เทคโนโลยีสารสนเทศกับแนวโน้มโลกในอนาคต
นานนับทศวรรษแล้วที่มนุษย์ดิ้นรนแสวงหาเครื่องมือและวิทยาการใหม่ๆเพื่อการอยู่รอดและความสะดวกสบายของมนุษย์ บางสิ่งมองด้วยตาเปล่าไม่เห็น บางสิ่งก็กว้างใหญ่เกินกว่าที่จะรู้ขอบเขตของมัน ก็เชื่อกันว่าถ้าเราสามารถมองเห็นสิ่งต่างๆได้เราจะเรียนรู้และเข้าใจเรื่องราวรอบตัวมากขึ้น ตราบใดที่ภาพยังไม่ปรากฏสู่สายตาความสงสัยคลุมเครือ จะวนเวียนอยู่ในความคิดไม่เลือนหาย
บัดนี้ด้วยข้อมูลสารสนเทศและเทคโนโลยีที่ทันสมัยทำให้ความก้าวหน้าทางวิทยาศาสตร์
อย่างถึงขีดสุด มนุษย์สามารถถ่ายภาพสิ่งที่เชื่อกันว่าเล็กสุดในเอกภพสิ่งที่เคยสงสัยว่าไม่มีอยู่จริงตลอดจนสิ่งที่ไกลจนเกินกว่าจะจินตนาการได้หลายด้านไปถึงยกตัวอย่างเช่นทางด้านการแพทย์ก็มีการการศึกษากายวิภาคโดยปราศจากมีด เป็นเวลาหลายร้อยปีมาแล้วที่เราศึกษาโครงสร้างของมนุษย์ด้วยวิธีผ่าหั่นศพที่อยู่ในสภาพที่สมบูรณ์ แม้ในช่วงไม่กี่สิบปีที่ผ่านมาการตรวจวินิจฉัยโรคร้ายบางชนิดยังคงต้องใช้วิธีการผ่าตัดเพื่อหาความผิดปกติ ทุกวันนี้เรามีเครื่องตรวจวิเคราะห์
(scanner)ที่น่าอัศจรรย์ซึ่งสามารถสำรวจตรวจสอบสิ่งที่นักวิทยาศาสตร์การแพทย์ได้คาดคะเนไว้ตามหลักทฤษฎีจนถึงปรากฎการณ์แปลกประหลาดสุดขั้วจินตนาการเราสามารถค้นหาตำแหน่งที่ตั้งของมะเร็งเนื้อร้ายระบุตำแหน่งความผิดปกติที่ตำแหน่งกล้ามเนื้อกระดูก ติดตามการไหลเวียนของโลหิตผ่านเส้นเลือดแดงเส้นเลือดดำโดยไม่จำเป็นต้องลงมีดกับผู้ป่วยเรายังสามารถจัดทำแผนที่แรงดลทางไฟฟ้าและเคมีที่ปรากฏขึ้นภายในสมอง ร่างกายมนุษย์กลายเป็นสิ่งที่โปร่งใสสามารถมองเห็นได้ทะลุปรุโปร่งอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน
นี่เป็นแค่ด้านหนึ่งเท่านั้นที่เทคโลโลยีสารสนเทศเข้ามาส่วนในโลกยังมีด้านอื่นๆอีกมากมาย ทั้งด้านการสื่อสาร การศึกษา เป็นต้น ทุกวันนี้เทคโลยีสารสนเทศไม่ได้หยุดแต่เพียงแค่นี้เนื่องจากมนุษย์ยังคงศึกษาอยู่ตลอดยิ่งมนุษย์รู้มากรู้ลึกเท่าไรเทคโลโลยีสารสนเทศยังคงพัฒนาต่อไปเรื่อยๆอย่างไม่มีที่สุด
ไม่มีความเห็น