตามินบี 6 ( 40 มิลลิกรัมต่อวัน๗ พบในธัญพืชต่างๆ ยีสต์ รำข้าว เครื่องใน เนื้อ ถั่ว ผัก, วิตามินบี 3 (1,000 มิลลิกรัมต่อวัน) พบในตับ เครื่องใน เนื้อ เป็ด ไก่ ปลา ถั่ว ยีสต์ และสารอาหารอื่นๆ เช่น แคลเซียม กระเทียม ดอกไม้จีน

• พักผ่อนด้วยการท่องเที่ยว

• ฟังดนตรีคลายเครียด อาทิ บีโธเฟน ไชคอร์ฟสกี โมสาร์ท หรือจะฟังดนตรีไทยเดิมบ้านเราก็ได้เช่น ค้างคาวกินกล้วย อีกกลุ่มที่ดีมากได้แก่ กลุ่มเสียงธรรมชาติ เช่น น้ำตก นกร้อง เสียงคลื่นเบา เป็นต้น

• ใช้กลิ่นบำบัด อะโรมาเธอราปี กลิ่นเป็นอีกสิ่งหนึ่งของการรับรู้ทางสัมผัสที่สื่อถึงอารมณ์และความรู้สึกได้ดี คุณอาจลองจุดธูปหอมกลิ่นที่สดชื่น หรือหยดน้ำมันหอมระเหยแล้วนอนหรือทำงานผ่อนคลายไปด้วย ควบคู่ไปกับการแช่น้ำอุ่นๆ กิล่นที่ช่วยผ่อนคลายได้ดีคือ กลิ่นไม้จันทน์หอม กลิ่นกำยาน กลิ่นการบูน กลิ่นส้ม กลิ่นมะนาว สำหรับสร้างความสดชื่น

• ฝึกหายใจคลายเครียด การหายใจจะช่วยนำอากาศที่บริสุทธิ์เจ้าสู่ปอดและเดินทางสู่สมองตลอดจนร่างกายโดยการหายใจเข้าลึกๆ ช้าๆ สังเกตว่ากระบังลมขยายออก ท้องป่องออก จากนั้นค่อยๆ หายใจออกช้าๆ ไล่ลมให้ออกมากที่สุด ตอนนี้กระบังลมคุณจะหดสั้นลง ท้องจะแฟบ ถ้าช่วงแรกไม่ถนัดก็เอามือแต่ท้องเพื่อปรับและเข้าใจสภาพป่องแฟบของท้องอันเนื่องมาจากการหายใจก่อนก็ได้

• เทคนิคการผ่อนคลายกล้ามเนื้อ โดยสามารถนำเอาหลักการฝึกหายใจมาประยุกต์ใช้ร่วมด้วย เริ่มด้วยการนั่งหรือนอนในท่าที่สบายๆ จากนั้นค่อยๆ เกร็งกล้ามเนื้อส่วนต่างๆ ขึ้นมาโดยอาจไล่จาก ปลายเท้า ข้อเท้า น่อง ต้นขา ลำตัว แขน มือ นิ้ว ไหล่ คอ ศีรษะ และใบหน้า เกร็งไว้สักอึดใจหนึ่ง จากนั้นค่อยๆ ผ่อนคลายย้อนกลับไป โดยเริ่ม ใบหน้า จนถึง ปลายเท้า คุณสามารถใช้การฝึกผ่อนคลายกล้ามเนื้อในยามที่คุณรู้สึกตึงเครียด อึดอัด หรือไม่สบายใจ

นอกจากวิธีเหล่านี้แล้ว การฝึกฝนให้รู้เท่าทันอารมณ์ของตนเอง และการรู้จักปล่อยวาง เป็นสิ่งสำคัญที่ทำให้คุณมองทะลุ เข้าถึงเหตุและผลของการเกิดอารมณ์ได้เป็นอย่างดี และช่วยให้สามารถควบคุมความเคียดที่กำลังเกิด ณ ขณะนั้น อันจะส่งผลให้คุณไม่ต้องทุกข์ทรมานกับ โรคเครียด อีกต่อไป

เรียบเรียง โดย  สุภาภรณ์  แป่มจำนัก นักจิตวิทยา

[โรงพยาบาลห้วยแถลง]

มีคนพูดว่าการมีความเครียดนิดๆ จะเป็นการกระตุ้นพลังชีวิต แต่ถ้าเครียดมากไปจะเป็นผลเสียต่อร่างกาย ดังนั้นเราควรมีวิธีปลดปล่อยความเครียด ส่วนจะเป็นวิธีใดก็แล้วแต่แต่ละคนจะชอบ เลือกได้ตามอัธยาศัย

หมอติ๋มจ๊ะ

[โรงพยาบาลห้วยแถลง]

วิธีครายเครียดของผมคือ การอยู่กับคนที่เรารัก...//สมโภชน์

[โรงพยาบาลห้วยแถลง]

หมั่นไส้สมโภชน์สุดๆ สตรอว์เบอร์รี่เกินไปแล้วเธอ

พี่เป้า

[โรงพยาบาลห้วยแถลง]

จน เครียด กินข้าว ///ต๊ะ